ประโยชน์ของการ "ล่องเรือสำราญ" ไม่เพียงแต่ส่งมอบความสุข ความสนุกสนาน ความบันเทิง เสียงหัวเราะอันกึกก้อง และรอยยิ้มอันสดใสของน้องๆ นู๋ๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายแง่มุม หลากหลายเหตุผล ที่ทำให้เห็นว่า "การล่องเรือสำราญ" จะให้ประสบการณ์ที่มากกว่า เช่น การล่องเรือสำราญเปรียบเสมือนการศึกษาเคลื่อนที่ ทุกสิ่งทุกอย่างแปลกใหม่ มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ได้เรียนรู้โดยไม่ซ้ำในแต่ละวัน พบปะเพื่อนใหม่ ทดสอบทักษะความกล้าแสดงออกพร้อมสำหรับการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับความกระตือรือร้นที่อยากเรียนรู้ตลอดเวลาในสถานที่ ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้องเรียนเสมอไปนั่นเองค่า
 
วันนี้เรามีเหตุผลแบบสั้นๆ แต่เข้าใจง่าย กับ 10 เหตุผล ทำไมจึงควรพาเด็กๆ ไปล่องเรือสำราญสักครั้งในชีวิต อะไรกันที่จะสามารถทำให้คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครอง ลองเปิดใจ และให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการท่องเที่ยวแบบธรรมด๊า ธรรมดา ไปสู่โลกแห่งการเรียนรู้ และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ อันสุดพิเศษ และน่ามหัศจรรย์ ให้กับคุณนู๋ๆ ศูนย์รวมดวงใจน้อยๆ ของคนในบ้าน ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มที่ข้อแรกกันเลยค๊า 
 

1.   กิจกรรมบนเรือสำราญ

การล่องเรือสำราญเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในการนำเสนอประสบการณ์แบบออนบอร์ด(บนเรือ) ด้วยกิจกรรมมากมายที่คอยเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ให้เด็กๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น เกมส์สนุกสนาน โชว์การแสดงต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการ คลับแดนซ์ทดสอบความกล้าแสดงออก และ ศูนย์แสดงทักษะการประดิษฐ์ การวาดรูป ระบายสี เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ลงมือทำผลงานศิลปะชั้นเลิศด้วยตนเอง หรือสนุกกับการทดลองวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่ง ที่จะทำให้ทักษะทางความคิดของน้องๆ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา กิจกรรมบนเรือของสายเรือ Disney Cruises Line และ Royal Caribbean Cruises ถือเป็นตัวเลือกหลักที่ใช่สำหรับน้องๆ นู๋ๆ นั่นเองค่า มีกิจกรรมใดที่น่าสนใจ ติดตามต่อได้ที่  Disney Cruise Line และ Royal Caribbean สายเรือสำราญที่เด็กๆ รักมากที่สุด สนุกจนไม่อยากกลับบ้าน 
 
 
 

2. ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และแตกต่าง 

สำหรับน้องๆ นู๋ๆ ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ล่องเรือสำราญมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างถือเป็นเรื่องใหม่ และ แตกต่าง อันน่าทึ่ง และน่าตื่นตาตื่นใจ จนเริ่มอยากจะทำความรู้จัก และเรียนรู้ในทุกๆ เรื่องบนเรือสำราญ เช่น กราบเรือซ้ายขวาเรียกว่าอย่างไร (Port Side และ Starboard) วิธีการขับเคลื่อนของเรือ ระบบต่างๆ แผนผังบนเรือในแต่ละชั้นว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงแผนที่และตัวแปรของการเดินทาง เช่น ระยะทาง และสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์เดินทางในยามค่ำคืนในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากการเดินทางแบบปกติโดยทั่วไป เปลี่ยนมาเป็นการนอนเล่นอยู่บนชั้นดาดฟ้า ในขณะที่เรือกำลังลอยแล่นอยู่บนคาบมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เด็กๆ จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท้องฟ้าที่สวยงาม ล้อมรอบเต็มไปด้วยดวงดาว อาจจะมีคำถามที่ว่า คุณพ่อ คุณแม่คะ ดวงดาวบนท้องฟ้านั้นมีทั้งหมดกี่ดวงคะ ? เตรียมคำตอบกันไว้บ้างหรือยังเอ๋ย สำหรับเรือสำราญแนะนำขอเชิญชม ภาพรวมสายเรือสำราญ Disney Cruise Line และ ภาพรวมสายเรือสำราญ Royal Caribbean International ค่ะ
 


 

3. ทุกคนถือเป็นครู

บนเรือสำราญนั้นมีลูกเรือที่ปฎิบัติหน้าที่ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงแขกทุกท่านบนเรือสำราญที่เดินทางมาพักผ่อน แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ลูกเรือ และบรรดาแขกหล่านี้ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก ถือเป็นโอกาสทองของเด็กๆ ที่จะได้พบปะ พูดคุย และคลุกคลี กับผู้คนที่มาจากหลากหลายประเทศ หลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา หลากหลายภาษา และหลากหลายวัฒนธรรม ผู้คนเหล่านี้ล้วนแต่เปรียบเสมือนเป็นครู ที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และคุ้นเคยกับชื่อเมือง ชื่อประเทศ ที่ตั้งภูมิศาสตร์ ผู้ที่เปรียบเสมือนครูเหล่านี้ ก็คือ "กุญแจ" ที่นำไปสู่แผนที่โลกในอนาคตนั่นเองค่า 
 
 

 

4. มารยาท ในการเดินทางท่องเที่ยว

การล่องเรือสำราญถือเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ที่จะสอนเหล่านักเดินทางตัวน้อย ได้มากกว่าประสบการณ์เดินทางแบบธรรมดาโดยทั่วไปค่ะ ความเป็นจริงแล้ว เรือสำราญนั้น เปรียบเสมือนโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ที่ลอยแล่นอยู่บนคาบมหาสมุทร นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าลูกเรือ รวมถึงพนักงานทุกท่านบนเรือต่างได้รับการฝึกในเรื่องของมารยาทในการให้บริการ การนำเสนอ ขั้นตอน และวิธีการที่ปฏิบัติต่อแขกทุกท่านแบบมีความเป็นมืออาชีพนั่นเองค่ะ
 
สิ่งที่เราและผู้ปกครองมองลึกลงไปกว่านั้น นั่นก็คือ การปลูกฝังนักเดินทางตัวน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการสอนตามอายุของน้องๆ ด้วยเช่นกัน น้องๆ นู๋ๆ จะได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้ จากการเป็นคนช่างสังเกตุ จดจำ และนำไปปฎิบัติตาม เช่น มารยาทที่อยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นเคย เรียนรู้กฏระเบียบ กติกาเกี่ยวกับการเดินทาง มารยาทบนโต๊ะอาหาร หรือแม้แต่การสั่งเมนูอาหารด้วยตัวเอง การมีปฎิสัมพันธ์ และได้พูดคุยกับบริกร หรือการวางตัวที่สุภาพและอ่อนน้อม ทั้งหมดที่ว่านี้ ถือเป็นหัวใจหลักของมารยาทการเข้าสังคม และเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในอนาคตนั่นเองค่า บนเรือสำราญจึงเป็นอะไรที่มากกว่าเรื่องของการเที่ยวหรู อยู่สบาย แต่จะคอยสอดแทรกในเรื่องของมารยาท โดยที่เด็กๆ จะไม่รู้สึกอึดอัด แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องที่น่าท้าทาย และสนุกที่ได้เรียนรู้พฤติกรรมแบบนี้ด้วยตนเอง 
 

 

5. ภาษา

ทักษะการสื่อสาร "ภาษา" เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการใช้ชีวิตในปัจจุบันค่า หากใครที่สามารถใช้ทักษะในการสื่อสารได้มากกว่า 1 ภาษา ย่อมได้เปรียบและมีโอกาสทำอะไรได้ในหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะภาษาหลักที่สำคัญ นั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาสากลที่ผู้คนทั่วโลกใช้เป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารกัน การล่องเรือสำราญจะทำให้ น้องๆ นู๋ๆ ได้พบปะผู้คนที่หลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายภาษา ยกตัวอย่างเช่น หากเราเลือกเส้นทางล่องเรือในแถบ เม็กซิโก หรือแคริบเบียน น้องๆ นู๋ๆ จะได้พบกับผู้ที่พูดภาษา สเปน หรืออาจจะเป็นภาษาดัตช์ และฝรั่งเศส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเส้นทางและท่าเรือที่แวะเทียบท่า ผู้ปกครองอาจจะต้องสอนคำศัพท์พื้นฐานให้แก่ น้องๆ นู๋ๆ เพื่อให้เขาสามารถตอบโต้กับไกด์นำเที่ยว และบุคคลท้องถิ่นเหล่านั้นได้ หากเด็กๆ เหล่านี้ได้มีพื้นฐานในการเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งจากทางโรงเรียนมาก่อนหน้านี้ ย่อมเป็นโอกาสอันดีที่ให้เขาได้ฝึกฝนด้วยตัวเองมากขึ้นค่า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ลองพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารในระหว่างการท่องเที่ยวในช่วงปิดเทอมนั่นเองค่า
 

 

6. วัฒนธรรม

การล่องเรือสำราญนอกจากจะสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือแล้ว น้องๆ นู๋ๆ ยังมีโอกาสได้ไปเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ชายฝั่ง น้องๆ จะได้สัมผัสกับความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมในแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาค สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ หากได้มีโอกาสเดินทางมาในช่วงเทศกาล ก็จะได้เห็นประเพณีท้องถิ่น และได้มีโอกาสเห็นขบวนพาเหรดตามเทศกาลที่จัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมในเรื่องของอาหารตามแต่ละท้องถิ่น ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และท้าทายสำหรับน้องๆ นู๋ๆ เป็นอย่างมากที่พวกเขาจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ พร้อมบรรยากาศ รวมถึงวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเดิมนั่นเองค่า ตัวเลือกในการล่องเรือช่วงไฮซีซั่นจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดค่า
 

 

7. ประวัติศาสตร์ความเป็นมา 

เรือสำราญจะพาน้องๆ นู๋ๆ ไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของแต่ละประเทศ ที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับ อารยธรรมโบราณอันเก่าแก่ นับ ร้อยนับพันปี อันได้ถูกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรยูเนสโก้ในปัจจุบัน น้องๆ จะได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่ยังคงเก็บเรื่องราว และบอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ สิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับบุคคล และเยาวชนรุ่นหลัง รวมถึง น้องๆ นู๋ๆ เหล่านักเดินทางล่องเรือสำราญทุกท่าน โดยพวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าแต่ละประเทศนั้น ล้วนมีที่มาที่แตกต่างกันไป มีความเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้น จนนำมาสู่การพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคปัจจุบันให้เราได้เห็น โปรแกรมทัวร์ชายฝั่ง และไกด์นำเที่ยวผู้ที่มีความรู้ความสามารถ จึงเป็นสิ่งสำคัญในทริปการล่องเรือสำราญนั่นเองค่า
 

 

8. เรียนรู้ธรรมชาติ

ความหลากหลายทางด้านภูมิภาคของแต่ละประเทศ ล้วนมีคุณสมบัติทางภูมิศาสตร์ทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น ที่แตกต่างกันไปค่ะ การล่องเรือสำราญจะพาเหล่าน้องๆ นู๋ๆ ได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติ และลัดเลาะไปในเส้นทางที่มีความหลากหลาย อาทิเช่น น้องๆ นู๋ๆ จะได้ไปสัมผัสความงามของผืนป่าที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ภูเขาที่ตั้งตระหง่านเรียงราย น้ำตกที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติสรรค์สร้าง ถ้ำที่ภายในมีความสวยงามของหินงอก หินย้อย ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและกาลเวลา แฝงไปด้วยความลึกลับ รวมไปถึงความงดงามของโลกใต้ทะเล กิจกรรมดำน้ำ ดูปะการัง จึงเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการชมชีวิตสัตว์โลกใต้ท้องทะเล หลายแห่งได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่ทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์นั่นเองค่า
 
 

 

9. ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และการใช้เวลาที่คุ้มค่ากับครอบครัว

ความสุขที่ดีที่สุด คือการได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันกับคนที่รัก การได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน การได้มีเวลาเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่ควรค่าสำหรับครอบครัว และการเดินทางจะต้องไม่ทำให้น้องๆ นู๋ๆ เหนื่อยจนเกินไป การล่องเรือสำราญจึงตอบโจทย์เหล่านักเดินทางตัวน้อย การสนุกกับกิจกรรมทั้งบนเรือ และทัวร์ชายฝั่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่น้องๆ นู๋ๆ  ได้เรียนรู้ และได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว และสิ่งที่ดีที่สุด คือ การมีห้องพักบนเรือสำราญให้เด็กๆ ได้กลับมานอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมพบกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ภาพความทรงจำ และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เมื่อกลับไปถึงบ้านคง อดอมยิ้มไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์กับเวลาที่ใช่ร่วมกันในทริปวันหยุดพักผ่อนจะวิเศษ และคุ้มค่าที่สุด จนเกินจะบรรยายเป็นคำพูดไปเลยค่า เราจึงขอยกตัวอย่างครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจากทริปการเดินทางล่องเรือสำราญ นั่นก็คือ ครอบครัวคุณจักษ์ ล่องเรือสำราญ Symphony of the Seas เที่ยวโรม ทริปสุดแสนประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน 
 
 

 

10. หมดปัญหาสำหรับการเคลื่อนย้ายสัมภาระที่กวนใจ

การเดินทางท่องเที่ยวทั้งครอบครัวบางครั้งก็อาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและลำบากอยู่ไม่น้อยค่ะ ด้วยการเคลื่อนย้ายกระเป๋าสัมภาระไปตามจุดหมายปลายทางต่างๆ แต่หากเลือกวิธีการท่องเที่ยว "ล่องเรือสำราญ" ปัญหาพวกนี้จะถูกขจัดออกไป น้องๆ นู๋ๆ คงต้องร้อง เฮ กันเสียงดังลั่นบ้าน เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการเคลื่อนย้ายกระเป๋าสัมภาระพวกนี้อีกต่อไป เปรียบเสมือนบ้านของเราอยู่บนเรือสำราญ และสามารถเคลื่อนย้ายตัวเราไปได้ในทุกหนทุกแห่ง สิ่งเหล่านี้จะทำให้น้องๆ นู๋ๆ นั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาจะมีเวลาท่องเที่ยว และมีโอกาสสนุกสนานไปกับการเรียนรู้โลกกว้าง ใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่า และเต็มที่สำหรับประสบการณ์ในครั้งนี้ เรือสำราญจะพาเด็กๆ เข้าไปสัมผัสยังสถานที่สำคัญ และมีเวลาเรียนรู้มากพอ ก่อนที่จะกลับขึ้นเรือสำราญ และมีเวลาเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังสถานที่ใหม่ๆ ในเช้าวันรุ่งขึ้น นั่นเองค่า 
 
 
 
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 10 เหตุผล ทำไมควรพาเด็กๆ ไปล่องเรือสำราญ จะเป็นประโยชน์ และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ คุณพ่อ คุณแม่ ที่จะพาลูกๆ ที่รัก ออกเดินทางสู่โลกกว้าง และใช้เวลาร่วมกันอย่างคุ้มค่า พร้อมไม่หยุดยั้งในการพัฒนาโอกาส และเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงวันหยุดล่องเรือสำราญอันสุดพิเศษ เพื่อให้พวกเขาได้สำรวจสิ่งมหัศจรรย์ และชมความงดงามบนโลกใบนี้ ได้อย่างแท้จริงค่า
 
ขอบคุณที่กรุณาติดตามการแนะนำเรือสำราญของ 'หญิงปุ๊กพาเที่ยว' ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการล่องเรือสำราญกับทริปในฝันของคุณๆ นะค้าาาาา
 

 
Update: September 2020