เตรียมจัดกระเป๋าไปล่องเรือสำราญกันอยู่รึเปล่าคะ? สำหรับบทความนี้ เรามีคำแนะนำในการจัดกระเป๋าเดินทางสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะไปล่องเรือสำราญครั้งแรก โดยเฉพาะการเตรียมเสื้อผ้าและไอเท็มจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย
 
 

การเตรียมชุดเบื้องต้น สำหรับทั้งหญิงและชาย

 
เริ่มต้นกันที่การเตรียมชุดเบื้องต้นสำหรับหนุ่มๆ และสาวๆ  ก็จะขอแนะนำแบบภาพรวมก่อนนะคะ เพราะแต่ละสายเรือ อาจจะมีรายละเอียดแยกย่อยอื่นๆ ที่ไม่เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะทางสายเรือจะส่งรายละเอียดเรื่องเดรสโค้ด มาให้เราเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนออกเดินทางอยู่แล้ว
 
 
ชุดกลางวัน : ช่วงกลางวันบนเรือสำราญในวัน sea day ทุกคนสามารถแต่งกายในชุดไปรเวทได้ตามความต้องการ เรียกว่าฟรีสไตล์ในแบบที่ชอบได้เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำด้วยนะคะ เช่น ถ้าพักผ่อนสบายๆ นอนอ่านหนังสือ ฟังเพลงบนเก้าอี้ริมสระน้ำ ก็ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะได้ แต่ถ้าอยากลงไปว่ายน้ำในสระก็ต้องแต่งชุดว่ายน้ำตามกฏระเบียบของเรือ หรือถ้าไปใช้บริการห้องออกกำลังกาย คอร์ทเทนนิส สนามกอล์ฟ อันนี้ก็ต้องแต่งชุดกีฬาแบบสุภาพจะเหมาะสมกว่านะคะ ที่สำคัญอีกอย่างก็คือกางเกงยีนส์ทั้งขาสั้นและขายาว บางสายเรือมีกฏเกี่ยวกับการใส่ยีนส์เพิ่มมาตรงที่ว่า อาจจะดูไม่สุภาพถ้าใส่เข้าไปใช้พื้นที่สาธารณะ แต่ถึงจะให้ใส่ได้ก็ต้องเป็นยีนส์แบบสุภาพ ไม่ขาด ไม่ซีด เพราะฉะนั้นต้องระวังตรงนี้ด้วยค่ะ
 
 
ชุดกลางคืน : เรือสำราญหรูหราส่วนใหญ่ จะมีงานกาล่าไนท์ ที่ทุกคนทั้งหนุ่มๆ สาวๆ ต้องแต่งตัวออกงานกลางคืนแบบจัดเต็ม ถ้าใครไม่เคยไปมาก่อนก็ลองนึกภาพตามรูปแบบของงานเลี้ยงแต่งงานในโรงแรม ที่ทางเจ้าภาพมีเดรสโค้ดแจ้งมาในการ์ดแต่งงาน เช่นเดียวกับทางสายเรือ ที่จะแจ้งเดรสโค้ดให้เตรียมชุด Formal Dress มาร่วมงานกาล่าไนท์ สำหรับสาวๆ ก็จะเป็น ชุดราตรีแบบจัดเต็มค่ะ เน้นสุภาพ ดูดี และไม่เรียบจนเกินไป หรือจะเป็นชุดประจำชาติก็ได้เหมือนกันนะคะ  ส่วนหนุ่มๆ นั้น ชุดสุภาพแบบสากลที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือชุดสูทสีเข้มผูกไทด์  ชุดทักซิโด้ น่าจะเหมาะที่สุดแล้ว
 
 
นอกจากนี้ ทางเรือสำราญก็มีบริการเช่าชุด ทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย เช่น ชุดราตรีสั้น-ยาว ชุดสูท ทักซิโด้ สำหรับใครก็ตามที่ไม่ได้เตรียมชุดมาด้วยค่ะ แต่ทางที่ดีเตรียมของตัวเองมาให้พร้อมจะดีกว่านะคะ ไม่ต้องเปลืองค่าเช่าชุดด้วย
 
 
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือ ความหรูหราเป็นทางการของชุด รูปแบบของงานเลี้ยงขึ้นอยู่กับประเภทของเรือสำราญและโซนที่เดินทาง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเรือสำราญหรูเส้นทางล่องเรือแถบยุโรป ก็จะเน้นความหรูหราแบบจัดเต็มทั้งชุดและเครื่องประดับ  ส่วนเส้นทางล่องเรือไปยังแถบขั้วโลก หรืออลาสก้า อาร์กติก เส้นทางนี้ไม่เน้นจัดงานเลี้ยงหรูหรานะคะ 
 
 
 

การแต่งกายในห้องอาหาร 

 
ชุดลำลองทั่วไป (Casual) สามารถใช้ได้ที่ห้องอาหารบุฟเฟต์เช้า / กลางวัน 
 
 
ชุดสำหรับอาหารค่ำในห้อง Main Dining Room ในวันปกติ
สุภาพบุรษ               : ชุดสากลสุภาพ อาจเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อโปโลมีปก แล้วสวมสูทอ่อนทับ (Smart casual)
สุภาพสตรี               : ชุดสุภาพ
 
 
ชุดสำหรับอาหารค่ำในห้อง Main Dining Room ในคืนกัปตันไนท์ (Business Attire / National Costume)
สุภาพบุรษ               : ชุดสูทพร้อมเนคไท ทักซิโด้ หรือชุดประจำชาติ
สุภาพสตรี               : ชุดราตรีสั้น/ ยาว หรือชุดประจำชาติ
 
 

ต้องแต่งตัวไปงานกาล่าไนท์ กี่คืน ?

โดยปกติแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ล่องเรือสำราญ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 7-8 คืน ก็จะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบ Formal Night  2 คืน ซึ่งอาจจะเป็นคืนที่ 3 กับคืนที่ 6  ส่วนคืนที่เหลือก็แต่งชุดไปรเวทตามสบายได้แต่ต้องสุภาพสักนิดนึง ไม่ฟรีจนเกินไปค่ะ
 
  

ชุดสำหรับใส่ไปเที่ยวเมืองชายฝั่ง

การเตรียมชุดเพื่อใส่ไปเที่ยวเมืองชายฝั่งนั้นไม่ได้มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขแบบตอนอยู่บนเรือสำราญ เพราะความเหมาะสมของชุดที่จะใส่ก็ขึ้นอยู่กับเมืองที่ไปหรือกิจกรรมที่ทำมากกว่า เช่น ถ้าเป็นทริปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ก็ควรเตรียมชุดดำน้ำกับชุดที่จะเปลี่ยน หลังจากดำน้ำเสร็จ หรือถ้าเป็นทริปขี่จักรยานชมทิวทัศน์รอบเมือง ก็ควรจะใส่เสื้อผ้าที่ทะมัดทะแมง คล่องตัว พร้อมทั้งรองเท้ากับหมวกที่เข้ากัน เหล่านี้เป็นต้น  แต่ถ้าไปเดินเล่นชมความสวยงามของเมือง แล้วก็แวะทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ ก็แต่งตัวตามแฟชั่นของตัวเองได้เต็มที่เลยค่ะ
 
 

อุปกรณ์อื่นๆ ที่ควรเตรียมไปด้วยนอกจากเสื้อผ้า

เดย์แพค : เตรียมเป้สะพายหลัง หรือกระเป๋าสะพายเอาไว้พกกล้องถ่ายรูป หนังสือ ครีมกันแดด ขวดน้ำดื่มและของจำเป็นอื่นๆ ไว้ติดตัวไปไหนมาไหน โดยเฉพาะตอนไปเที่ยวเมืองชายฝั่ง
 
อุปกรณ์ไฮเทค : อุปกรณ์ไฮเทคที่หลายคนขาดไม่ได้เลย ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอพอด กล้อง DSLR กล้อง GoPro ถ้าต้องใช้งานของเหล่านี้ ก็อย่าลืมเช็คข้อมูลการใช้งานที่ต่างประเทศ เช่น ค่าบริการโรมมิ่ง  ค่าบริการเน็ตดาวเทียมก่อนจะเปิดเนตในสมาร์ทโฟนตอนล่องเรือ ส่วนใหญ่เกือบทุกสายเรือจะมีบริการ Wi-Fi ให้  ถ้าสนใจก็สอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ส่วนต้อนรับได้เลยค่ะ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ ปลั๊กไฟ ควรเตรียมหัวแปลงปลั๊กสากลแบบเที่ยวได้ทั่วโลก Universal Adaptor ไปด้วย หรือหากมีอุปกรณ์เยอะ ก็สามารถนำปลั๊กสามตาไปได้ 
 
ความบันเทิงยามว่าง : เราสามารถพกหนังสือเล่มโปรดติดกระเป๋าเดินทางไปนอนอ่านริมทะเลหรือชายหาดในวันพักผ่อนได้ตามสบาย เพราะเวลาเดินทางอาจจะไม่ค่อยมีเวลาไปใช้ห้องสมุดของเรือสำราญบ่อยนัก และถ้าเป็นเส้นทางล่องเรือไปเที่ยว อลาสก้า ขอแนะนำให้พกกล้องส่องทางไกลไปด้วยค่ะจะได้ส่องดูธรรมชาติกับสัตว์ที่อยู่ไกลจากสายตาได้ หรือถ้าเป็นทริปครอบครัวที่มีเด็กมาด้วย จะเตรียมของเล่นมาก็ได้แต่ควรเลือกของเล่นที่ไม่พังง่าย  สุดท้ายนี้กับคำแนะนำของคนชอบดำน้ำ ถ้าตั้งใจไปดำน้ำตื้นและมีอุปกรณ์ส่วนตัวอยู่แล้วก็เตรียมมาได้เลย เพราะเรือสำราญบางลำอาจจะไม่มีให้เช่านะคะ
 
เครื่องดื่ม : บนเรือสำราญส่วนใหญ่จะมีบริการโซดาและน้ำไว้ในห้องนอนอยู่แล้ว เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้ได้เยอะมาก ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าจะพกมาเอง ต้องเช็คเงื่อนไขของสายเรือก่อนนะคะว่าอะไรเอามาได้ อะไรที่ห้ามเด็ดขาด ยิ่งถ้าเป็นประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของมึนเมาทั้งหลาย น่าจะเป็นของต้องห้ามของเกือบทุกสายเรือก็ว่าได้ เพราะเครื่องดื่มพวกนี้มีขายบนเรืออยู่แล้วนั่นเอง ถ้ายังกล้าเสี่ยงพกไป ก็อาจถูกยึดเมื่อมาถึง ทางที่ดีอย่าเสี่ยงกับกฎข้อนี้เลยดีกว่าค่ะ
 
ของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำ : ทางเรือสำราญจะมีสบู่และแชมพูให้บริการในทุกๆ ห้อง แต่ถ้าเราต้องการนำของใช้ส่วนตัวมาเองก็ทำได้เช่นกัน ส่วนอุปกรณ์อื่นอย่างเครื่องเป่าผม หากไม่สะดวกใช้ที่สายเรือมีบริการก็แนะนำให้เตรียมไปเอง รวมถึง ของใช้เพิ่มเติมอย่าง ครีมกันแดด ครีมทาหน้า บอดี้โลชั่นต่างๆ ที่ขาดไม่ได้สำหรับหนุ่มๆ โดยเฉพาะ อย่าลืมที่โกนหนวดด้วยนะคะ
 
เตรียมยาสามัญและยาโรคประจำตัว : ยาที่สามารถพกไปในกระเป๋าเดินทางได้ จะเป็นชุดกล่องใส่อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับยาสามัญที่เรารู้จักกันดี เช่น ยาพาราเซตามอล ยาธาตุแบบเม็ดหรือน้ำสำหรับแก้ปวดท้อง ยาแก้เมาเรือ สเปรย์ฉีดทากันยุง กันแมลง และยาสำหรับโรคประจำตัว(ถ้ามี) รวมไปถึงยาดม ยาหม่อง ด้วยค่ะ
 
 
 

จัดกระเป๋าเดินทางไปเมืองหนาว

    • ควรมีกระเป๋าอีกใบสำหรับติดตัวแยกจากกระเป๋าเดินทาง เพื่อเก็บสิ่งของจำเป็น เช่น เอกสารสำคัญ กระเป๋าสตางค์ กล้องถ่ายรูป
    • ชุดกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับยาสามัญ ยาแก้เมาเรือ สเปรย์ฉีดไล่แมลง และยาสำหรับโรคประจำตัว(ถ้ามี)
    • เสื้อแจ็คเกต สเวตเตอร์ เสื้อโค้ท ฮีทเทค ลองจอน รวมทั้งอุปกรณ์กันหนาวที่จำเป็นอื่นๆ เช่น หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ รองเท้าบู๊ทใส่เดินบนหิมะ เป็นต้น
    • อุปกรณ์ป้องกันความชื้นจากอากาศ ฝน และหิมะ ไม่ว่าจะเป็น ร่ม เสื้อกันฝนแบบมีหมวก ถุงเท้าชนิดพิเศษที่กันน้ำได้
    • เสื้อผ้าตามที่ทางสายเรือได้แจ้งเดรสโค้ดทั้งตอนกลางวันและกลางคืน เช่น ชุดราตรียาว ชุดสูท รองเท้าหุ้มส้น
    • น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม สำหรับซักผ้าจากบริการเครื่องหยอดเหรียญด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าเตรียมน้ำยาซักผ้ากับน้ำยาปรับผ้านุ่มมาเองจะสะดวกและประหยัดกว่า
    • แบตเตอรี่สำรอง ของกล้องถ่ายรูป และพาวเวอร์แบงก์โทรศัพท์มือถือ
    • อื่นๆ เช่น กล้องส่องทางไกล หนังสือไกด์บุ๊คท่องเที่ยวเมืองชายฝั่ง สมุดไดอารี่สำหรับจดบันทึก
 

 

จัดกระเป๋าเดินทางไปทะเล

    • กระเป๋าอีกใบสำหรับติดตัวแยกจากกระเป๋าเดินทาง เพื่อเก็บสิ่งของจำเป็น เช่น เอกสารสำคัญ กระเป๋าสตางค์ กล้องถ่ายรูป
    • ชุดกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับยาสามัญ ยาแก้เมาเรือ สเปรย์ฉีดไล่แมลง และยาสำหรับโรคประจำตัว (ถ้ามี)
    • เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายระหว่างอยู่บนเรือสำราญ เสื้อผ้าสำหรับใส่ท่องเที่ยวเมืองชายฝั่ง รวมทั้งชุดสำหรับดินเนอร์ตามที่สายเรือแจ้งเดรสโค้ดมาให้ล่วงหน้า
    • ชุดว่ายน้ำ เสื้อคลุม หมวกปีกกว้าง ครีมกันแดด แว่นกันแดด รองเท้าแตะใส่เดินชายหาด
    • น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม สำหรับซักผ้าจากบริการเครื่องหยอดเหรียญด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าเตรียมน้ำยาซักผ้ากับน้ำยาปรับผ้านุ่มมาเองจะสะดวก และประหยัดกว่า
    • แบตเตอรี่สำรอง ของกล้องถ่ายรูป และพาวเวอร์แบงก์โทรศัพท์มือถือ
    • ของใช้อื่นๆ เช่น ร่มคันเล็กๆ กล้องส่องทางไกล หนังสือเล่มโปรดสำหรับนอนอ่านที่ริมชายหาด



 
 
P: 2017-10-22
 
Update: 2020-09-22