เที่ยวซานฟรานซิสโก (San Francisco) สหรัฐอเมริกา USA เมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ตึกรามบ้านช่องสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้ทำมากมาย มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกนับไม่ถ้วน และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในสหรัฐอเมริกาที่มีระบบขนส่งสาธารณะดีมากอีกด้วยค่า ที่นี่จึงเป็นแหล่งพักผ่อนชั้นเยี่ยมที่ใครก็อยากมาเยือน อย่ารอช้า รีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินทางไปด้วยกันเล้ยยย

 

เที่ยวสะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge)

สะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเมืองมาริน เคาน์ตี้ (Marin County) รัฐแคริฟอร์เนีย และอ่าวซานฟรานซิสโก (San Francisco Bay) ทุกคนคงเคยเห็นกันมาแล้วตามภาพถ่าย และในภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายๆ เรื่องใช่ไหมคะ มีชื่อเสียงในเรื่องของความยิ่งใหญ่อลังการ ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นหนึ่งในลิสต์ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกาที่ทุกคนต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองค่ะ!

สะพานโกลเดนเกตนี้ เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1933 โดยมีความยาวถึง 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร มีเลนรถยนต์ 6 เลน รถบรรทุก 3 เลน และรถไฟอีก 2 ทางค่ะ มีการออกแบบให้ทนต่อกระแสน้ำและแรงลม รวมถึงทนต่อการเกิดแผ่นดินไหว จึงได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมแห่งหนึ่งในโลก และยังเคยถูกจัดอันดับให้เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วยค่า ปรบมือให้รัวๆ เลยย

และที่เราเห็นสะพานเป็นสีแดง จริงๆ แล้วคือสีส้มนะคะ แต่เป็นส้มเข้มออกแดงๆ เพื่อที่จะได้ตัดกับวิวรอบๆ และสีฟ้าของมหาสมุทร แถมยังทำให้มองเห็นได้ชัดทุกฤดูกาล ถึงตอนหมอกลงจัดก็ยังเห็นสะพานได้นั่นเองค่า และก็ไม่ต้องกลัวว่าสีจะซีดลงนะคะ เพราะเขามีการรักษาบำรุงและทาสีอยู่เป็นประจำค่ะ

การเดินทางข้ามสะพานทำได้เกือบทุกวิธี ทั้งขับรถไปเอง นั่งรถบัส (Golden Gate Transit) ปั่นจักรยาน แต่ถ้าใครที่อยากชมวิวให้จุใจและได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของสะพานแบบเต็มๆ แนะนำให้ปั่นจักรยานหรือเดินเท้าข้ามนะคะ จะได้รูปสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนๆ ถ้าพลาดเดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงงง >,<









 

เที่ยวฟิชเชอร์แมน วอร์ฟ และท่าเรือ 39 (Fisherman's Wharf and Pier 39)

ฟิชเชอร์แมน วอร์ฟ ท่าเรือประมงอันเก่าแก่ของซานฟรานซิสโก ใช้ในการขนถ่ายปลาและอาหารทะเลมาตั้งแต่อดีตค่ะ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิต ที่ใครผ่านมาก็ต้องแวะโดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบอาหารทะเล เพราะที่นี่มีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ บรรยากาศดีให้นั่งเพียบ แถมยังสดมากกก เหมือนได้ดำน้ำลงไปจับเองอย่างไงอย่างนั้นเลยค่า >,< มีทั้งล็อบสเตอร์ ปลาหมึก ปู Dungenese Crab ซึ่งเป็นปูชื่อดังของซานฟรานซิสโก มีรสชาติอร่อยเนื้อเยอะเต็มปากเต็มคำ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด (ที่ควรเตรียมไปเอง) แซ่บเว่อออร์! เมนูเด็ดอีกอย่างก็คือซุปหอยลาย ที่เสริฟพร้อมกับขนมปังสไตล์ซานฟรานซิสโก ชื่อ Sourdough มีรสเปรี้ยวนิดๆ กินกับซุปหอยลายเข้ากั๊นเข้ากันนน







  

และอย่าลืมแวะ ร้าน Ghirardelli ที่ขายไอศกรีมและช็อกโกแลตแสนอร่อย มีให้เลือกหลายรสชาติ ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วยจ้า









ติดกันคือ Pier 39 หรือท่าเรือ 39 เป็นแหล่งรวมความสนุกและความบันเทิงมากมาย มีทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ สวนสนุก และยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก อากาศก็ดี เหมาะแก่การมาเดินชิลๆ ได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อเลยค่า











ไฮไลท์ของที่นี่คือ จะมีเจ้าสิงโตทะเลตัวจ้ำม่ำนอนอาบแดดอยู่ริมน้ำเยอะมากก โดยนักชีววิทยาทางทะเลกล่าวว่า สิงโตทะเลเหล่านี้มาอาศัยอยู่ที่ท่าเรือเพราะมีความอุดมสมบูรณ์ มีอาหารมากมาย และไม่มีนักล่าตามธรรมชาติอย่างฉลามขาวและวาฬเพชฌฆาต เรียกว่าสร้างสีสันให้กับย่านนี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ใครมาก็ต้องเซลฟี่และเก็บภาพความน่ารักเอาไว้รัวๆๆๆ





 

เที่ยวเกาะอัลคาทราซ (Alcatraz Island)

เกาะอัลคาทราซ หรือเดอะร็อค (The Rock) เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในอ่าวซานฟรานซิสโก สามารถมองเห็นได้จาก ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ และท่าเรือ 39 ด้วยนะคะ ที่นี่เป็นคุกเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เปิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1934 - ค.ศ. 1963 เคยใช้ขังอาชญากรชื่อดังมากมาย และนักโทษที่ทำตัวไม่ดีจากคุกอื่นๆ ก็จะถูกส่งตัวมาคุมขังที่นี่ค่ะ ซึ่งมีการควบคุมที่แน่นหนามาก จนได้ชื่อว่าเป็นคุกที่ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมแห่งแรกของโลก เพราะอยู่กลางอ่าว มีคลื่นลมแรง ล้อมรอบด้วยน้ำที่เย็นถึงจุดเยือกแข็ง ซึ่งยากต่อการหลบหนี เคยมีนักโทษพยายามหนีออกไป 36 คน แต่ก็ไม่เคยมีใครหนีได้สำเร็จเลยค่ะ มีทั้งถูกยิงสังหาร จมน้ำเสียชีวิต บางรายพยายามใช้ช้อนเจาะผนังห้องขังไปเรื่อยๆ วางหุ่นไว้บนเตียงเพื่อตบตาผู้คุม และจะว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แต่ก็ไม่มีใครพบพวกเขาอีกเลย













ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ด้านล่างมีโรงหนัง ร้านหนังสือสำหรับผู้สนใจศึกษาประวัติเรื่องราวต่างๆ สามารถเลือกซื้อของฝากเพื่อเป็นการสนับสนุนและอนุรักษ์คุกแห่งนี้ไว้ต่อไป แถมยังสามารถนอนพักค้างคืนได้ด้วยนะคะ แหม๋.. ถามว่ากล้านอนมั้ยยย อยากนอนมั้ยดีกว่า >,< นอกจากนี้ เรื่องราวของคุกอัลคาทราซ ยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีย์ชื่องดังมากมาย เช่น Escape from Alcatraz อีกด้วยค่า



เครดิตรูปภาพจาก https://th.readme.me/id/Wit_Sil

 

นั่งรถรางชมเมือง (Cable Cars)

กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาเยือนซานฟรานซิสโกก็คือ การนั่งเคเบิลคาร์ หรือรถรางสุดคลาสสิค ซึ่งเป็นรถรางที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! มีลักษณะคล้ายตู้รถไฟสั้นๆ เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 แต่เดิมมีทั้งหมด 23 สาย ปัจจุบันเหลือให้บริการแค่ 3 สาย ซึ่งถือเป็นรถรางที่ควบคุมด้วยมือแห่งสุดท้ายของโลกเลยนะคะ ได้แก่ Powell-Hyde Line, Powell-Mason Line และ California Line มีทั้งแบบเปิดโล่งรับลมเย็นชื่นใจและห้องกระจก โดยเราจะได้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ระหว่างทางก็ได้ชมวิวสวยๆ ของเมืองไปด้วย บางช่วงที่เป็นเนินสูงชันน่าหวาดเสียว ก็จะได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของนักท่องเที่ยวอยู่บนรถ สนุกตื่นเต้นไปอีกแบบ นอกจากถ่ายรูปกับรถรางแล้ว อย่าลืมมาลองใช้บริการกันดูนะค้า







 

เที่ยวสวนสาธารณะโกลเด้นเกท (Golden Gate Park)

ใครที่อยากจะหลบหนีความวุ่นวาย และพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ หญิงปุ๊กแนะนำโกลเด้นเกท สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในซานฟรานซิสโก มีพื้นที่ประมาณ 1,000 เอเคอร์ ซึ่งเป็นเหมือนปอดของผู้คนในเมืองเลยค่า เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และสัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาติ เช่น เต่า นก กวาง ผู้คนจะมาทำกิจกรรม และเที่ยวพักผ่อนกันในวันหยุด ทั้งวิ่งจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ปิคนิกริมน้ำ หรือพายเรือเล่นกันค่ะ









นอกจากนี้ภายในสวนยังมีหลายส่วนให้เที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และสิ่งมีชีวิต (Academy of Sciences) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งอควาเรียม ที่เต็มไปด้วยเหล่าปลาเล็กปลาน้อยกำลังแหวกว่ายอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ และป่าดิบชื้นที่มีการจัดแสดงสัตว์ในระบบนิเวศน์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วให้ได้ชมอีกด้วยค่ะ



เครดิตรูปภาพจาก https://goo.gl/ZrJn3f



สวนพฤกษชาติ (Botanical Garden) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ไม้ดอกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รวบรวมต้นไม้แปลกๆ และดอกไม้พันธุ์ต่างๆ มาจัดอยู่ในสวนอย่างสวยงาม







สถานที่ยอดฮิตของที่นี่ก็คือ Japanese Tea Garden สวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่พอได้ก้าวเข้ามาปุ๊บ เหมือนได้มาอยู่ที่ญี่ปุ่นปั๊บ *0* ภายในมีทั้งบ่อปลาคาร์ฟ สวนไผ่ สะพานหินเล็กๆ และสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณมากมาย ถ้ามาในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเมษายนจะเห็นดอกซากุระบานด้วยนะค้า









 

เที่ยวแคลิฟอร์เนีย สตรีท (California Street)

ถนนแคลิฟอร์เนีย คือ ถนนเส้นที่ยาวที่สุดในเมืองซานฟรานซิสโก กินพื้นที่ในเมืองนี้ถึง 54 บล็อก มีความยาว 8.4 กิโลเมตรอยู่ในใจกลางเมือง นับเป็นถนนเส้นแรกที่เชื่อมต่อกับกันถนนไฮเวย์เส้นหลักเพื่อออกไปยังเมืองต่างๆ ของอเมริกา หัวถนนตั้งอยู่ในย่านการเงินยาวไปถึงสวนสาธารณะลินคอล์น และมีเส้นตัดผ่าน Market Street ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารเฟอร์รี่มากนัก ถ้าอยู่บนจุดสูงสุดของถนนเราจะสามารถมองเห็นสะพาน Oakland Bay Bridge  ถนนเส้นนี้ถือว่าเป็นย่านที่รุ่งเรื่องที่สุดในซานฟรานซิสโก เพราะคลอบคลุมไปด้วยระบบขนส่งที่ดี อย่างเช่น รถราง ที่ถือว่า ถ้าไปซานฟรานซิสโกแล้ว ต้องลองไปใช้บริการดูสักครั้งนะคะ อาคารสูงใหญ่แถวนี้ก็สามารถทำเป็นแบล็คกราวน์ถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ไม่เบาเลยละค่ะ











 

เที่ยวจัตุรัส อลาโม (Alamo Square)

จัตุรัสอลาโม หรือ สวนสาธารณะอลาโม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1857 บนถนนเฮย์ เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนยอดเขา รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านที่มีกลิ่นอายของความโรแมนติก ผสมผสานความคลาสสิคไว้อย่างลงตัวแบบสไตล์วิกตอเรียน  สวนสาธารณะแห่งนี้เคยถูกถ่ายภาพ และตีพิมพ์ลงบนโปสการ์ดเมืองซานฟรานซิสโกอีกด้วยนะคะ จากข้างบนนี้สามารถทำให้มองเห็นทัศนียภาพของเมืองได้อย่างเต็มตาเลยจ้า วิวของเมืองนี้ก็สวยไม่แพ้เมืองไหนๆ ในแคลิฟอร์เนียเลยนะ อาจจะดูเป็นสวนสาธารณะธรรมดา หรือมีจุดขายของการอยู่บนที่สูงเท่านั้น ไม่ใช่เลยค่ะ ที่นี่กลับมีอะไรให้ทำมากกว่าการนั่งชิล หรือ ปิกนิก เพราะมีทั้งสนามเทนนิส สนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ให้ทั้งครอบครัว หรือ นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมได้พักผ่อนหย่อนใจกันอย่างเต็มที่จ้า

 

 

เที่ยวไชน่าทาวน์ ซานฟรานซิสโก (Chinatown San Francisco)

ไชน่าทาวน์ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1848 เป็นย่านคนจีนที่ใหญ่ที่สุดนอกเอเชีย และเก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนถนน Grant Avenue และ Stockton Street โดยมีประชากรหนาแน่นถึง 15,000 คน ในวงล้อมสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพียง 20 บล็อกเท่านั้นค่ะ ที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่สุดในซานฟรานซิสโก แว่วๆ มาว่า มีคนไปที่ไชน่าทาวน์ซานฟรานซิสโกมากกว่าสะพาน Golden Gate ซะอีกค่ะ!  ในตรอกไชน่าทาวน์แห่งนี้ได้รวบรวมทั้ง สถาปัตยกรรมจีน วัดจีน และ วัฒนธรรมจีนต่างๆ มาไว้ที่นี่อย่างมากมาย รวมถึงอาหารจีนเรียกเสียงน้ำย่อยในท้องได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ มีร้านเด็ดๆ ดังๆ อยู่ทั่วทุกมุมของถนนย่านนี้ แล้วก็ราคาไม่แพงด้วยนะจ๊ะ แบบนี้พลาดไม่ได้แล้ว รีบไปเช็คอินกันเร็ว ~











 

เที่ยวถนนลอมบาร์ด (Lombard Street)

ลอมบาร์ด สตรีท หรือ ถนนลอมบาร์ด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1922 ด้วยเหตุผลที่ว่าถนนแถวนี้มีความสูงชันเกินไปที่รถจะสามารถวิ่งผ่านได้ ผู้จัดการท้องถิ่น คาร์ล เฮนรี จึงได้เสนอการทำถนนขดเคี้ยวขึ้นเพื่อลดความสูงชันของถนนเส้นนี้ โดยให้วิศวกรเมืองอย่าง ไคลด์ ฮีลี ออกแบบการสร้าง นั่นก็ทำให้ระดับเนินเขาลดลงไปจาก 27% เหลือเพียงแค่ 16% เท่านั้น จึงสามารถทำให้รถต่างๆ เข้ามาสัญจรได้ และเริ่มมีคนเข้ามาสร้างที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่สองฝั่งถนนค่ะ ส่วนเกาะกลางถนนที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทางโค้งนั้น ถูกแต่งเติมไปด้วยสวนขนาดย่อม และดอกไฮเดรนเยียอย่างสวยงาม
ในปี ค.ศ. 1950 ทางรัฐบาลซานฟรานซิสโกต้องการกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวที่นี่ โดยการถ่ายภาพถนนเส้นนี้เพื่อไปตีพิมพ์ลงบนโปสการ์ดของเมืองซานฟรานซิสโกนั่นเองค่ะ ใครที่อยากมาเช็คอินแถวนี้ ก็สามารถเดินทางมาด้วยรถรางจากภายในตัวเมืองซานฟรานซิสโกได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครเช่ารถมาขับเองละก็ งานนี้ มันส์! แน่นอน ต้องลองสักครั้งกับการขับรถลงมาตามทางคดเคี้ยวนี้ แล้วอย่าลืมถ่ายบรรยากาศตอนรถขับลงมาไว้เป็นความทรงจำสนุกๆ ด้วยนะคะ ><











 

เที่ยวอาคารเฟอร์รี่ มาร์เก็ตเพลส (Ferry Building Marketplace)

อาคารเฟอร์รี่ คือสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดของซานฟรานซิสโก เป็นทั้งย่านการเงินเปิด ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งสินค้า และท่าเทียบเรือ มากว่า 100 ปีแล้ว เปิดบริการในปี ค.ศ. 1898 เริ่มตั้งแต่ช่วงยุค Gold  Rush โดยสมัยนั้นยังอยู่ในช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาทางเรือ ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1950 สะพาน Golden Gate และ สะพาน Bay เปิดใช้งาน ทำให้การคมนาคมนั้นกว้างขว้างขึ้นมีทั้งรถและถนน ทำให้ที่นี่คึกคักเป็นอย่างมากในเรื่องของการขนส่งสินค้า แต่ภายหลังก็เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น ที่นี่ต้องปิดตัวลง และซ่อมแซมกันครั้งใหญ่ค่ะ ต่อมาในเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2003 จึงเปิดบริการอีกครั้ง โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปได้ ที่นี่ยังถูกยกย่องให้เป็นตลาดอาหารในร่มระดับโลกด้วยน้า และเปิดโอกาสสำหรับเกษตรกรในเมืองให้นำมาขายที่ตลาด Ferry Plaza Farmer Market อีกด้วยจ้า ซึ่งจะมีตลาดในทุก วันอังคาร วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 – 14.00 น. และ วันเสาร์ 8.00 – 14.00 น.