เที่ยวออสเตรีย ดินแดนอันสุดแสนโรแมนติก มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ซึ่งแต่ละที่นั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่ก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ โดดเด่นในเรื่องความงดงามของธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบ บวกกับความน่ารักสวยงามของตึกรามบ้านช่องของแต่ละเมือง ยิ่งทวีคูณความเพอร์เฟคขึ้นไปอีกค่าา รับรองว่าใครที่ได้มาสัมผัสจะต้องหลงรักอย่างแน่นอนนน! >3<

 


*******************




เที่ยวกรุงเวียนนา (Vienna)


กรุงเวียนนา ดินแดนแห่งเสียงเพลงสุดโรแมนติก~ เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรียค่า ทำเลที่ตั้งเลิศมากกก อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม มรดกทางวัฒนธรรม ความวิจิตรของศิลปะ และดนตรีคลาสสิคอันไพเราะ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของนักแต่งเพลงคลาสลิคชื่อดังหลายท่านเลยนะคะ ไม่จะว่าเป็น โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกก้องโลก เบโทเฟน (Beethoven) นักเปียโนชื่อดังระดับโลก โยฮันน์ ชเตราสส์ (Johann Strauß) ราชาแห่งเพลงวอลซ์

บ้านเมืองก็สะอาดน่าอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยค่า โอ้โหหห ถ้าเสน่ห์จะล้นเหลือขนาดดดเน้ >3< ถ้าเป็นคนนี่คงจีบไปแล้วนะเนี่ย 5555 ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของยุโรป และเป็นที่ฮันนีมูนในฝันของคู่รักจากทั่วโลกเลยค่า เพราะทั้งโรแมนติกและมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย

โดยยูเนสโก้ยกให้เป็นมรกดโลก 2 แห่งคือ เขตเมืองเก่าใจกลางกรุงเวียนนา และพระราชวังเชิงบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์กค่ะ ที่ทั้งหรูหรา ใหญ่โต อลังการ เป็นศูนย์รวมของผลงานด้านศิลปะชั้นเยี่ยม จัดเป็นอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ด้านหลังเป็นอุทยานกว้างขวาง และยังมีสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่า





shutterstock_25603663

shutterstock_237669655





 


*******************




เที่ยวฮัลส์สตัทท์ (Hallstatt)


เมืองนี้ภูมิใจนำเสนอมากค่าาาาา ฮัลส์สตัทท์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบ Hallstatt See ที่ทุกคนจะต้องตกหลุมรักตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาอย่างแน่นอนนน! สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้ก็คืออากาศอันแสน ~บริสุทธิ์ เงียบสงบ และตัวเมืองที่น่ารักมากกกก มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่ถึงพันคน ฉากหลังเป็นภูเขาสูงชันโอบล้อมเมือง ทะเลสาบสีฟ้า แถมด้วยบรรดาหงส์ที่พากันมาว่ายน้ำ บ้านเรือนน่ารักๆ ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ลงมาตามแนวเขา รอบเมืองเต็มไปด้วยร้านอาหารขนาดเล็กและดอกไม้สีสันสดใส โอ้ยยเหมือนได้เดินอยู่ในเทพนิยายเลยค่าาาา >3< (ขอซาวด์เพลงเจ้าหญิงดิสนีย์ด่วนๆๆ)

ไม่แปลกใจเลยค่ะที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลก! แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ประเภทชุมชนที่มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างภูมิประเทศที่สวยงามกับวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของโลกอีกด้วยค่า จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของออสเตรีย เหมาะแก่การมาพักผ่อนตากอากาศ เดินเล่นชมธรรมชาติและทัศนียภาพสวยๆ ของตัวเมือง กลางวันก็งาม บรรยากาศกลางคืนก็เลิศ มีแสงไฟสวยๆ อบอุ่นมากกก

สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่า แต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามต่างกันไป ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะไล่เฉดตั้งแต่เขียว เหลือง ส้ม แดง ไปทั่วทั้งภูเขาและหมู่บ้าน ถ้าเป็นฤดูหนาวจะมีหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วภูเขา โรแมนติกไปอีกแบบ >,<

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น การปีนเขา ล่องเรือในทะเลสาบ เล่นสกี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ หรือเดินทางไปชมเหมืองเกลือโบราณที่มีอายุกว่า 7,000 ปี โดยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปบนภูเขาที่มีความสูงประมาณ 838 เมตร สามารถเที่ยวชมได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน – เดือนตุลาคมของทุกๆ ปีค่า



1422036148-1511433101-o







 


*******************




เที่ยวซาลซ์บวร์ก (Salzburg)


ซาลซ์บวร์ก เมืองมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานมากกกของออสเตรียค่า ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยขุนเขาและแม่น้ำซาร์ลซัคอันงดงาม คลุกเคล้าไปด้วยเสน่ห์ของเสียงเพลง โรแมนติกที่ซู้ดดดด >3< อาคารบ้านเรือนก็สวยงาม ตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาโรก จนได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบาโรกเลยนะจ๊า

ที่นี่เป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังระดับโลกอย่าง โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง The Sound of Music นั่นก็คือสวนมิราเบลล์ (Mirabell Garden) เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดในเมืองซาล์ลบวร์กค่า พื้นที่กว้างขวางมาก ตกแต่งด้วยรูปปั้นและน้ำพุแบบบาโรก เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส มีนักดนตรีคอยบรรเลงเพลงสร้างบรรยากาศอีกด้วยค่า ฟินนนไปอี๊กกก

จากสวนมิราเบล ก็จะมองเห็นป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg) อันมหึมาเเละน่าเกรงขามมากที่สุดของยุโรป สร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึกและเป็นที่พักของอาร์ชบิชอปผู้ครองนคร ปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้มากที่สุดเลยค่ะ ภายในประดับตกแต่งไว้อย่างหรูหราอลังการ และยังมีการจัดแสดงของโบราณมากมาย ทั้งเตาผิงที่ปูด้วยกระเบื้องที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1501 และภาพจากคัมภีร์ไบเบิลให้ชมด้วยค่ะ









และอีกสถานที่ที่ขอบอกว่าอลังการ วี๊ดว๊ายมากๆ ก็คือ The Eisriesenwelt ถ้ำน้ำแข็งสุดเย็นยะเยือกที่ใหญ่ที่สุดในโลก! อยู่ที่เมืองเวอร์เฟน เดินทางมาจากทางใต้ของเมืองซาลซ์บวร์กมาไม่ไกลค่า เป็นถ้ำหินปูนน้ำแข็งที่น่าอัศจรรย์ มีความยาวกว่า 42 กิโลเมตรรรร! เกิดขึ้นเมื่อ 100 ล้านปีที่ผ่านมา แม่น้ำ Salzach ไหลผ่านภูเขาและเกิดการกัดเซาะจนเกิดรอยร้าวและรอยแตก พอช่วงฤดูหนาว เมื่ออากาศข้างนอกที่เย็นลอยเข้ามาในถ้ำ ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงจนเกิดเป็นถ้ำน้ำแข็ง ส่วนในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน น้ำแข็งจะละลาย พอเจอกับอุณหภูมิที่เย็นก็จะเกิดการแข็งตัวอีกครั้ง กลายเป็นหินน้ำแข็งสุดมหัศจรรย์คล้ายกับหินงอกหินย้อยอันงดงามนั่นเองค่า













เครดิตภาพถ้ำน้ำแข็ง www.eisriesenwelt.at/en

 


*******************




เที่ยวอินส์บรูค (Innsbruck)


เมื่อได้มาเยือนที่อินส์บรูคถึงกับต้องพูดเลยค่ะว่า นี่สวรรค์รึเปล่าเนี่ยยยยย! ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ มีแม่น้ำอินส์ไหลผ่าน โดยคำว่า bruck เป็นรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมันคือ bridge ซึ่งแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอินส์นั่นเองค่า เดิมเป็นเมืองตากอากาศของเหล่าจักรพรรดิที่มาปกครองเมือง เพราะอากาศดี ทิวทัศน์สวยงามมากกก จนได้รับการขนานนามว่า Capital of Alps ง่อววววว สมญานามไม่ธรรมดานะจ๊า

ตัวเมืองมีประวัติศาสตร์ยาวนาน บ้านเมืองสีสันน่ารักๆ เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ใครมาเห็นก็อดต้องแชะรูปเป็นที่ระลึกไม่ได้ ตลอดทางเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้ามากมาย ได้นั่งเล่นชิลๆ จิบกาแฟรสเลิศที่คาเฟ่ริมทาง ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ในอ้อมกอดของภูเขา ช่างสุขใจอะไรเยี่ยงงงงนี้ >3<

โดยที่ด้านบนของภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเป็นเป็นสวรรค์ของนักสกีเลยก็ว่าได้ค่า มีสกีรีสอร์ทแจ่มๆ เพียบ และยังมีชื่อเสียงในด้านเป็นศูนย์กลางของกีฬาฤดูหนาว ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฤดูหนาวอย่าง โอลิมปิก (Winter Youth Olympic) ซึ่งเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้จัดกีฬาโอลิมปิกถึง 3 ครั้งเลยทีเดียวค่า









 


*******************




เที่ยวหมู่บ้านอัลพ์บัช (Alpbach)


หมู่บ้านสวยๆ ไม่ได้มีอยู่แค่ในโปสการ์ดนะจ๊าาา แต่อยู่ที่หมู่บ้านอัลพ์บัช ณ รัฐทิโรล (Tirol) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในออสเตรีย และเป็นหมู่บ้านแห่งดอกไม้ที่สวยที่สุดในยุโรปอีกด้วยค่า >,< ตั้งอยู่บนที่ราบสูง เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร

เมื่อมาถึงจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับความงามของธรรมชาติ บ้านเรือนน่ารักๆ ท่ามกลางหุบเขา ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มไกลสุดลูกหูลูกตา และดอกไม้สีสันสดใสมากมาย อากาศก็ดี๊ดี อยากจะเก็บใส่ถุงกลับมาสูดต่อที่บ้านมากเลยค่า 5555 ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติขนาดนี้มันรู้สึกสดชื่นนนนฝุดๆ~ เหมาะแก่การมาเที่ยวเล่นพักผ่อนในวันหยุด มีกิจกรรมให้ทำมากมายทั้งปั่นจักรยาน เดินป่า เดินเขา จิบไวน์ ชมวิว หรือจะมาฮันนีมูนก็โรแมนติกฟินๆ ไม่น้อย อิอิ

หรือถ้ามาในช่วงฤดูหนาว ในหมู่บ้านยังมีวินเทอร์ วิลเลจ (Winter Village) ไว้สำหรับเล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ อีกด้วยค่า











 


*******************




ขับรถเที่ยวเส้นทางไฮอัลไพน์กรอสกล็อกแนร์ Grossglockner High Alpine Road


อีกกิจกรรมที่เป็นนิยมก็คือการขับรถเที่ยวเส้นทาง Grossglockner High Alpine Road หรือยอดเขา Grossglockner ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรียค่าา

ถนนนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1930-1935 อายุกว่า 80 ปีแน่ะ มีความสูงถึง 3,798 เมตร จากระดับน้ำทะเล และมีความยาวกว่า 48 กิโลเมตร เมื่อขับขึ้นไปด้านบนแล้วมองลงมา จะเห็นเป็นโค้งที่สวยงามมากก มีโค้งคดเคี้ยวมากมายหลายแบบ ทั้งโค้งหักศอก โค้งตัวเอส โค้งตัวยู ทางขึ้นลงเขามันก็จะแคบและลาดชันหน่อยๆ นะจ๊ะ >,< ตื่นเต้นเว่อออออร์ ถือเป็นเส้นทางในฝันสุดท้าทายของคนที่รักการขับขี่จากทั่วทุกมุมโลกเลยค่า

แต่ท่ามกลางความเสียว ก็ยังมีความสวยอยู่ อิอิ เพราะระหว่างทางจะได้พบกับทัศนียภาพที่สวยงาม ขับไปท่ามกลางดงภูเขาสวยๆ ทุ่งหญ้าสีเขียว ทุ่งดอกไม้สีสีนสดใส ลำธาร และธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ผ่านเมืองเล็กๆ หลายเมือง  วิวสวยทุกอณูตลอดเส้นทางเลยจ้า รับรองว่าเพลินมาก ไม่มีเบื่อเล้ยยย นับว่าเป็นเส้นทางที่โรแมนติกที่สุดเส้นหนึ่งในออสเตรีย และยังติดอันดับ 1 ใน 10 ของถนนที่มีความโรแมนติกที่สุดในโลกอีกด้วยค่า









 


*******************




เที่ยวซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut)


ที่นี่เป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและสวรรค์ของคนรักธรรมชาติค่า ถือเป็นเขตแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามมากกกก ทั้งในเรื่องของธรรมชาติและหมู่บ้านที่สวยงามราวกับเทพนิยาย จนได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่สวยที่สุดในออสเตรียเลยนะค้า โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์และภูเขามากมาย มีทะเลสาบถึง 76 แห่ง เช่น Wolfgangsee, Lake Attersee, Lake District และ Lake Hallstatt และยังเคยเป็นแหล่งทำเหมืองแร่ชื่อดัง และแหล่งผลิตเกลือที่ใหญ่ที่สุดในแถบเทือกเขาแอลป์อีกด้วยค่า

เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนชิลๆ หนีความวุ่นวายจากที่ต่างๆ มาอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยไปโม้ดดด โดยสถานที่ยอดฮิตที่ห้ามพลาดเลยก็คือ

ซังคท์ โวล์ฟกัง (St. Wolfgang) เมืองมาร์เก็ตทาวน์และเมืองรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของออสเตรียค่า ห้อมล้อมด้วยทะเลสาบโวล์ฟกัง (Wolfgangsee) หนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรียโดยชื่อเมืองมาจากชื่อของนักบุญโวลฟ์กัง ซึ่งได้สร้างโบสถ์เล็กๆ ขึ้นมา ที่เรียกกันว่าโบสถ์นักบุญโวลฟ์กัง ปัจจุบันได้เป็นโบสถ์ประจำของเมือง และเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปค่า

อีกสถานที่หนึ่งก็คือ ฮัลล์ชตัทท์ (Hallstatt) เมืองมรดกโลกที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลกกก *0* อยู่ริมทะเลสาบ Lake Hallstatt บ้านเรือนน่ารักมากกกกก บรรยากาศดี๊ดี ทัศนียภาพสวยงาม โรแมนติคฝุดๆ มีร้านค้า ร้านอาหารและกิจกรรมให้ทำมากมาย สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใครได้มาเยือนต้องหลงรักตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงอย่างแน่นอนค่า









 


*******************




เที่ยวเมืองกราซ (Graz)


เมืองกราซ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรีย รองจากกรุงเวียนนาค่า อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้กับประเทศสโลวีเนีย ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่สำคัญของออสเตรียเพราะมีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ถึง 6 แห่งด้วยกันแน่ะ ต้องขยันกันมากแน่ๆ เลย อิอิ

ตัวเมืองมีความสงบแต่ทันสมัย มีภูเขาเล็กๆ และแม่น้ำเมอร์ (Mur) ไหลผ่าน เป็นเมืองการค้าและศูนย์กลางของสถาปัตยกรรมจากทุกยุคทุกสมัย ทั้งแบบโกธิค เรอเนสซองซ์และบารอค มีบ้านเรือนโบราณกว่า 1,000 หลัง สิ่งปลูกสร้างเก่าๆ ของที่นี่สวยและดูคลาสสิคมากค่า ทั้งปราสาท ป้อมปราการ พระราชวัง ทุกอย่างถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว ทั้งสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย เดินมาเรื่อยๆ จะเจอหอนาฬิกา (Clock Tower-Uhrturm) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง มาถึงแล้วต้องเซลฟี่ด่วนๆๆ เลยนะค้า เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง >,<

ที่นี่ถือเป็นเมืองในยุโรปกลางที่ยังมีชีวิต ผสมผสานสถาปัตยกรรมยุคกลางเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเมืองเก่าได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี 1999 และยกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป (Cultural Capital of Europe)  ในปี ค.ศ. 2003 อีกด้วยค่า









 


*******************




เที่ยวเทือกเขาแอลป์ (Alps)


ใครๆ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อของเทือกเขาแอลป์กันใช่ไหมคะ เป็นเทือกเขาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากที่สุดของยุโรปเลยค่า มีอาณาเขตครอบคลุมตั้งแต่ออสเตรีย อิตาลี สโลวีเนีย ไปจนถึงสวิตเซอร์แลนด์ โมนาโก ลิกเตนสไตน์ เยอรมนี ฝรั่งเศส และออสเตรีย อู๊ยยยย ใหญ่เว่อออออร์ โดยคลุมพื้นที่ของออสเตรียถึง 60% แน่ะ *0* และด้วยลักษณะภูมิประเทศ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศอันบริสุทธิ์ของที่นี่ จึงสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาชื่นชมมนต์เสน่ห์ และหลบหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสายเลยค่า

โดยมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งสกี สโนว์บอร์ด ปีนเขา ปั่นจักรยาน ตีกอล์ฟ หรือเดินเที่ยวสูดอากาศ ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่มีสัตว์ป่านานาชนิด พืชพันธุ์เมืองหนาว ทุ่งดอกไม้ ทุ่งหญ้า ธารน้ำแข็ง น้ำตก หมู่บ้านกลางหุบเขา สกีรีสอร์ท และยังมีทะเลสาบคุณภาพเยี่ยมที่ขึ้นชื่อว่าสะอาดใสกิ๊งๆ โดยป่าบริเวณที่ราบสูงของเทือกเขาแอลป์นั้นเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำจืด ที่ใช้บริโภคกันในทวีปยุโรปค่า แถมการเดินทางก็สะดวกสบายและทันสมัย ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีเล้ยยย









 


*******************




เที่ยวเซลล์ อัม ซี (Zell am See)


เซลล์ อัม ซี เมืองเล็กๆ ที่สวยงามอย่างกับหลุดออกมาจากโปสการ์ดเลยล่ะค่า อากาศดี โรแมนติก วิวสวยมากกก สวรรค์บนดินดีๆ นี่เองง >3< เมื่อมองไปรอบๆ ก็จะเจอเทือกเขาที่โอบล้อมเมืองไว้ ทุ่งหญ้าสีเขียว ทุ่งดอกไม้ละลานตา หมู่บ้านที่แสนน่ารักกกและเป็นระเบียบ ร้านอาหารบรรยากาศดีๆ และทะเลสาปแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส อิอิ ผู้คนจะมาเล่นว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นวินด์เซิร์ฟ เวคบอร์ดและสกีน้ำกันค่า

หรือจะมาในช่วงฤดูหนาวเพื่อสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีน้ำแข็ง ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 138 กิโลเมตร ยาวไปตามเนินเขาระหว่างภูเขาถึง 3 ลูก! ได้แก่ ชมิทเทนโฮเฮอ (Schmittenhöhe) คิทส์ชไตน์ฮอร์น (Kitzsteinhorn) และมายสโคเกล (Maiskogel) ซึ่งสกีเป็นกิจกรรมยอดฮิตและมีชื่อเสียงของที่นี่ค่ะ มีตั้งแต่มือใหม่หรือเล่นสนุกๆ กับครอบครัว ไปจนถึงระดับการแข่งขันชิงแชมป์กันเลยทีเดียวค่า และในช่วงเดือนธันวาคม จะมีงานเทศกาลฤดูหนาวเกิดขึ้นในเมืองอีกด้วยย

อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือนั่งเคเบิลคาร์เพื่อชมวิวบนยอดเขาชมิทเทนโฮเฮอ (Schmittenhöhe) ที่สูงถึง 6,453 ฟุต ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด มองลงมาเห็นความสวยของเมืองได้แบบเต็มๆ สามารถเห็นภูเขาได้ไกลหลายลูกเลยค่า

เซลล์ อัม ซี ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากว่า 1 ล้านคนต่อปี จะคึกคักเป็นพิเศษในฤดูกาลท่องเที่ยว ถ้าอยากมาในช่วงที่คนไม่แน่นมาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนะค้า













 


*******************