ล่องเรือสำราญ Anthem of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean International

วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับเรือสำราญที่มีชื่อว่า "Anthem of the Sea" เรือในตระกูล Quantum Class ของสายเรือ Royal Caribbean International เรือสำราญ "Anthem of the Sea " ได้เปิดตัวเมื่อปี 2015 มีน้ำหนัก 168,666 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 4,905 ท่าน เป็นเรือที่ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัว และกลุ่มที่ยกขบวนไปเป็นก๊วนเพื่อนฝูง โดยภายในเรือจะมีกิจกรรม ความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวก เหมือนกันกับเรือพี่สาวที่มีชื่อว่า Quantum of the Seas ค่ะ เช่น มี Bionic Bar หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ที่คอยชงเครื่องดื่มให้เราได้ดื่มกันทั้งวันทั้งคืน ถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำบนเรือสำราญก็ว่าได้ค่ะ และยังมีเครื่องเล่น The North Star เป็นกระเช้าลอยฟ้าชมวิวได้ 360 องศา ความสูงก็ราวๆ 300 ฟุต หรือ 91 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ต่อด้วย RipCord by iFly เครื่องเล่นดิ่งผสุธาจำลองเอาให้มันส์กันสุดเหวี่ยง บนเรือยังมีโซน Royal Esplanade ถนนสายช็อปปิ้งที่มีถึงสองชั้น (ชั้น 4,5) มีสินค้าปลอดภาษี และสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้เลือกหลากหลาย

คู่มือล่องเรือสำราญ Quantum of the Seas

คู่มือการเตรียมตัวล่องเรือสำราญ Quantum of the Seas

ล่องเรือสำราญ Allure of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean International

การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด ถือเป็นโอกาสในการลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ สักครั้งในชีวิต วันนี้เราจะขอแนะนำเรือสำราญ Allure of the Seas เรือสำราญลำที่สองในตระกูล Oasis Class ค่ะ เรือสำราญ Allure of the Seas ถือได้ว่าเป็นเรือน้องสาวของ Oasis of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean Cruise Line เรือสำราญลำนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5,400 คน ตัวเรือมีน้ำหนักถึง 225,282 ตัน และเปิดตัวไปในปี 2010 และได้มีการปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ Allure of the Seas ถือเป็นเรืออีกหนึ่งลำที่มีแนวคิด "Seven Neighborhoods" ด้วยการแบ่งโซนต่างๆ ออกเป็น 7 โซน เพื่อสร้างความบันเทิง บวกกับเพลิดเพลิน สนุกสนานเต็มไปด้วยกิจกรรมสุดมันส์ โดยวางไฮไลท์สำคัญๆ ไว้บนเรืออย่างสมบูรณ์แบบ 7 โซนที่ว่านี้ ได้แก่ The Royal Promenade, Central Park, The Boardwalk, Pools and Sports Zone, Vitality of the Sea, Entertainment Place และ Youth Zone นั่นเองค่า

ล่องเรือสำราญ Oasis of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean International

ช่วงเวลาของการเดินทางได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการเปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ล่องเรือสำราญไปกับ Oasis of the Seas จะไม่ทำให้เหล่านักเดินทางผิดหวังอย่างแน่นอนค่า วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ เรือสำราญลำแรกในตระกูล Oasis Class นั่นก็คือ Oasis of the Seas ของ สายเรือ Royal Caribbean Cruise Line เรือสำราญลำนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5,400 คน ตัวเรือมีน้ำหนักถึง 225,282 ตัน และเปิดตัวไปในปี 2009 และได้มีการปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ Oasis of the Seas จัดว่าเรือลำแรกที่มีแนวคิด "Seven Neighborhoods" ด้วยการแบ่งโซนต่างๆ ออกเป็น 7 โซน เพื่อสร้างความบันเทิง บวกกับเพลิดเพลิน สนุกสนานเต็มไปด้วยกิจกรรมสุดมันส์ โดยวางไฮไลท์สำคัญๆ ไว้บนเรืออย่างสมบูรณ์แบบ 7 โซนที่ว่านี้ ได้แก่ The Royal Promenade, Central Park, The Boardwalk, Pools and Sports Zone, Vitality of the Sea, Entertainment Place และ Youth Zone นั่นเองค่า นอกจากนี้ยังเอาใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วยการแสดงโชว์ที่มีมากมายบนเรือ โดยโชว์เหล่านี้ได้รับรางวัลจาก Tony Award อย่าง Hairspray แน่นอนหล่ะค่ะว่าทุกท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงในการพบกับเหล่าตัวการ์ตูนชื่อดัง จากค่าย ดรีมเวิร์ค อย่างแน่นอน

ล่องเรือสำราญ Jewel of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean International

หากจะพูดถึงเรือสำราญสุดคลาสสิค อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของสายเรือยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกอย่าง Royal Caribbean International แล้วละก็ คงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรือลำนี้ Jewel of the Seas เรือสำราญที่มีกิจกรรมความบันเทิงมากมาย สุดคับคั่ง อาทิ เพลิดเพลินไปกับการแสดงละครบรอดเวย์ คาบาเรต์โชว์ มายากล ตลกคอมมาดี้ ยกขบวนกันมาในช่วงเย็น ณ โรงละคร Coral Theater หรือจะเป็นเสี่ยงโชคไปกับ คาสิโน ที่มีพื้นที่กว่า 600 ตร.ม บนเรือสำราญ ดื่มด่ำ และผ่อนคลายไปกับเลาจน์และบาร์ที่มีอยู่ทั่วเรือ พร้อมเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ไม่อั้น จุใจแบบสุดๆ ยังมีอาหารรสชาติอร่อยให้ได้เลือกทาน ไปกันได้ทั้งห้องอาหารหลักและห้องอาหารพิเศษ Windjammer Café บุฟเฟต์ 3 มื้อ แบบอิ่มแน่น ต่อด้วยอาหารอิตาเลียน Giovanni's Table และ Chops Grille เอาใจคนรักการทานสเต็กเนื้ออย่างดี

10 เหตุผล ทำไมควรพาเด็กๆ ไปล่องเรือสำราญ

รู้หรือไม่คะว่า ประโยชน์ของการ "ล่องเรือสำราญ" ไม่เพียงแต่ส่งมอบความสุข ความสนุกสนาน ความบันเทิง เสียงหัวเราะอันกึกก้อง และรอยยิ้มอันสดใสของน้องๆ นู๋ๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายแง่มุม หลากหลายเหตุผล ที่ทำให้เห็นว่า "การล่องเรือสำราญ" จะให้ประสบการณ์ที่มากกว่า

ล่องเรือสำราญ Symphony of the Seas ของสายเรือ Royal Caribbean International

หากจะพูดถึงเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่และใหม่ที่สุดในขณะนี้ (2018) เราคงต้องพูดถึงเรือสำราญลำใหม่ล่าสุดของบริษัท Royal Caribbean International ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน ปี 2018 และเรือลำนี้ถูกต่อขึ้นโดยบริษัท STX ของฝรั่งเศส ใช้งบประมาณสูงถึง 1.35 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เรือลำที่กล่างถึงนี้คือ Symphony of the Seas ด้วยระวางขับน้ำขนาด 230,000 ตัน ตัวเรือที่มีทั้งหมด 18 ชั้น (14 ชั้นที่เปิดให้บริการ) มีความยาว 1,188 ฟุตและความจุผู้โดยสารสูงสุด 6,870 คน Symphony of the Seas กำลังตามรอยสามพี่สาวที่ออกมาอวดโฉมให้ cruiser ได้สัมผัสมาก่อนหน้านี้แล้ว คือ Oasis of the Seas (2013) Allure of the Seas (2014) และ Harmony of the Seas (2016) และบอกได้เลยค่ะว่า Symphony of the Seas ได้ทุบสถิติขึ้นเป็นเรือสำราญที่ใหญ่และใหม่ที่สุดในโลกเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่เพียบพร้อมกว่าด้วยความใหม่ และอัดแน่นไปด้วยความล้ำยุคและความรื่นรมย์ที่นำมาเติมเต็มฟีเจอร์ที่เทพกว่าเดิม

ขั้นตอนเข้าสู่รายการ Cruise Planner ของสายเรือ Royal Caribbean Cruise

Cruise Planner เป็นโปรแกรมในเว็บไซต์ของ Royal Caribbean International สำหรับให้ผู้ที่จองทริปเรือ Royal Caribbean Cruise เข้าไปจัดการกับรายละเอียดการจองทริปเรือของตัวเองได้มากมายหลายอย่าง ทั้งการจองรายการบนเรือในแบบที่ไม่เสียเงินเพิ่ม

เที่ยวเกาะส่วนตัว CocoCay ของสายเรือ Royal Caribbean International

มาเตรียมตัวเตรียมใจ กรี๊ดกันสนั่น พร้อมสนุกกันให้มันส์สุดเหวี่ยง อีกไม่นานเกินรอ น้องๆ หนูๆ และนักเดินทางล่องเรือสำราญทุกท่าน จะได้พบกับเกาะส่วนตัว Perfect Day Island at Cococay สวรรค์บนเกาะส่วนตัวในบาฮามาสแห่งนี้ถูกเนรมิตขึ้น โดยบริษัทเรือยักษ์ใหญ่อย่าง Royal Caribbean International

ไปล่องเรือสำราญในฝัน เรือไฮเทคลำใหม่ล่าสุดในเอเชียที่ชื่อว่า Ovation of the Seas: Royal Caribbean

ล่องเรือสำราญ Ovation of the Seas ประจำเส้นทาง เทียนจิน (ปักกิ่ง) ญี่ปุ่น น้องใหม่ นอกจากการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมการบริการให้สุดยอดขึ้นแล้ว ก็มีความจัดเต็มเรื่องของไซส์ ใหญ่บึ้ม เพราะมีขนาดใหญ่ถึง 168,666 ตัน มีทั้งหมด 18 ชั้น 2,901 ห้อง จุผู้โดยสารได้ 4,905 คน และลูกเรืออีก 1,500 คน สัดส่วนการบริการอยู่ที่ 1 ต่อ 3 และมีลิฟต์ 16 ตัว สนนค่าตัวอยู่ที่ $950 ล้าน หรือประมาณ 34,200 ล้านบาทเท่านั้นเองจ้าาา อั๊ยยะ..