เที่ยวซัปโปโร เมืองหลวงเกาะฮอกไกโด ในหน้าหนาวยังไงให้คุ้ม วันนี้หญิงปุ๊กมีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันจ้า ช่วงที่เหมาะสมที่จะไปมากที่สุด คือต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เพราะตรงกับหลายเทศกาล ทำให้ช่วงเวลานี้คึกคักมากเป็นพิเศษเลยค่ะ

 

เที่ยวเทศกาลหิมะซัปโปโร Sapporo Snow Festival


เมื่อหน้าหนาวมาเยือน ร่างกายก็โหยหาหิมะขาวๆ เย็นๆ ขึ้นมาทันนนใดดด.. >,< และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็คือ เที่ยวเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่สวนสาธารณะโอโดริ ( Odori Park ) จ้าาาา

ที่สวนนี้ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นสวนสีเขียวสุดร่มรื่น เมื่อเข้าเดือนกุมภาพันธ์จะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน และจะต้องตื่นตาตื่นใจกับรูปปั้นแกะสลักหิมะ จากฝีมือของนักปั้นและนักแกะสลักจากทั่วโลกที่มาประชันฝีมือประกวดผลงานสุดยิ่งใหญ่อลังการนี้เป็นร้อยๆ ชิ้น *0* ได้ข่าวว่าทีมจากประเทศไทยของเราสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 ปีซ้อนเลยนะจ๊าาา อร้ายยย ชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ อิอิ

โดยแต่ละผลงานจะถูกปั้นอย่างปราณีตเป็นรูปร่างต่างๆ ทั้งรูปสิ่งก่อสร้างที่สำคัญๆ บุคคลชื่อดัง ตัวการ์ตูนสุดน่ารัก และลายอื่นๆ อีกเต็มไปหมด มีตั้งแต่ขนาดเล็กๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยขนาดที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีความสูงถึง 15 เมตร และยาว 25 เมตรเลยทีเดียว แต่ละผลงานนี่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ สวยงามอลังการจนเอลซ่ายังต้องกรีดร้องงง >,< อีกมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นความงามได้ชัดๆ ก็คือที่ Sapporo TV Tower ที่ด้านตะวันออกของโอโดริปาร์คค่า

ในงานยังมีสไลด์เดอร์ขนาดยักษ์ เขาวงกตที่ทำจากหิมะ คอนเสิร์ต และกิจกรรมอีกมากมาย ที่ล้วนแต่ทำมาจากน้ำแข็งทั้งนั้น ให้เราได้สัมผัสกับหิมะสุดคูลลลลนี้ได้อย่างเต็มอิ่ม หนาวๆ หิวๆ ก็มีร้านอาหาร และเครื่องดื่มร้อนๆ บริการอีกด้วยจ้า

โดยเทศกาลชื่อดังนี้มีจุดเริ่มต้นในปี 1950 เมื่อกลุ่มนักเรียนมัธยมได้สร้างรูปปั้นหิมะเล่นกันในสวนสาธารณะโอโดริ และต่อมาได้มีการจัดการประกวดขึ้น ทำให้มีการสร้างรูปปั้นหิมะและน้ำแข็งที่สวยงามมากมาย สามารถดึงดูดผู้คนกว่า 2 ล้านคนจากญี่ปุ่นและทั่วโลก จนกลายเป็นเทศกาลสุดฮิตประจำฤดูหนาวของญี่ปุ่นถึงทุกวันนี้ เจ๋งมากก
โดยจะจัดขึ้นปีละครั้ง ทุกต้นเดือนกุมภาพันธ์ และในปี 2017 จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ถึง 12 กุมภาพันธ์ ค่า

shutterstock_176066504

10460478_10153408283497203_4354932652442948427_n

10929163_10153408283217203_2526091094465295122_n

 

เที่ยวเทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ Otaru Snow Light Path Festival


เทศกาลฤดูหนาวอันแสนอบอุ่น ณ เมืองที่โรแมนติกที่สุดในเกาะฮอกไกโด >3< คือเทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุนั่นเองจ้าา เริ่มมีมาครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ 1999 บนถนนริมคลองสายเล็กๆ ที่มีความยาวแค่ 300 เมตร ประดับประดาไปด้วยแสงไฟตลอดทาง รวมถึงในคลองด้วย รวมๆ แล้วมากกว่าแสนดวง!! คือมันสวยมากกกกกค่ะ ทั้งไฟจากบ้านเรือน ร้านค้า โคมไฟ และเทียน ประกายระยิบระยับคู่กับรูปปั้นหิมะเล็กๆ สว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง เห็นครั้งแรกคืออยากจะชวนชายหนุ่มมาเดินจูงมือ โรแมนติกน่าดูเลยยย อร้ายยยยย >///< ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยายอย่างไหนอย่างนั้นเลยค่า

ที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาก่อน บริเวณริมคลองจึงมีโกดังเก็บสินค้าสร้างไว้มากมาย ปัจจุบันได้ปรับปรุงโกดังเหล่านั้นมาเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านขายของ เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่สวยงาม และมีเทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุนี้เป็นเทศกาลประจำปีของเมืองที่โด่งดัง และดึงดูดผู้เข้าชมถึง 5 แสนคนต่อปีเลยทีเดียวค่า

เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี พร้อมๆ กับ Sapporo Snow Festival มาทั้งทีก็ไปชมทั้งสองงานเล้ยย โดยครั้งต่อไปจะจัด ระหว่างวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 17.00-21.00 น.

10407270_10153409638237203_447287123297308401_n

10968404_10153409638362203_4344294852376338267_n

P1030547

 

 

 

 

นกเพนกวินแคทวอร์ค สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า Asahiyama Zoo


เที่ยวสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า สวนสัตว์ชื่อดังของญี่ปุ่นนน..! ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองอะซาฮิกาว่า ความจริงเปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1967 แล้วนะคะ แต่เป็นที่รู้จักมากขึ้นก็หลังจากได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี ค.ศ 1997 โดยได้จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับสัตว์แต่ละชนิด และให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ค่ะ
มีสัตว์ทั้งหมดกว่า 700 ตัว 124 ชนิด ทั้งสัตว์เมืองหนาวและเมืองร้อน เช่น สิงโต เสือ ยีราฟ หมาป่า ลิง เพนกวิน หมีขาวขั้วโลก แมวนํ้า สิงโตทะเล และยังมีสัตว์ประจำถิ่นของฮอกไกโด คือสุนัขจิ้งจอกคิตะคิสึเนะอีกด้วยยย มีสัตว์อีกจำนวนมากเลยนะคะที่หาดูที่ไหนไม่ได้ แต่ดูได้ที่นี่ที่เดียว ง่อวววววว!

และมีความเจ๋งกว่าที่อื่นอีกตรงที่ มุมมองของการชมสัตว์ต่างๆ นี่แหวกแนวไม่เหมือนใคร ได้เห็นแบบโคลสอัพระดับHDกันเลยทีเดียวว *0* ทั้งโซนแมวน้ำที่เป็นหลอดแก้วกลางห้อง เจ้าแมวน้ำก็ว่ายขึ้นมาทักทายผู้คน เหมือนรู้งานจริงๆ

โซนหมีขาวขั้วโลกและหมาป่าก็มีโดมแก้วตรงกลางเหมือนกันนะคะ แถมมีช่องให้เราเอาหัวลอดไปป๊ะหน้าได้จังๆ ตามองตาได้อีกด้วย ปิ๊งๆ *3* อู้ววว เจ้าหมีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน คนแห่กันถ่ายรูปยิ่งกว่าณเดชมาซะอีกนะเนี่ย เอิ๊กๆ

อุโมงค์ใต้นํ้าที่มีเพนกวินว่ายไปมาอยู่ด้านบน มองมุมนี้ตื่นเต้นมากก >,< เหมือนอยู่โลกใต้ทะเลเลยค่า และในช่วงฤดูหนาวยังมีไฮไลท์เด็ดคือ การเดินขบวนพาเหรดของเพนกวินที่น่าร้ากกกก เด็กๆ นี่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน อรั้ยยยย แต่ละตัวเดินกันอย่างมั่นใจ แหม่ นึกว่าติช่า The face Thailand 555 จริงๆ คือเป็นการพาเพนกวินมาเดินออกกำลังกายในช่วงหน้าหนาวค่า เพนกวินน้อยดูมีความสุขไม่แพ้คนดูเลยย ^0^ โดยขบวนพาเหรดนี้จะเริ่มช่วงปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม จัดแสดงโชว์วันละ 2 รอบ รอบละ 30 - 40 นาทีค่ะ

นอกจากนี้ ถ้าใครมาในช่วงเดือนพฤษภาคม จะได้เห็นต้นซากุระฮอกไกโดออกดอกสวยๆ เรียงรายเต็มไปหมดที่บริเวณด้านหน้าของสวนสัตว์ นี่ยังไม่ทันได้เข้าไปข้างในก็ต้องแวะถ่ายรูปกันซัก 1 เซทแล้วแหละ อิอิ
เป็นการพักผ่อนในวันหยุดที่มากันได้ทุกเพศทุกวัย รับรองว่าหนำจุใจกันอย่างแน่นอน มาเที่ยวสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า มีแต่คุ้มกับคุ้ม!

10968583_10153408137062203_2622026273800566901_n

10978664_10153408137692203_6866309980883466686_n

10959441_10153408138992203_8327058999001530689_n

 

เที่ยวโรงงานช็อคโกแลตอิชิยะชิโรอิโคอิบิโตะ Shiroi Koibito Park


สายของหวานอย่างเราต้องไม่พลาดดดด เที่ยวโรงงานช็อคโกแลตอิชิยะชิโรอิโคอิบิโตะ เป็นโรงงานผลิตช็อคโกแลตสารพัดรูปแบบ มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 และได้ผลิตออกมาในชื่อยี่ห้อ ชิโรย โคอิบิโตะ ( Shiroi Koibito ) ค่า
ที่โรงงานแห่งนี้เปิดให้คนได้เข้าชมความน่ารักของโรงงาน ได้เห็นการผลิตช็อคโกแลตตั้งแต่ต้น จนถึงบรรจุห่อออกขายเลยทีเดียว *0* สามารถเดินชมได้ทั่วทั้งโรงงาน โดยจุดต่างๆ ก็จะมีการให้ข้อมูลความรู้ ชมไปก็น้ำลายไหลไป แฮ่ๆ มีกิจกรรมทำคุ้กกี้ด้วยตัวเองด้วยนะคะ เด็กๆ ก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็เพลิน เรื่องรสชาติ ไม่รู้เป็นเพราะของเค้าดี หรือเรามีฝีมือกันแน่ ต้องเป็นเพราะทั้งสองอย่างแน่ๆ เลย >,< กร้ากกกก

บริเวณรอบๆ มีสวนสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อน ในช่วงฤดูร้อนจะเห็นดอกกุหลาบสวยๆ บานเต็มสวนด้วยนะค้า มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก หอนาฬิกา หอคอยขนมเค้ก บ้านรังนก รถไฟ พิพิธภัณฑ์ของเล่น มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย และยังมีสนามฟุตบอล Shiroi Koibito Park เป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอล J-League อีกด้วยค่า

มีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านขนมแสนอร่อย สามารถซื้อมากินได้ระหว่างเดินชม ^0^ มีความสุขจริงจริ๊งงงง
ของฝากสุดฮิตของที่นี่ที่ใครมาก็ต้องซื้อคือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio จ้า เป็นคุ้กกี้เนยสอดไส้ไวท์ช็อคโกแลตและมิลค์ช็อคโกแลต หลายเสียงบอกว่าอร่อยมว้ากกกก ตอนนี้กลายเป็นของฝากชื่อดังของฮอกไกโดและญี่ปุ่นไปแล้วจ้า

เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ 09.00-18.00 น.งานนี้ฟรี!

10954597_10153418510002203_5999732855309843483_n

10959318_10153418510092203_6404399826996187725_n

P1030720

 

เที่ยวไอซ์พาวิลเลียน Ice Pavillion


จะสัมผัสหิมะนี่ไม่ต้องรอหน้าหนาวแล้วนะคะรู้ยัง? >3< มาเที่ยวไอซ์พาวิลเลียน พิพิธภัณฑ์หิมะแห่งแรกของโลก อยู่ที่เมือง Kamikawa จะหน้าร้อน หน้าฝนก็มาเจอความเย็นยะเยือกได้ที่นี่ตลอดทั้งปีเลยค่าาา

ด้านในเป็นเหมือนโลกน้ำแข็งแสนสวย มีอุโมงค์น้ำแข็งอุณหภูมิกว่า – 20 c° ลักษณะเหมือนกับหินงอกหินย้อย แถมมีสีสันเป็นประกายวิ้งวับอย่างกับกากเพชรแน่ะ! โดยเกิดจากการจับตัวของน้ำแข็งยาวนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียวค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอรูปปั้นแกะสลักหิมะเป็นรูปต่างๆ และเจ้าสโนว์แมนยืนท้าความหนาวอยู่ตามทาง ชมความสวยไป ปากก็สั่นหงึกๆๆ ไป อ้ออ ที่นี่มีบริการให้ยืมเสื้อหนาวฟรีด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวลว่าเสื้อของเราจะไม่หนาพอ ( ขอยืมซัก 10 ตัวได้ไหมคะ ณ จุดๆนี้ >”< 5555 )

แต่นี่ยังจิ๊บๆ ค่ะ เพราะยังมีห้องลมจำลองอุณหภูมิ -41 c° เป็นลมพายุจำลองที่รุนแรงที่สุด และเป็นอุณหภูมิที่หนาวที่สุดที่ประเทศญี่ปุ่นเคยบันทึกไว้ด้วยค่า o-O!! เมื่อกดปุ่มจะมีลมพายุกระหน่ำพัดใส่อย่างหนักหน่วง โอ้แม่เจ้าาา!! เอลซ่ายังต้องหลั่งน้ำตาล่ะค่ะงานนี้ มันช่างหฤโหดกับผู้หญิงบอบบางอย่างเราจริงๆ TOT แต่เราสตรองค่ะ เราต้องสู้! มาเล้ยย! โกรธแค้นอะไรมาลงที่เราได้เลยยย ไหนๆ ก็มาทั้งที่ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ มันส์!!

หลังจากต่อสู้กับความเย็นบาดขั้วหัวใจกันแล้ว ก็สามารถเดินออกมาจิบชาร้อนๆ กับคุ้กกี้ได้ อ่าส์ สวรรค์ของหนู T3T มีร้านขายของฝาก และร้านไอศครีมที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย
ไอซ์พาวิลเลียนแห่งนี้ เปิดเวลา 8:30-17:30 สามารถมาได้ทุกวันเลยจ้า

1511151_10153405478812203_899472423903182792_n

P1030052

10456078_10153405481692203_693122539399277050_n

 

ล่องเรือตัดน้ำแข็ง มอนเบ็ทสึ (Monbetsu)


การเที่ยวเรือตัดน้ำแข็ง Garinko II ที่มอนเบ็ทสึเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ท้าความเย็นนนนและตื่นเต้นมากค่ะ >,< ถูกจัดให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 เป็นการล่องเรือชมความงามของวิวทะเล และก้อนน้ำแข็งยักษ์ หรือ ice drift สีขาวโพลนที่ลอยละลิ่วปลิวละล่องมาจากขั้วโลกเหนือ และปกคลุมทะเลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ค่าาา
ซึ่งปกติจะเห็นได้ในแถบอาร์กติกเท่านั้นนะคะ แต่สามารถมาชมได้ในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม แค่ปีละครั้งเท่านั้นน้า

โดยเรือ Garinko II ลำใหญ่สีแดงนี้ จะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ สงสัยกันใช่มั้ยคะว่าน้ำแข็งหนาๆ ขนาดนี้เรือวิ่งผ่านไปได้ยังไง? :P แหม่ ความสนุกตื่นเต้นมันอยู่ตรงนี้นี่แหละจ้าาา ใต้เรือจะมีสว่านขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งมาก สามารถบดเจ้าก้อนน้ำแข็งยักษ์ได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วย ตอนที่เรือกระแทกกับก้อนน้ำแข็ง ทั้งตัดทั้งบดและผลักออกไปมันสะใจจริงๆ กร้ากกก 555

และทีเด็ดที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างก็คือ สัตว์จากขั้วโลกที่ลอยติดก้อนน้ำแข็งมา ทั้งหมีขาว นก แมวน้ำ อร้ายยย น่ารักน่าชัง หนาวมั้ยลูกกก >3< ซึ่งนานๆ ทีที่จะได้เห็นนะคะ รอบไหนจะได้เป็นผู้โชคดีก็ลุ้นเอา อิ้อิ้ และถ้าใครอยากเห็นมุมที่ใกล้ขึ้นก็สามารถขึ้นไปดูที่ห้องโดยสารชั้นบนได้จ้า

โดยจะใช้เวลาล่องเรือนี้ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมงต่อรอบ เรือออกเวลา 09:00, 10:30, 12:00, 13:30 และ 15:00 แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเดือนที่เหมาะแก่การล่องเรือตัดน้ำแข็งนี้เป็นที่สุด จะมีการจัดรอบพิเศษขึ้น คือรอบ 06:00 น. และ 16:10 น.เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนก้อนน้ำแข็งยักษ์ค่า อร้ายยย โรแมนติกไปอี๊กกกก >///<

10388177_10153406375787203_4123053652536986506_n

17884_10153406375982203_845528401702248720_n

10649932_10153406376287203_4639064479257658166_n

 

เที่ยวเทศกาลน้ำแข็งมอนเบตสึ Drift Ice Festival


กิจกรรมท่ามกลางความหนาวนี้ยังไม่หมดนะจ๊าาาา ยังมีเทศกาลน้ำแข็งมอนเบตสึ เป็นเทศกาลฤดูหนาวที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน Okhotsk ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลยทีเดียวว

มีการแข่งขันแกะสลักรูปปั้น และประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่ ทั้งอาคาร ปราสาท และสิ่งก่อสร้างมากมาย จากหิมะธรรมดาๆ ที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ กลายเป็นรูปปั้นที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด *0* ตอนกลางวันว่าสวยแล้ว ยิ่งตอนกลางคืนนะทุกคนนนน จะมีแสงไฟสาดส่องตัดกับท้องฟ้ายามค่ำคืนทำให้รูปปั้นน้ำแข็งเหล่านี้สวยขึ้นไปอีก แอร้ยยย อย่างกับหลุดไปในโลกนิยายเลยค่าา

และในฐานะที่เมืองมอนเบตสึเป็นเมืองประมง จึงมีชื่อเสียงในเรื่องความอร่อยของอาหารทะเล ให้พวกเราได้อิ่มหนำสำราญไปกับกุ้ง หอย ปู ปลา และเมนูท้องถิ่นพิเศษในช่วงเทศกาลด้วยนะค้า กินเพลินๆ มองดูพลุและดอกไม้ไฟสวยๆ ไปท่ามกลางรูปปั้นหิมะเกร๋ๆ โอ้ยย นี่เจ้าหญิงเอลซ่ามาพักผ่อนรึเปล่าา คือดีจริงๆ โดยจะจัดขึ้นทุกช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจ้า แล้วจะต้องร้องพร้อมกันว่า โอ้มายก๊อดดด! >0<

1493253_10153406418117203_6099466249288967366_n

10987676_10153406417887203_5443271344815914480_n

1604646_10153406417942203_570417357477116157_n

 

เที่ยวพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Otaru Music Museum


เที่ยวพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่มีชื่อเสียง เก่าแก่ และใหญ่มากที่สุดในญี่ปุ่นค่า อยู่ที่เมืองโอตารุ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1910 เป็นตึก 3 ชั้น มีอายุกว่าร้อยปีมาแล้ว โดดเด่นด้วยผนังอิฐสีแดง และหน้าต่างสไตล์เรเนสซอง ด้านหน้ามีนาฬิกาไอน้ำโบราณที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้นนน แถมยังใช้การได้ดีอีกต่างหาก ซึ่งเมืองแวนคูเวอร์ได้มอบให้เป็นที่ระลึกแก่เมืองโอตารุค่ะ โดยจะมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสนใจเป็นอย่างมาก นี่น่าสนใจตั้งแต่ยังไม่เข้าไปด้านในเลยนะเนี่ย >,<

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยแสงไฟสีส้มนวลๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองโบราณ อบอุ่นและโรแมนติกฝุดๆ โดยได้รวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรูปแบบไว้กว่า 3,000 ชิ้น มีทั้งขายและตั้งโชว์ อยากได้ดีไซน์หรือลวดลายไหนที่นี่มีหมดจ้า เลือกกันได้ตามใจชอบเลย ทั้งแบบเครื่องแก้ว แบบไม้ ตุ๊กตา โคมไฟ ชุดน้ำชา กรอบรูป โลหะ ของเล่น และอีกมากมาย มีตั้งแต่รูปสัตว์น่ารักๆ ไปจนถึงของกิน อยู่ญี่ปุ่นขาดไม่ได้ก็คือลายซูชิ >”< สามารถเดินดูและสัมผัสกล่องดนตรีได้ทุกชิ้นเลยนะคะ เพลินมากกก

ที่ชอบคือสามารถทำกล่องเพลงของตัวเองได้ด้วยค่า *0* โดยเลือกแบบและเพลงเอง มีทั้งเพลงคลาสสิค เพลงป็อป เพลงฮิตทั้งของญี่ปุ่นและสากล (แต่หมอลำไม่มีนะจ๊ะ 555) และเลือกตุ๊กตามาตกแต่ง ซึ่งก็มีหลากหลายแบบ น่ารักคิคุต่างกันไปตามความชอบ แล้วก็มานั่งประกอบกัน ปิ๊งงงง! กล่องเพลงหนึ่งเดียวในโลกกก 1 ล้านก็ไม่ขาย เพราะขายตั้งแต่ 1 หมื่นแล้ว กร้ากกก ทำไว้เป็นที่ระลึกให้ตัวเอง หรือเป็นของแทนใจให้คนที่เรารัก ดีงามสุดๆ เลย และจะมีเจ้าหน้าที่ที่น่ารักคอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือตลอดเวลาด้วยค่า

ที่นี่เปิดทุกวันเวลา 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เข้าชมฟรี!!

P1030520

P1030525

shutterstock_422805385

 

เที่ยวแหล่งช้อปปิ้งซุซุกิโนะ Susukino


อยากตื่นตาตื่นใจก่อนนอนต้องมาเที่ยวซุซุกิโนะ ย่านช้อปปิ้งที่โด่งดังและใหญ่ที่สุดในซัปโปโรเลยค่า เป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหลและมีชีวิตชีวามาก โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เป็นถนนที่มีความยาว 400 เมตร คึกคักไปด้วยผู้คนและละลานตาไปกับแสงสีของป้ายไฟโฆษณาบนตึกและร้านค้าต่างๆ เห็นแค่ป้ายก็ร้องอู้หูวววแล้วค่า มาดึกแค่ไหนก็ไม่ง่วงล่ะงานนี้ ตาสว่างกันเลยทีเดียว *0*

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1870 ซุซุกิโนะเป็นเขตพื้นที่สีแดง ที่มีคนทำงานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและเป็นแหล่งมั่วสุม จนในปี 1960 รัฐบาลได้ปรับระเบียบใหม่พร้อมเปิดตัวรถไฟใต้ดิน และค่อยๆ ปรับปรุงพื้นที่ใหม่ มีการเปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และมีของที่มีราคาขึ้นมากขึ้น จนกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในปัจจุบันนี้

ตอนนี้ซุซุกิโนะได้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ภัตตาคาร ที่มีอาหารทะเลสดๆ ของฮอกไกโดให้อิ่มหนำสำราญพุง >0< ร้านค้า ไนต์คลับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด โรงแรม ที่พัก รวมกันมากถึง 4,000 ร้านค่ะ!! อู้ววว ต้องมากี่คืนถึงจะเข้าหมดครบทุกร้านละเนี่ยย 555

แม้ย่านนี้จะเปิดดึกดื่นตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ เพราะประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงมาก มีตำรวจคอยดูอยู่ตามจุดต่างๆ และบรรดาคลับบาร์จะอยู่ชั้นบนของอาคารจะต้องขึ้นลิฟต์ไป ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินหาร้านอาหารหรือเดินเล่นชมแสงสีต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยค่า

และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีเทศกาลน้ำแข็งซูซูกิโนะ (Susukino Ice Festival ) ที่เป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเป็นจำนวนมาก เพิ่มความคึกคักของแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้ขึ้นไปอีกค่า