ลิกเตนสไตน์ หลายๆ คนคงสงสัยว่า ประเทศอะไร อยู่ตรงไหนกันนะ?? นี่คือประเทศที่มีขนาดเล็กเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 160 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญของยุโรป เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์แห่งเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรแค่ 37,000 คน เท่านั้นเองค่า แต่กลับเป็นประเทศที่ร่ำรวยและมีผลิตภัณฑ์หรือรายได้รวมต่อประชากรสูงเป็นอันดับสองของโลก! หูววว น่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ม้าา >,<

เที่ยวปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle)


สถานที่แรกที่ไม่ควรพลาดก็คืออ ปราสาทวาดุซ ปราสาทอันเก่าแก่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงชันใจกลางเมืองวาดุซค่ะ เป็นโบราณสถานจากยุคกลาง มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี เมื่อตอนช่วงต้นศตวรรษที่ 12 ถูกสร้างเป็นป้อมปราการมาก่อนค่ะ ต่อมาได้มีการปรับปรุงใหม่มาเรื่อยๆ โดยเจ้าชายฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ 2 (Franz Josef II) ปัจจุบันเป็นสถานที่ประทับอย่างเป็นทางการของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์และราชวงศ์ผู้ปกครองรัฐลิกเตนสไตน์ (The Princely House of Liechtenstein) จึงทำให้สามารถเยี่ยมชมได้แค่ภายนอกปราสาทเท่านั้น แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมากันไม่ขาดสายเลยนะคะ

โดยจุดเด่นของปราสาทแห่งนี้ก็คือ สามารถชมวิวได้แบบทุกทิศทุกทาง!! เราจะได้เห็นเมืองวาดุซในมุมกว้างงง สุดลูกหูลูกตา มองเห็นร้านค้า หมู่บ้าน ชุมชน ลุ่มแม่น้ำไรน์และเทือกเขาแอลป์ที่อยู่ระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับออสเตรียและหิมะปกคลุมอยู่ มันนนดีย์มากกก!

โดยเราจะต้องขึ้นเขาเพื่อมายังตัวปราสาท จะขับรถขึ้นมาหรือเดินก็ได้ค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว ^^ แต่สำหรับหญิงปุ๊กคิดว่าไม่เหนื่อยน้า เพราะมัวแต่ชมวิวข้างทางเพลินๆ เสียงความวุ่นวายในเมืองค่อยๆ หายไป แทนที่ด้วยเสียงของธรรมชาติ และยังมีป้ายข้อความที่เล่าข้อมูลเกี่ยวกับระบอบราชาธิปไตยที่ใช้ในการปกครองประเทศลิกเตนสไตน์ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันให้อ่านอีกด้วยค่ะ












เที่ยวบ้านสีแดงแห่งวาดุซ (Red House)


บ้านสีแดงแห่งวาดุซ บ้านท่ามกลางภูเขา เป็นที่รู้จักกันในเรื่องของสีสันอันโดดเด่นสะดุดตา ที่เห็นครั้งแรกคืออยากรีบวิ่งเข้าไปถ่ายรูปเลยล่ะค่าา ลักษณะภายนอกของตัวอาคารเป็นสีแดงเข้ม จึงเป็นที่มาของชื่อ Red House นั่นเอง ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน 5555 เมื่อเข้าไปภายใน จะเจอห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีบันไดรูปทรงหน้าจั่วตั้งเด่นอยู่

ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยในอดีตพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นที่ดินของราชวงศ์ Saint Johann สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไป จนในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1902 - 1905 ตระกูลของ Rheinberger ได้เข้ามาครอบครองดูแลบ้านหลังนี้ โดย Egon Rheinberger เป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียงในลิกเตนสไตน์ มีความสามารถทั้งทางด้านแกะสลัก สถาปนิก ได้มาบูรณะซ่อมแซมบ้านหลังนี้ให้ดูสวยงามมากขึ้น และมีการปรับปรุงซ่อมแซมมาเรื่อยๆ จนในปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ได้ค่า








เที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kunstmuseum (Art Museum)


ใครชอบงาน Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ตอบโจทย์ค่า Liechtenstein State Art Gallery หรือ Kunstmuseum Liechtenstein ตั้งอยู่ในเมืองวาดุซ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2000 ออกแบบมาได้ทันสมัยสุดๆ ด้วยรูปทรงที่แปลกตา ทำจากหินบะซอลต์สีดำเกือบทั้งหลัง ซึ่งพอโดนแสงแดดในตอนกลางวันจะส่องประกายย คือดี คือเลิศศ *0* ด้านหน้าทางเข้ามีรูปปั้นเปลือยทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่สร้างโดย Fernando Botero นอนอยู่บนแท่น คล้ายกับกำลังอาบแดด

และยังเป็นสถานที่รวบรวมผลงานชั้นเยี่ยมของชาวยุโรปไว้หลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน ทั้งผลงานภาพวาดของเจ้าชายแห่งลิกเตนสไตน์ เห็นแล้วเหมือนได้ย้อนกลับไปยุคเรอเนซองส์เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ยังมีงานประติมากรรมต่างๆ ภาพวาด รูปปั้น และผลงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ สามารถเดินชมผลงานจากศิลปินต่างๆ อย่าง Michelangelo Pistoletto, Fortunato Depero, Willem de Kooning กันได้แบบจุใจ! และจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือจะมีการจัดแสดงนิทรรศการงานศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลกอยู่เป็นประจำ เช่น ผลงานจาก Andy Warhol และ Picasso











เครดิตรูปภาพจาก : https://www.kunstmuseum.li/?page=5&jahr=&vid=1130&aid=349&lan=en

เดินดูจนครบแล้ว ก็มานั่งพักจิบกาแฟและขนมได้ที่คาเฟ่ที่อยู่ตรงทางเข้าหลักด้านในได้นะคะ มีอาหารอร่อยๆ เพียบ หรือจะแวะร้านขายของที่ระลึก ที่นี่มีถุงและเสื้อที่ระลึกมากมายให้เลือกซื้ออีกด้วย


เที่ยวปราสาทกูเตนเบิร์ก (Gutenberg Castle)


ปราสาทกูเตนเบิร์ก เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาความสูงประมาณ 70 ฟุต ใจกลางเมืองบัลเซอร์ (Balzers) เห็นตอนแรกคือแอบขนลุกเบาๆ ดูขลังและโบราณอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ.. ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1296 ถือเป็นอีกปราสาทที่สวยงาม ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 ปราสาทในลิกเตนสไตน์ และเป็นแค่ 1 ใน 2 แห่งที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้ค่า ที่นี่ไม่ได้ใช้เป็นที่ประทับของเหล่าราชวงศ์ แต่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่างๆ ในสมัยก่อนไว้อย่างดี ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมได้ค่ะ

โดยตัวปราสาทถูกล้อมรอบไปด้วยโบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nikolaus Church) โรงเรียน และอาคารศาลากลาง นอกจากนี้ตรงบริเวณเชิงเขาใกล้ปราสาทยังมีไร่องุ่นกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และทุ่งดอกไม้อันสวยงาม ในช่วงที่อากาศอบอุ่นจะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตและแสดงละครให้ชมกันอีกด้วยค่า ถือว่าเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพดีมากกกก เนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็ก ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ใครที่รักความสงบและชอบชื่นชมธรรมชาติ คือฟินแน่นอนนนน












เที่ยวหมู่บ้านมัลบุน (Malbun)


หมู่บ้านมัลบุน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ (Alps) มีระดับความสูงอยู่ที่ 1600 เมตร จะมาในช่วงหน้าร้อนก็ดี ช่วงหน้าหนาวนี้ก็เด็ด! นอกจากจะเป็นชุมชนที่อยู่สูงที่สุดของประเทศและยังเป็นสกีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียวในลิกเตนสไตน์ ยังเป็นศูนย์รวมกีฬาฤดูหนาวชั้นเยี่ยม *0* จนได้รับรางวัลจากสภาท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วยย จะมากับเพื่อนหรือพาครอบครัวมาก็ย่อมได้นะจ๊าา ยิ่งมีเด็กๆ มาด้วยที่นี่คือเหมาะมาก เพราะเค้ามีสวนสนุกเล็กๆ ให้กับเด็กๆ ได้สนุกสนานกัน ไม่ว่าจะเป็นกระดานลื่น ลูกบอลหิมะ ใครที่ชอบเล่นสกี เล่นหิมะ หรือเดินป่าในช่วงฤดูหนาวก็สามารถมาเที่ยวที่นี่กันได้ค่า









อย่าลืมแวะมาที่พิพิธภัณฑ์สกี (Ski Museum) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้านมัลบุน ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเล่นสกีที่มีมากว่า 100 ปี งานนี้เอาใจคนรักสกีสุดๆ ไปเล้ยย