8 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก St. Petersburg รัสเซีย
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Saint Petersburg ประเทศรัสเซีย พบสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่ถูกขนานนามกันว่ามีผู้หญิงสวยที่สุดในโลก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็งดงามดุจราชินีแห่งยุโรปเหนือ
แหม่.. แค่ฉายายังอลังการซะขนาดนี้ค่ะท่านผู้ช้มมมม ผู้คนต่างกล่าวขานว่า เป็นเมืองที่ทั้งสวยงาม เจริญรุ่งเรือง และมีสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยม ที่นี่จัดเป็นเมืองที่สวยงาม และร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยนะคะ แถมยังเป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกด้วย วะวะวะ ว้าววววววว!
เมืองนี้ตั้งอยู่ปากแม่น้ำเนวา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของรัสเซียค่ะ บอกเลยว่า การที่ได้มาเที่ยวชมที่นี่นั้น คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ได้ชมศิลปะอันล้ำค่ามากมาย ที่รายล้อมไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ต่างๆ ว่าแล้ว เราไปชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกันเลยดีกว่าค่ะ หญิงปุ๊กจะเป็นตัวแทนรองเท้าสึกให้ทุกท่านเอง 55555 ลุยยยย!
เที่ยวพระราชวังฤดูหนาว Hermitage Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ วัฒนธรรมที่สำคัญ ที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกเชียวนะคะ ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1764 ออกแบบโดย Carlo Rossi ขอบอกว่าหรูหรา ยิ่งใหญ่อลังการมากกกกกกกๆ ค่า ที่ถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่โตมากขนาดนี้ก็เพื่อแสดงถึงอำนาจและความรุ่งโรจน์ของซาร์แห่งจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งแต่เดิม พระราชินีแคทเธอรีนได้เก็บรวบรวมภาพเขียนชื่อดังไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก จนต้องสร้างห้องสำหรับเก็บภาพและสมบัติล้ำค่าขึ้นมา โดยมีน้อยคนนักที่จะได้เห็น
ต่อมา ได้มีการจัดหมวดหมู่ของสะสมทั้งหมด และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ค่ะ ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียวขาวด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก ตัวอาคารมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใหญ่โตมาก ภายในมีห้องต่างๆ มากกว่าพันห้อง หูวววววววว ยัง ยังไม่หมดค่ะ ทุกท่านจะต้องตื่นตาตื่นใจเมื่อพบกับความสวยงามอลังการ ตระการตากับศิลปะภาพวาดและโบราณวัตถุล้ำค่ามากมายจากจิตกรเอกที่โด่งดังของโลก มากกว่า 3 ล้านชิ้นค่ะ ซึ่งควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งค่ะ จัดเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยนะค้าาา
เที่ยวพระราชวังแคทเธอรีน Catherine Palace
พระราชวังที่งดงามและล้ำค่าแห่งนี้อยู่ที่เมือง Pushkin ห่างจากตัวเมือง St.Petersburg ประมาณ 25. กมค่ะ ก่อสร้างขึ้นในปี คศ 1717 โดยพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีองค์โปรดของปีเตอร์มหาราช ซึ่งได้ครองราชย์หลังจากปีเตอร์มหาราชสวรรคต จึงสร้างวังแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ในสไตล์สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค
พระราชวังถูกต่อเติม และตกแต่งใหม่มาหลายยุคหลายสมัยค่ะ ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดว่ากันว่า ทั้งพระราชวัง รูปปั้น รวมถึงหลังคา ได้ตกแต่งด้วยทองคำแท้เลยนะคะ ผนังห้องประดับด้วยลายปูนปั้นต่างๆ เพดานเขียนภาพเฟรสโก้ เป็นพระราชวังหลวงมีความสวยงาม หรูหรา อลังการ 100ดาว มากกกกกค่ะ
ที่พลาดไม่ได้คือในส่วนของห้องอำพันค่ะ เป็นความร่วมมือระหว่างช่างฝีมือชาวเยอรมัน และชาวรัสเซีย การก่อสร้างห้องเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1701 สร้างขึ้นตามบัญชาของกษัตริย์ฟรีดริช วิลเฮล์ม ที่ 1 และได้มอบให้แก่ พระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย ในปี 1716 เพื่อแสดงถึงมิตรภาพที่ทางโซเวียตเป็นพันธมิตร ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ตั้งแต่ผนังถึงเพดานทำด้วยอำพันทั้งหมดค่ะ ตกแต่งด้วยทองคำเปลวและกระจกอย่างวิจิตรงดงาม จนได้รับสมญาว่าเป็น สิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโลกด้วยค่าา
ต่อมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก ห้องอำพันนี้ได้ถูกรื้อถอน และหายไป จึงสร้างห้องอำพันขึ้นมาใหม่ ณ พระราชวังแคทเธอรีนแห่งนี้ค่ะ ปัจจุบันห้องอำพันนี้ได้กลับมางดงามพร้อมอวดชาวโลกอีกครั้ง จัดได้ว่าเป็นห้องที่มีความสวยงามมากที่สุดในแคทเธอรีนพาเลซอีกด้วยค่า
เที่ยวพระราชวังฤดูร้อน Peterhof
พระราชวัง Peterhof หรือ Petrodvorets อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง St. Petersburg ค่ะ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก เป็นพระราชวังที่สวยงาม โดดเด่น ไม่เหมือนใคร สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ออกแบบโดย นักออกแบบสถาปัตยกรรมชาวรัสเซีย Jean-Baptiste Le Blond ซึ่งได้รวมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม เข้ามาสอดสานความงามของศิลปะเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว แถมยังมีความทันสมัยอีกด้วยนะคะ โดยใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 10 ปีแน่ะ!!
สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและล่าสัตว์ในฤดูร้อนของกษัตริย์รัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวพระราชวัง สวนตอนล่างและสวนตอนบน บริเวณสวนนี่ทั้งกว้างขวางและสวยงามฝุดๆ เลยค่ะ
และที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ก็คือ น้ำพุ ที่สุดแสนจะอลังการ จัดเป็นสวนน้ำพุที่ยิ่งใหญ่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเชียวน้า! อีกทั้งการสร้างน้ำพุบนเนินดินเลนชื้นแฉะเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น แต่ก็สามารถสร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไปเลยยยย
แม้ว่าตัวพระราชวังแห่งนี้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนค่ะ ส่วนภายในพระราชวังนั้น ล้วนตกแต่งอย่างปราณีตงดงามตระการตา แต่ละห้องมีความงดงาม โดดเด่น สีทองอร่ามตา ทำให้รู้สึกราวกับว่าได้หลุดเข้าไปยังดินแดนแห่งเทพนิยายที่งดงามชวนฝัน ต้องขอยกให้เป็นอีกหนึ่งในพระราชวังของประเทศรัสเซียที่มีมนต์เสน่ห์อีกแห่งเลยก็ว่าได้ค่า
เที่ยววิหารเซ็นไอแซค St. Isaac's Cathedral
วิหาร St. Isaac's Cathedral ว่ากันว่า เป็นวิหารที่มีการตกแต่งอลังการมากที่สุด ยอดโดมฉาบด้วยทองคำแท้ 100 กิโลกรัม และภายในใช้หินอ่อน และหินอื่นๆ กว่า 43 ชนิด แต่เดิมเคยเป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์ปีเตอร์มหาราช และพระนางแคทเธอรีน
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้น จึงได้มีการก่อสร้างขึ้นใหม่ ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1818 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชื่อ Auguste de Montferrand โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 40 ปีเลยนะคะ มีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ และบาโรก ตัววิหารใหญ่โต สีขาวบริสุทธิ์ ประดับด้วยประติมากรรมเหล็กอันงดงาม เป็นโบสถ์ออร์โทดอกซ์แห่งเดียวที่ประดับประดาตกแต่งด้วยกระจกสีค่ะ
ที่นี่สามารถมองวิหารแห่งนี้ได้ชัดจากที่ไกลๆ และเราที่อยู่ ณ วิหารนี้ ก็สามารถชมทัศนียภาพรอบๆ ของเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กได้เช่นกันค่ะ เป็นทำเลที่เหมาะเจาะดีมากๆ ฮี่ๆ ภายในประดับประดาด้วยประติมากรรมบอร์น สวยงามมากๆๆๆ เห็นได้ถึงความปราณีต สวยงามทุกรายละเอียดจริงๆ ค่ะ มีภาพวาดที่สำคัญๆ กว่า 400 ชิ้น
ที่โดดเด่นคือ โดมทองขนาดมหึมาที่สง่างาม ถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองค่ะ และ ภาพไอคอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นรูปเซนต์นิโคลาสเซนต์ปีเตอร์ ใช้สีเป็นหมื่นสี การทำโมเสกนี้ต้องใช้เวลานานมาก งบที่ทำก็สูงมากอีกด้วยค่ะ นอกจากภาพวาดแล้ว ยังมีประติมากรรมที่สวยงามอย่างอื่นอีกมากมาย ทั้งภาพแกะสลักนูนต่ำ รูปแกะสลักหินอ่อน เช่น รูปของ Montferrand สถาปนิกคนสำคัญ รูปหล่อสำริด แร่หินชนิดต่างๆ
วิหารแห่งนี้เดินทางสะดวกค่า สามารถเดินได้ ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจค่ะ ^^
เที่ยวโบสถ์แห่งหยดเลือด Church of Christ's Resurrection
โบสถ์แห่งหยดเลือด เป็นโบสถ์ที่สวยงาม แต่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งความเศร้าค่ะ เป็นอนุสรณ์ที่พระเจ้าอเล้กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระบิดา หรือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งถูกลอบปลงพระชนม์บริเวณนี้ ในปี ค.ศ. 1881 จากประวัติ ก็เล่ากันว่า พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 พยายามที่จะปลดปล่อยชาวนาและกรรมกร ทำให้เหล่าขุนนางที่เสียประโยชน์เกิดความไม่พอใจ ถึงลอบพระชนม์ บางแหล่งก็เล่าว่าชาวนาไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงทำให้ไม่พอใจ สรุปก็คือไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์ได้รับความเสียหายจากระเบิด หลังสิ้นสุดสงครามจึงได้มีการบูรณะใหม่ ปัจจุบันตั้งโดดเด่นด้วยสีสันสวยงามสะดุดตา อยู่ริมคลอง Griboyedov ไม่ว่าใครที่ได้เห็นจะต้องชะเง้อมองดูความงามอย่างแน่นอนค่ะ ด้วยรูปแบบศิลปะยุคฟื้นฟู ที่ทุกคนจะต้องตะลึงกับความอลังการตั้งแต่ด้านนอกจนเข้ามาด้านในเลยล่ะค่า จากพื้นจรดเพดาน รวมทั้งฝาผนัง เป็นงานภาพ งานโมเสก ละเอียดและสวยงามทุกตารางนิ้ว ด้วยความวิจิตรบรรจงจาก ฝีมือจิตกรกว่า 30 คน สะกดสายตามากๆค่ะ ทั้งงดงามและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง น่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน และยังมีร้านขายของที่ระลึกสวยงามมากมาย ราคาไม่แพงมาก มีให้เลือกหลากหลาย ไว้เป็นความทรงจำกลับไปด้วยค่า
เที่ยวมหาวิหารคาซาน Kazan Cathedral
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปีค.ศ. 1708 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนเนฟสกี้ ถนนเส้นหลักของตัวเมืองเลยค่ะ เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสขึ้น จึงได้นำรูปปั้นของผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเรือ คือ Mikhail Kutuzov และ Barclay de Tolly มาจัดแสดงเป็นอนุสรณ์ไว้ด้านหน้าด้วยค่ะ
มหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะรูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินวางเรียงแถวยาวอย่างเป็นระเบียบ ประกอบไปด้วยเสาโรมัน 96 ต้น และโดมขนาดใหญ่ซึ่งมียอดสูงถึง 90 เมตร และยังมีสวนสาธารณะซึ่งเป็นนิยมของชาวรัสเซีย ที่มาพักผ่อนหย่อนใจ หรือที่นัดพบปะ และในฤดูร้อนผู้คนนิยมมายืนอาบแดด อ่านหนังสือกัน ถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีเลยดีเดียวค่า
ด้านใน มีผู้คนมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและสักการะขอพร บรรยากาศจะแตกต่างกับด้านนอกอย่างชัดเจนค่ะ มีแสงสว่างอ่อนๆ จากเทียน แชนเดอเลียร์ที่ห้อยลงมา และแสงที่ลอดเข้ามาจากด้านนอกวิหาร ผนังตกแต่งด้วยโทนสีครึมๆ ตัดกับเครื่องประดับสีทอง สวยงามคสาสลิคดีค่ะ มีรูปพระแม่มาเรีย ที่วาดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 ภายในมีแต่ความเงียบสงบ จนได้กลิ่นอายของความเชื่อ ความศรัทธาในคริสตศาสนาลอยอบอวนไปทั่ว มาสงบจิตใจ และขอพรที่นี่ก็ดีทีเดียวนะคะ
เที่ยวป้อมปีเตอร์แอนด์ปอล Peter and Paul Fortress
ที่นี่เป็นสิ่งแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กค่า สร้างขึ้นปี ค.ศ 1703 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตั้งอยู่บนเกาะวาซิลเยฟสกี้ (Vasilievsky Island) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมืองเลยนะคะ มีความสูงถึง 122.5 เมตรแน่ะ โว้ววววว ลักษณะเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม กำแพงเป็นหิน ก่ออิฐ สร้างเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู
บริเวณวิหาร Peter and Paul ตัวหอระฆังสูงมากๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เวลาสร้างราวๆ 21 ปี เพื่อเป็นเกียรติ์แด่ นักบุญปีเตอร์ และนักบุญปอลด์เพื่อเป็นการเผยแพร่ศาสนาค่ะ
ปัจจุบันใช้เป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมือง นักโทษคนแรกคือ ซาร์เรวิช โอรสองค์โตของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชนั่นเอง สาเหตุเพราะมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกับพระองค์มานาน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้ฝังหลุมพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และพระบรมศานุวงศ์แห่งราชวงศ์โรมานอฟ
ส่วนหนึ่งในบริเวณรอบๆ ยังมีโรงงานผลิตเหรียญกษาปณ์ของรัฐบาลอีกด้วยค่ะ ภายในทำการตกแต่งด้วยศิลปะบารอก (Naryshkin Baroque) ซึ่งนับว่าแตกต่างกับโบสถ์คริสต์ออร์โทดอกซ์ทั่วไป มีภาพเขียนของนักบุญ รวมทั้งตำนานรูปพระแม่อันศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม อันเป็นที่เลื่อมใสของคริสต์ศาสนิกชนแห่งคาซานและทั้งรัสเซีย มาที่นี่จะได้ความรู้ประวัติศาสตร์ของรัสเซียเพิ่มขึ้นอีกมากเลยล่ะค่ะ
ช้อปปิ้งถนนเนฟสกี้ Nevsky Prospekt
ถนนเส้นนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะถนนประวัติศาสตร์ศูนย์กลาง แห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กค่ะ ชื่อเดิมคือ Nevskaya Perspective สร้างขึ้นปี ค.ศ.1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยสถาปนิก ชื่อว่า Alexandre Jean Baptiste Le Blond มีความยาวทั้งสิ้น 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นจากหน้าพระราชวังฤดูหนาว Hermitage และสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมอสโก
จุดเด่นของถนนเส้นนี้คือมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่ริมสองข้างทาง และได้มีการก่อสร้างตกแต่งเพิ่มเติม จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1760 ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กค่ะ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมทั้งย่านการค้า ที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ อีกมากมาย และปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nevsky Prosperkt ค่า
นอกจากนี้ขอแนะนำ
โรงแรม Four Seasons Hotel Lion Palace
หนึ่งในโรงแรมหรูที่ดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
โรงแรมนี้เคยเป็นพระราชวังเก่าที่ชื่อว่า Lobanov-Rostovsky Palace สร้างตั้งแต่ปี 1820 เป็นที่ประทับของเจ้าชาย Lobanov-Rostovsky ต่อมาถูกเรียกว่า Lion Palace เมื่อมีสิงโตตัวใหญ่สองตัวมาตั้งการ์ดด้านหน้าประตูพระราชวัง หลังจากนั้นโฟร์ซีซั่นได้เข้ามาบริหาร ใช้เวลาในการตกแต่งใหม่นานถึง 8 ปี เพิ่งเสร็จปี 2013 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ถือว่าใหม่มาก มีห้องพักทั้งหมด 183 ห้อง ส่วนทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับ St. Isaac s Cathedral มหาวิหารที่ว่ากันว่ามีการตกแต่งอลังการมากที่สุด และเดินไปพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ Hermitage ได้ใน 5 นาที
การเดินทางระหว่างเมืองมอสโก กับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
การท่องเที่ยวในรัสเซีย มักจะครอบคลุมทั้งเมืองมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ทั้งสองเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 650 กม. ซึ่งไกลกันพอสมควร และมีหลายวิธีการเดินทางข้ามเมือง แต่ 2 วิธีที่เป็นที่นิยม คือ ไปทางเครื่องบิน หรือไปทางรถไฟค่ะ ซึ่งปัจจัยในการเลือกวิธีการเดินทางคือ เรื่องค่าโดยสาร ระยะเวลา และความสะดวกสบายในการเดินทาง