สวัสดีค่าาา วันนี้หญิงปุ๊กจะมากระซิบเคล็ดลับในการจัดกระเป๋าเดินทางอย่างลงตัวให้ฟังกันค่ะ สำหรับคนที่เดินทางบ่อยครั้ง ก็คงจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของการเตรียมของและการเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางสักเท่าไหร่ใช่ไหมคะ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยเดินทางไปที่ไหนไกลๆ หรือไปไกลได้แค่ไม่กี่ครั้ง ก็คงจะรู้สึกกังวลใจไม่น้อยเลยทีเดียวเลยล่ะ เพราะแค่คิดว่าจะเอาอะไรไปบ้างก็ปวดหัวแล้ว ยังต้องมาจัดกระเป๋าไม่ให้ตุงจนน่าเกลียดอีกด้วย ปวดหัวใช่ไหมล่ะ! อย่าเพิ่งกังวลหรือปวดใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรามี 10 เคล็ดลับเจ๋งๆ ในการจัดกระเป๋าเดินทาง มาฝากกันค่ะ

1.วางแผนจำนวนเสื้อผ้า

ก่อนอื่นเลยคือการดูว่าทริปนี้ไปกี่วัน ไปฤดูอะไร และคำนวณว่าจะต้องใช้เสื้อผ้ากี่ชุด แบบไหน เพื่อทำกิจกรรมอะไรบ้าง คำนวณทั้งเสื้อ กางเกง กระโปรง ชุดชั้นใน ถุงเท้า และพร๊อพต่างๆ หากทำรายการเช็คลิสด้วยจะดีมากค่ะ จะได้รู้ว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้าง แต่อย่าลืมเตรียม Accessories อย่างเสื้อคลุม ผ้าพันคอ และเข็มขัด ไปเป็นพร๊อพสวยๆ ด้วยนะจ้ะ ภาพเราจะได้งามๆ เมื่อได้เสื้อผ้าที่ต้องการแล้ว ก็เตรียมจัดเก็บลงกระเป๋า

2. จัดแบ่งโซนให้ชัดเจน

แบ่งโซนของเสื้อ รองเท้า เครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อย เตรียมแยกส่วนที่สำหรับเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไว้ด้วย อาจจะใส่ไว้ในกระเป๋าคนละด้าน จะได้ไม่ปนกัน และไม่ให้กลิ่นไม่พึงประสงค์ติดกันด้วย ใส่น้ำหอมในเสื้อผ้า และน้ำยาฉีดดับกลิ่นในรองเท้าด้วยก็ดีค่ะ อีกทั้งต้องเตรียมที่ไว้ให้กับของฝากอีกด้วยนะคะ เดี๋ยวใส่ไม่พอ ต้องไปซื้อกระเป๋าเดินทางเพิ่ม งอกลูกออกมาอีกใบ

3. จับเสื้อ กางเกง และผ้าขนหนูม้วนเลย

พยายามเลือกเสื้อผ้าไม่ค่อยยับ และน้ำหนักเบา แล้วม้วนเสื้อ กางเกง และผ้าขนหนูค่ะ พวกเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ๊ตที่เราเตรียมไป พับครึ่งแล้วม้วนเก็บลงกระเป๋าได้เลย จะทำให้เสื้อยับน้อยลง แถมกระเป๋าจะมีพื้นที่ว่างขึ้นมาอีกเพียบ ดูมีระเบียบอีกด้วยนะคะ หรือจะม้วนไว้เป็นชุดๆ เลยก็หยิบใช้สะดวกดี ถ้าไปทริปยาวๆ มากกว่าครึ่งเดือน แนะนำให้เตรียมซักผ้าระหว่างทริปด้วยค่ะ

4. พับเสื้อผ้าหนาๆ

เสื้อโค้ท กางเกงตัวใหญ่ กางเกงขาสั้นตัวหนา หรือกางเกงยีนส์ ให้พับครึ่งเป็นแนวยาว หรือวางเป็นแนวยาวไปกับกระเป๋าเลย จะม้วนก็คงไม่ไหว เพราะมันหนาเกินไป นอกจากนี้ตามซอกต่างๆ ก็เอาไว้ยัดพวกผ้าพันคอได้ค่ะ

5. เก็บสารพัดครีมให้เป็นระเบียบ

ครีมบำรุง และครีมกันแดดผิวหน้า ถ้าไม่ได้ไปหลายวันให้นำเอากล่องใส่คอนแทคเลนส์ที่มีอยู่ มาใส่ครีมแต่ละชนิดตามช่อง หรือจะถ้าไม่อยากพกพาอะไรมากมาย เดี๋ยวนี้ครีมซองมีเยอะค่ะ หรือเลือกขวดเล็กๆ ในเซเว่นก็ได้ พกสะดวกเหมือนกัน แล้วก็ใส่ถุงพลาสติกอีกสักสองชั้น กันหกเลอะเทอะ เคยปิดขวดแชมพูไม่สนิทมาแล้ว ฟองฟ้อดเต็มถุงพลาสติกเลยค่ะ แถมบางส่วนก็เลอะเสื้อผ้าอีก และสุดท้าย พกถุงพลาสติกไปเผื่อหลายๆ ใบด้วยก็ดีนะคะ

6. แพ็คของชิ้นเล็กๆ ในกล่อง เก็บของใหญ่ไว้ส่วนล่างของกระเป๋า

ของชิ้นเล็กทุกชนิดอย่างต่างหู แหวน สร้อย เข็มกลัดและเครื่องประดับต่างๆ เอาออกมาเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วนำเอากล่องยาขนาดยาว หรือกล่องแว่นตา มาเก็บเครื่องประดับพวกนี้ โดยการแยกเก็บตามช่องและตามประเภท เพื่อที่จะสามารถประหยัดพื้นที่ และป้องกันไม่ให้เครื่องประดับชิ้นเล็กหายไป หรือพันกันจนอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้

ส่วนรองเท้าแตะ หรือรองเท้าหุ้มส้นขนาดใหญ่ คลุมด้วยหมวกคลุมผมก่อน แล้วใส่ไว้ส่วนล่างของกระเป๋า หลังจากนั้นเอาถุงพลาสติกทับด้านบนรองเท้าอีกที เพื่อที่จะสามารถเอาเสื้อผ้าใส่ลงไปต่อได้ อย่างไม่ต้องกลัวสกปรกค่ะ

7. เก็บชุดชั้นในไว้ด้านข้างกระเป๋า

พับชุดชั้นในทั้งหมดให้เรียบร้อย แล้วนำเอามาใส่กระเป๋าขนาดเล็กรวมกัน หรือจะพับแล้วแทรกเข้าช่องว่างด้านข้างกระเป๋า เพราะชุดชั้นในนั้นมีชิ้นเล็ก และบางเบาอยู่แล้ว การเก็บจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพียงแต่ต้องเอาไว้ตรงจุดที่เราจำได้ และหาเอาออกมาใช้ได้ง่ายๆ ค่ะ หรือหากใครกลัวว่าจะน่าเกลียด หากต้องโดนเรียกตรวจกระเป๋าล่ะก็ พับแล้วแทรกๆ เข้าไว้ในชั้นนระหว่างเสื้อผ้าก็ได้นะคะ เปิดออกมายังไงก็ดูไม่น่าเกลียดค่ะ

8. พกอาหารแห้ง เครื่องปรุงซองเล็กๆ

พวกเครื่องกระป๋องค่อนข้างกินน้ำหนัก พยายามหลีกเลี่ยง ให้เอาเป็นอาหารแห้งไปดีกว่า มาม่า ขนมอะไรก็เอาไปได้ และพวกเครื่องปรุงต่างๆ อย่าง ซอสมะเขือเทศ พริกน้ำปลา พริกป่น ควรซื้อแบบซองเล็กๆ ใส่รวมๆ กันในกล่องอาหารที่มีฝาปิดแน่นสนิทกันหกอีกที และอย่าลืมพกอาวุธในการกิน ช้อมส้อมพลาสติก ตะเกียบไม้ และจานกระดาษไปเผื่อด้วยนะจ้ะ เรื่องกินเรื่องใหญ่ เดี๋ยวไม่แซ่บ

9. เตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ครบ

เมื่อทุกอย่างถูกจัดเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สมควรอยู่บนสุด นั่นคือสารพัดสายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งสายชาร์จโทรศัพท์ และสายชาร์จโน๊ตบุ๊ค ควรม้วนแล้วหาเชือกเล็กๆ มาผูกไว้ จับวางไว้บนสุดของกระเป๋า เพื่อที่จะสามารถนำเอาออกมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย หรือจะใส่ทั้งหมดรวมกันลงในถุงผ้าเล็กๆ หรือกระเป๋าเล็กๆ ก็ได้ค่ะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนสายหูฟังแนะนำให้หากล่องใส่เฉพาะ หรือกล่องแว่น แล้วพกพาไว้ในกระเป๋าถือก็จะดีที่สุด อย่าลืมพกหัวแปลงปลั๊กไฟ ใช้ได้ทั่วโลก Universal Adapter ไปด้วยน้า ถ้ามีอุปกรณ์ไฟฟ้าเยอะ ก็พกปลั๊กสามตาไปด้วยค่ะ จะได้เสียบชาร์ทได้พร้อมๆ กัน

10. ของที่ไม่จำเป็นอย่าเอาไป พกของที่จำเป็นติดตัว

อย่าลืมพกของที่จำเป็น เช่น พาสปอร์ต ยา ปากกา กล้องถ่ายรูป มือถือไปให้พร้อม ส่วนของที่ไม่จำเป็น ไม่ต้องแบกไป เตรียมไปให้พอดีๆ อย่าเผื่อเยอะ เราไม่ได้กำลังจะย้ายบ้านนะคะ แอบแซวไว้ก่อน อิอิ เราแค่ออกเดินทางไปเที่ยวเท่านั้น ถ้าไปที่หนาวๆ เราใส่ซ้ำได้ ทุกอย่างถูกจำกัดไว้ด้วยขนาดกระเป๋า และน้ำหนักค่ะ ไม่ควรเกิน 20 กิโลกรัม มันจะลากลำบากและอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมให้สายการบินอีก เดี๋ยวนี้มีที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าเดินทางแบบพกพาจำหน่าย ก็ลองพกติดตัวไว้ใช้ชั่งกระเป๋า จะได้ไม่ต้องไปเปิดกระเป๋า แล้วทิ้งของที่เกินออก หน้าเคาน์เตอร์สายการบิน เสียดายของค่ะ

นอกจากนี้ ถ้าเป็นไปได้ ควรมีกระเป๋าเล็กๆ หรือเป้เล็กๆ สักใบไว้ใส่ของจำเป็นติดตัวไว้ก็ดีค่ะ เอาไว้เก็บของสำคัญที่ควรนำเอาติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย อย่างเช่น กระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ หูฟัง และเครื่องสำอางค์เล็กน้อย ส่วนกระเป๋าใส่เงิน และพาสปอร์ต อาจจะใส่แยกในกระเป๋าคาดเอวไว้ ไม่ควรปล่อยให้อยู่ห่างตัว เพราะอาจจะโดนขโมย กลายเป็นเรื่องใหญ่เลย ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อย่าเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดไว้ใต้เครื่อง มีสิทธิ์หายได้ ดูอันตรายและประมาทจนเกินไป เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ที่สำคัญควรตรวจเช็คซิบ ตัวล็อกว่าแน่นหนาเรียบร้อย ใส่รหัสทุกครั้งค่ะ ห้ามลืม เคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ น่าจะช่วยให้นักท่องเที่ยวมือใหม่ จัดกระเป๋าได้ง่ายขึ้นแล้วนะคะ ลองทำกันดูจ้า