ภาพรวมเรือสำราญ Crystal Serenity  มีการปรับปรุงล่าสุด ปี 2018

 

สัมผัสกับบรรยากาศ สุดแสนจะผ่อนคลาย และสบายๆ ไปตลอดทุกทริปการเดินทาง โดยเรือสำราญ Crystal Serenity ของสายเรือ Crystal Cruises จะนำนักเดินทางล่องเรือสำราญมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่สวยงามจากทั่วทุกมุมโลก เรือสำราญ Crystal Serenity จัดเป็นเรือสำราญในระดับหรูหรา ภายในเรือมีพนักงานที่คอยบริการผู้โดยสารทุกท่านอย่างเป็นมิตร และใส่ใจในทุกรายละเอียด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ สปา ฟิตเนส บาร์ เลานจ์ ห้องสมุด โรงหนัง โรงละคร พร้อมโชว์การแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่เรียกว่า Crystal on Broadway บนเรือยังมีคาสิโน ร้านช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ เพลิดเพลินไปกับสระว่ายน้ำ Seahorse Pool รวมไปถึง ห้องอาหารบนเรือ เช่น Waterside เป็นห้องอาหารหลัก ที่มีบริการอาหารนานาชาติ และมีไวน์ชั้นดีเยี่ยมคอยเสิร์ฟตลอด และยังมีห้องอาหารพิเศษชื่อดังอย่าง Umi Uma หรือชื่อเดิมเรียกว่า Silk Road and Sushi Bar เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่านักเดินทางโดยฝีมือจากเชฟชื่อดังอย่าง Nobu Matsuhisa และ อีกหนึ่งห้องอาหารที่เรือสำราญ Crystal Serenity ได้เพิ่มเข้ามาใหม่ นั่นก็คือ Churrascaria ตั้งอยู่ชั้น 11  อาหารสไตล์บราซิเลีย สเต็กเฮาส์ เมนูอาหารเอาใจคนรักเสต็กเป็นที่สุดค่า บนเรือยังมีกิจกรรม และความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย

 

เรือสำราญ Crystal Serenity เปิดตัวเมื่อปี 2003 มีน้ำหนัก 68,000 ตัน รองรับผู้โดยสารได้ 980 คน และมีการปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ นอกจากนี้ เรือสำราญ Crystal Serenity  ของสายเรือ Crystal Cruises ยังการันตรีด้วยรางวัลคุณภาพมากมาย ถ้าอย่างงั้นเราลองมาไล่ดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

1. รางวัล Best for service ประจำปี 2013, 2015 และปี 2016

2. รางวัล Best for public room ประจำปี 2013, 2014, 2015, 2016 และ ปี 2018

3. รางวัล Best for dining ประจำปี 2013, 2014, 2015 และปี 2018

4. รางวัล Best Overall ประจำปี 2013, 2014, 2015, 2017 และ ปี 2018

5. รางวัล Best for Embarkation ประจำปี 2013, 2014 และ ปี 2015

6. รางวัล Best for cabins ประจำปี 2013, 2014, 2015, 2017 และ ปี 2018

7. รางวัล Best for fitness & Recreation ประจำปี 2014, 2016 และ ปี 2018

8. รางวัล Best for Value ประจำปี 2013, 2014, 2015 และปี  2018

9. รางวัล Best for Shore Excursions ประจำปี  2013, 2014, 2015, 2016 และ ปี 2018

10. รางวัล Best for Entertainment ประจำปี 2014, 2015, 2017 และ ปี 2018

 

เส้นทางล่องเรือสำราญ Crystal Serenity  

 

  • เรือสำราญ Crystal Serenity มีเส้นทางล่องเรือรอบโลกค่ะ
  • ระยะเวลาการเดินทางโดยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ 6 วันขึ้นไป 
  • เรือสำราญ Crystal Serenity ส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือ Colombo, Mumbai, Dubai, Los Angeles, Auckland, Cape Town, Athens/Piraeus, Monte Carlo, Rome/Civitavecchia,Barcelona, Dover, Reykjavik,Stockholm, Copenhagen, Amsterdam, Venice/Italy, Lisbon, Fort Lauderdale, Miami และ San Juan  เป็นต้น

 

ขอต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญ Crystal Serenity  

 

ไฮไลท์

 

Crystal Serenity ภายในเรือสำราญลำนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น Hollywood Theatre โรงหนังขนาดใหญ่ และ Galaxy Lounge แขกจะได้รับชมโชว์ที่ตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึง บาร์เลานจ์ ที่กว้างขวางเห็นวิวแบบ พาโนรามา รวมไปถึง สปาสุดหรูที่มีบริการแบบครบครัน ฟิตเนส คาสิโน สถานที่ช็อปปิ้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และร้านอาหาร Waterside (Crystal Dinning Room) ขนาดใหญ่สามารถรองรับผู้โดยสารพร้อมๆกันได้มากถึง 848 ท่าน นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารพิเศษ  อาทิ Umi Uma หรือชื่อเดิมเรียกว่า Silk Road and Sushi Bar  ร้านอาหารญี่ปุ่น โดยฝีมือจากเชฟชื่อดัง Nobu Matsuhisa และ Churrascaria ตั้งอยู่ชั้น 11  อาหารสไตล์บราซิเลีย สเต็กเฮาส์ เอาใจคนชอบทานสเต็กเป็นที่สุด รวมถึงบรรยากาศพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามคงจะหนีไม่พ้นที่แห่งนี้ เรียกว่า Palm Court เลานจ์ที่คอยให้บริการเครื่องดื่มให้กับแขกทั้งกลางวัน และ ในยามค่ำคืน

นอกจากนี้ยังนี้ มีหนึ่งไฮไลน์เรียกว่าห้อง The Vintage Room สำหรับคอไวน์ห้องนี้รองรับแขกอย่างน้อย 10 คน เท่านั้น รับรองได้ว่าคุ้มสุดคุ้ม เปิดให้บริการชิมไวน์ในช่วงเวลากลางวัน ที่สำคัญจะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์มาให้ความรู้เชิงลึกของไวน์แต่ละชนิดด้วยค่ะ แน่นอนว่าที่นี่ยังมีไวน์ที่หาได้ยากที่สุดในโลก ใครที่เป็นสายหรู พลาดขึ้นเรือลำนี้ไม่ได้แล้วค่า Crystal Serenity ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง ท่องเที่ยว พักผ่อน ที่ดีที่สุดในโลก

 

เชิญชมคลิปบรรยากาศในเรือกันค่า

 

 

ข้อมูลตัวเลข

 

 

 

ไลฟสไตล์บนเรือ

 

เจ้าเรือสำราญลำนี้จะดึงดูดกลุ่มผู้โดยสาร ที่มีเวลาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี นั่นก็คือ กลุ่มผู้สูงอายุ หรือเป็นวัยเกษียณอายุ นั่นเองค่ะ และแขกส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์ล่องเรือสำราญกับทางสายเรือ Crystal Cruises มาแล้ว และบางเส้นทางยังเป็นที่ยมสำหรับกลุ่มนักเดินทางรายใหม่ ที่มาจากทั่วโลก เส้นทางยอดนิยมคงหนีไม่พ้น ในโซนเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งจะดึงดูดกลุ่มนักเดินทางที่เป็นชาวอเมริกัน และลองลงมาก็จะมาจากชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ ที่เหลือก็จะมาจากหลากหลายประเทศด้วยกัน เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย เม็กซิโก บราซิล เยอรมนี และสเปน เป็นต้น ค่ะ

  

ห้องพักบนเรือสำราญ

เจ้าเรือสำราญ Crystal Serenity 85% จะมีเป็นห้องพักแบบเป็นส่วนตัว มีระเบียง ซึ่งลูกค้าจะได้รับความสะดวกสะบายที่สุด ภายในจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น Blu- Ray, ตู้เย็นขนาดเล็ก ที่มีน้ำอัดลมและเบียร์เติมเต็มตลอดทุกวันฟรี, ภายในห้องน้ำหรูหราด้วยดีไซด์ แบบ Aveda, เสื้อคลุมอาบน้ำ Frette นอกจากนี้ยังมีห้อง Penthouse มีบริการ บัทเลอร์ พนักงานดูแลแบบส่วนตัว, มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่, และมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ walk-in closetsให้อีกด้วย สำหรับห้องพักช้ัน 10 บนเรือ จะมีห้อง Seabreeze Penthouse ทั้งหมด 36 ห้อง  และ Seabreeze Penthouse Suites ทั้งหมด 2 ห้อง ค่า 

 

รูปแบบห้องพัก

 

Deluxe Stateroom with Large Picture Window

ความกว้าง 20.99 ตารางเมตร เตียงมีทั้งแบบ ควีนไซส์ และเตียงคู่

 

Deluxe Stateroom with Verandah

ความกว้าง 22.85 ตารางเมตร เตียงมีทั้งแบบ ควีนไซส์ และเตียงคู่

 

Seabreeze Penthouse with Verandah

ความกว้าง 34.09 ตารางเมตร 

 

Penthouse Suite with Verandah

ความกว้าง 34.09 ตารางเมตร เตียงมีทั้งแบบ ควีนไซส์ และเตียงคู่ มีอ่างจากุชชี่ พร้อมแยกห้องอาบน้ำ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 บนเรือสำราญ 

 

Penthouse Suite with Verandah

ความกว้าง 45.62 ตารางเมตร เตียงมีทั้งแบบ ควีนไซส์ และเตียงคู่ มีอ่างจากุชชี่ พร้อมแยกห้องอาบน้ำ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 บนเรือสำราญ 

 

Crystal Penthouse with Verandah

ความกว้าง 91.23 ตารางเมตร ตั้งอยู่ชั้น 11 บนเรือสำราญ

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ

 

สำหรับหนอนหนังสือต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ Library ตั้งอยู่บริเวณชั้น 7 บนเรือสำราญ ห้องสมุดที่มีหนังสือให้เลือกอ่านมากกว่า 2,000 เล่ม ทั้งหนังสือนวนิยายสุดคลาสสิค หนังสือเด็ก หนังสือชีวประวัติยอดนิยม อื่นๆ เป็นต้น 


 

ห้องนี้จัดได้ว่าเป็นโชว์รูมหลักที่เรียกว่า Galaxy Lounge บรรยากาศภายภายในหรูหราโอ่อ่า พร้อมโชว์การแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจรอต้อนรับแขกผู้มาเยือน พร้อมเสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดงที่จัดเต็ม บนเวทีมีระบบไฮดรอลิคเพื่อเพิ่มความบันเทิงอย่างที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งห้องไฮไลท์ที่แขกทุกท่านจะต้องมาให้ได้ค่ะ พิกัดอยู่ที่ ชั้น 6 บนเรือสำราญค่า

 

เพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ยอดนิยม และภาพยนต์สุดคลาสสิคได้ที่ Hollywood Theatre ตั้งอยู่ชั้น 6 บนเรือสำราญ หากใครได้หลงเข้ามาในห้องนี้แล้วละก็ รับรองว่าสามารถอยู่ได้ทั้งวันแบบไม่อยากทำกิจกรรมอย่างอื่นเลยทีเดียว ด้วยระบบภาพและเสียงที่คมชัด หากแขกท่านใดที่มีการบกพร่องทางการได้ยิน ที่นี่เขามีอุปกรณ์พิเศษให้ด้วยค่า ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ 

 

Crystal Casino  สำหรับนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย บนเรือสำราญลำนี้ก็มีคาสิโนให้เล่นเมื่อเรือแล่นออกจากฝั่ง อิอิ พูดแล้วก็อยากขอลองเข้าไปเล่นกับเขาสักหน่อย เผื่อจะโชคดีกับเขาบ้างค่า ภายในเรือสำราญลำนี้มีเครื่องสล็อต 86 เครื่อง และมีเครื่องโป๊กเกอร์ รวมถึง รูเล็ต แบล็กแจ๊ค และอื่นๆ อีกมากมายค่า ที่นี่เขาจำกัดอายุ จะต้อง 21 ปีขึ้นไป ถึงจะสามารถเข้าห้องคาสิโนได้ สถานที่นี้ตั้งอยู่ชั้น 6 บนเรือสำราญค่ะ

 

 

บรรยากาศแสนสบาย สระว่ายน้ำบนเรือสำราญลำนี้ เรียกว่า Seahorse pool แขกสามารถมาเพลิดเพลิน ว่ายน้ำในสระน้ำกลางแจ้ง พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีโซน Jacuzzi พร้อมวิว 360 องศา หากขึ้นจากสระก็นอนพัก อาบแดดยามเช้า หรือยามสาย หรือจะขึ้นมาชมวิวที่ Sun Deck บนชั้นดาดฟ้าก็เพลินไปอีกแบบค่า

 

 

 

 

 

Avenue Saloon สถานที่สุดคลาสสิค บรรยากาศสบายๆ สุดชิว การตกแต่ง ด้วยไม้โมฮอกโกนี โต๊ะบาร์เป็นรูปตัว L หากใครที่ต้องการความเงียบสงบ หรือต้องการพบปะสังสรรค์  สามารถมาจิบค็อกเทลเบาๆ ได้ที่ห้องนี้ค่า

 

Connoisseur Club ตั้งอยู่บริเวณชั้น 6 สถานที่สุดหรูหรา สำหรับผู้ที่รักการสูบซิก้าร์ สามารถมาได้ที่คลับแห่งนี้ได้เลยค่ะ

 

Pulse ไนท์คลับสุดมันส์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 6 บนเรือสำราญ เอาใจขาแดนซ์แบบสุดๆ ภายในมีคาราโอเกะ แสง สี เสียง ตระการตา มีเพลงมันส์ๆ ยอดฮิต รับรองได้ว่า ดีเจ ของที่นี่เขาจะทำให้เราสนุกสุดเหวี่ยงอย่างแน่นอนค่ะ ว่าแล้วก็ออกไปปาร์ตี้กันเล๊ยยย 

 

Stardust สถานที่ที่เหมาะสำหรับพบปะเพื่อนฝูง มากันได้ที่ชั้น 6 บนเรือสำราญเช่นกันค่ะ มานั่งร่วมวงพูดคุยพร้อมจิบค็อกเทลเย็นๆ ฟังเพลงเพราะๆ หลังจากเสร็จอาหารมื้อค่ำ สามารถมาเต้นรำกันได้ที่นี่ค่ะ 

 

Crystal Cove หรือเรียกอีกอย่างว่า บาร์เปียโน อีกหนึ่งบาร์สุดชิค พร้อมเครื่องดื่มจัดหนัก จัดเต็ม แขกสามารถมานั่งชิวๆ ได้ที่บาร์แห่งนี้ พร้อมรับเครื่องดื่มก่อนมื้ออาหารค่ำ ถือเป็นอีกหนึ่งบาร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 บนเรือสำราญ พร้อมเปิดให้บริการตลอดทั้งวันค่ะ

 

บรรยากาศพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามคงจะหนีไม่พ้นที่แห่งนี้ เรียกว่า Palm Court เลานจ์ที่คอยให้บริการเครื่องดื่มให้กับแขกทั้งกลางวัน และกลางคืน มานั่งที่นี่ก็ฟินและชิวไปอีกแบบ จิบค็อกเทลพร้อมฟังการแสดงดนตรีสุดคลาสสิคได้ตลอดทั้งคืนค่า 

 

Spa สุดหรูสำหรับผู้ที่รักการนวด บำบัด ผ่อนคลายสบายๆ ต้องมาที่นี่ เพราะภายในมีทั้ง ห้องทรีตเมนต์ที่มีบริการที่หลากหลาย ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ รวมไปถึง ห้องเสริมสวยดูแลความสวยความงาม ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า อิอิ อยู่ตรงนี้แสนสบาย ตั้งอยู่ชั้น 13 บนเรือสำราญ

 

Golf  สนามกอล์ฟสีเขียวกลางแจ้ง ตั้งอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าบนเรือสำราญ เอาใจนักกอล์ฟแบบสุดๆ ค่า 

 

Fitness Center ภายในมีอุปกรณ์การออกกำลังกายครบครัน กว้างขวาง พร้อมเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนท้องทะเล ที่ศูนย์ฟิตเนสแห่งนี้ยังมีชั้นเรียนที่สอนโยคะและพิลาทิสอีกด้วย และที่สำคัญสอนฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งอยู่ที่ชั้น 13 บนเรือสำราญ ค่ะ

 

Computer University@Sea

สำหรับใครที่ชื่นชอบเทคโนโลยีสามารถมาเรียนและมาใช้บริการอินเตอร์เน็ตได้ที่นี่ จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษา เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเชื่อเข้ากับ Microsoft, Mac, iDevices, Android และ Garmin และอื่น ๆ 

  

Avenue of the Stars สำหรับขาช็อปพบกับสินค้าแบรนด์เนมที่หลากหลาย ทั้งกระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับสุดหรู และน้ำหอมจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ทุกอย่างมีให้เลือกช็อปปิ้งบนเรือสำราญสุดหรูลำนี้ ให้กระเป๋าเบาโหว๋กันไปข้างนึง ค่า 

 

Fantasia เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 3-12 ปี เอาใจสำหรับน้องๆ นู๋ๆ ที่อยากมีเวลาทำกิจกรรมแบบส่วนตัว บรรยากาศภายในห้องนี้สบายๆ เก้าอี้โค้งยาว ภายในมีทีวิจอกว้างขนาดใหญ่ บนเรือสำราญลำนี้ใส่ใจในทุกรายละเอียด ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี จะมีกิจกรรมสำหรับเด็ก ทั้งปาร์ตี้ ร้องเพลงคาราโอเกะ  เรียนทำอาหาร กิจกรรมกีฬา และอื่นๆ สำหรับเด็กที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป ที่นี่เขามีบริการพี่เลี้ยงเด็กด้วยนะคะ ค่าบริการคือ $ 10 ต่อชั่วโมงสำหรับเด็ก 1 คน, $ 15 สำหรับเด็ก 2 คนและ $ 20 สำหรับสามคน

และอีกหนึ่งโซนสุดโปรดของเด็กๆ บนเรือสำราญ เรียกว่า Waves เอาใจเด็กๆ ห้องนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 13-17 ปี ภายในห้องมีทั้งวิดีโอเกมส์ ทีวีจอกว้างพร้อมเครื่องเล่น Blu-ray และระบบฉายภาพยนตร์ รับรองได้ว่าไม่เบื่อแน่นอน เด็กๆสามารถติดตามกิจกรรมได้ที่จดหมายข่าวประจำวันของ Teen Scene ค่า

 

  

ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารพิเศษ

 

มาเริ่มกันที่ Waterside (Crystal Dinning Room) เป็นห้องอาหารหลัก ที่มีบริการอาหารนานาชาติ และมีไวน์ชั้นดีเยี่ยมคอยเสิร์ฟตลอด ห้องอาหารนี้เปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเช้า  8.00 น. ถึง 9.30 น. และมื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 12.00 - 13.00 น. ภายในเป็นที่นั่งแบบเปิดโล่ง กว้างขวางสำหรับมื้อค่ำผู้เข้าพักสามารถเลือกใช้ Classic Main (ตั้งแต่เวลา 6.15 น.) หรือ Classic Late (เริ่มต้นเวลา 20.30 น.) หรือรับประทานอาหารตามนัดหมาย (ตั้งแต่เวลา 6.15 น. ถึง 9.15 น.)

 

อีกหนึ่งห้องอาหารที่เรือสำราญ Crystal Serenity ได้เพิ่มเข้ามาใหม่ นั่นก็คือ Churrascaria ตั้งอยู่ชั้น 11 บนชั้นดาดฟ้า เป็นที่นั่งแบบเปิดโล่ง เป็นบราซิเลีย สเต็กเฮาส์ เมนูอาหารเอาใจคนรักเสต็กให้บริการสำหรับมื้อค่ำเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นอาหารบุฟเฟต์ มีเมนูที่หลากหลาย ทั้ง ซุป สลัด ทาปาส เมนูเนื้อสัตว์ต่างๆ สเต็กเนื้อสันนอก หมูและซี่โครงย่าง ใส้กรอก เมนูเนื้อแกะ กุ้งกระเทียม และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย 

 

 

นอกจากนี้ยังมีร้าน Silk Kitchen & Bar ตั้งอยู่ชั้น 11 เช่นกันค่า เป็นห้องอาหารจีน เมนูมีทั้งติ่มซำ ปลากระพงนึ่ง เนื้อแกะ หมูตุ๋น เกี้ยวกุ้ง สลัด ก๋วยเตี๋ยวไก่ และอื่นๆ อีกมากมาย เปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวันเวลา 13.00 น. และสำหรับมื้อค่ำอาจจะต้องทำการจองล่วงหน้าค่า ที่สำคัญห้องอาหารแห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่า

 

 

 

Umi Uma หรือชื่อเดิมเรียกว่า Silk Road and Sushi Bar เป็นห้องอาหารพิเศษที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่านักเดินทาง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น โดยฝีมือจากเชฟชื่อดังอย่าง Nobu Matsuhisa สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานชูชิ ชาชิมิ ต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ พิกัดมากันได้เลยที่ชั้น 6 บนเรือสำราญค่า นอกจากนี้ยังมีเมนู ซี่โครงย่าง เนื้อวากิวรสเลิศ เมนูของหวานก็มีทั้งไอศกรีมช็อกโกแลต เค็ก และอื่นๆ อีกมากมาย ห้องอาหารนี้เปิดให้บริการระหว่าง 18.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. หากใครอยากจะลองมาทานต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือจองผ่านระบบออนไลน์ได้เลยค่า

เมนูแนะนำ

Sample Menu: Specialty Restaurant - Silk Road
Sample Menu: Specialty Restaurant - The Sushi Bar 

 

Prego เเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 22.00 น. พิกัดอยู่ที่ชั้น 7 บนเรือสำราญ เหมาะสำหรับผู้ที่หลงไหลในรสชาติของอาหารอิตาเลี่ยนต้องมาให้ได้เลยค่า ภายในมีการตกแต่งให้มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในเวนิส อิตาลี่ยังไงยังงั้น เมนูมีมากมายหลากหลาย ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หากใครที่กำลังมองหาอาหารอิตาเลี่ยนแท้ต้องมาขึ้นเรือลำนี้ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ทั้งนี้ยังยังมีเสิร์ฟคู่กับไวน์ชื่อดังระดับโลกอีกด้วย

เมนูแนะนำ

Sample Menu: Specialty Restaurant - Prego   (มื้อค่ำ)
Sample Menu: Specialty Restaurant - Prego  (ของหวาน)
Sample Menu: Specialty Restaurant - Prego  (ไวน์) 

 

มาต่อกันที่ห้องนี้ เรียกว่า The Vintage Room ตั้งอยู่ชั้น 7 บนเรือสำราญ สำหรับคอไวน์โดยรองรับแขกอย่างน้อย 10 คน ค่าใช้จ่ายประมาณ 200+ เหรียญต่อคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไวน์ที่เลือกด้วยค่ะ  ที่นี่ยังมีไวน์ที่หาได้ยากที่สุดในโลกโดยมีค่าธรรมเนียมประมาณ 1,000 เหรียญต่อคนขึ้นอยู่กับไวน์ที่เลือกด้วยเช่นกันค่า

The Vintage Room ที่นี่เขาจะมีทั้งห้องให้ชิมไวน์ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์มาให้ความรู้เชิงลึกของไวน์แต่ละชนิดค่ะ ส่วนห้อง Ultimate Vintage จะเปิดให้รับประทานอาหารสำหรับมื้อดินเนอร์เท่านั้นค่ะ ราคาต่อท่าน 1,000 เหรียญ 

ตัวอย่างเมนู

Vintage Room Dinner

Ultimate Vintage Room Dinner

 

The Market place ชื่อเดิม The Lido Café  เป็นร้านอาหารสไตล์แบบบุพเฟต์ 3 มื้อ บรรยากาศก็แสนสบาย แขกสามารถมากันได้ตั้งแต่ตอนเช้า ค็อฟฟี่ช็อปจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 5.00 - 6.30 น. ส่วนอาหารเช้าบุฟเฟต์เปิดตั้งแต่ 6.30 น. - 10.00 น. บุฟเฟต์อาหารกลางวันเสิร์ฟระหว่างเวลา 12.00 น. ถึง 13.30 น. ส่วนมื้อเย็นแขกสามารถรับประทานอาหารบริเวณด้านนอก พร้อมชมวิวอาทิตย์ตกดินได้อย่างสบายใจเฉิบค่า สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ชั้น 12 บนเรือสำราญค่ะ

 

The Bistro เป็นคอฟฟี่บาร์ บาร์สไตล์ปารีส มีที่นั่งสำหรับ 74 ท่าน ช่วงเช้าเปิดให้บริการตั้งแต่  9:00 น. - 11.15 น. ตื่นมาเช้าๆ แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ เพราะมีทั้ง ชา กาแฟ ผลไม้ โยเกิร์ตและขนมปังอบอย่างดี สำหรับมื้อกลางวัน ก็มีอาหารหลากหลายพร้อมกับของคาวหวานให้เลือกรับประทาน เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:30 น. ถึง 20:00 น. และมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 20.00 น. - 23.00 น.

 

หากใครชอบทานเบอร์เกอร์ แนะนำให้มาที่ Trident Grill & Ice Cream Bar ตั้งอยู่บริเวณชั้น 12 บรรยากาศชิวๆ สบายๆ เปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 11.30 น. และยังเปิดจนถึง 18.00 น. เพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหาร เช่น เบอร์เกอร์ร้อนๆ พิซซ่า แซนวิชใส่ทูน่า และอื่นๆ อีกมากมายค่า 

 

Tastes เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารบุฟเฟต์บรรยากาศสบายๆ มีบริการอาหารเช้า เปิดให้บริการจนถึง 11.30 น. และอาหารกลางวัน มีทั้ง แซนวิช พิซซ่า นอกจากนี้ยังมีอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษ สำหรับมื้อค่ำต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ

ดูตัวอย่างเมนูได้ที่นี่

Sample Menu: Casual Dining - Tastes on Crystal Serenity (มื้อกลางวัน)
Sample Menu: Casual Dining - Tastes on Crystal Serenity (มื้อค่ำ)

 

Afternoon Tea  จิบน้ำชายามบ่ายภายในห้องสุดหรูหรา พร้อมขนมหวาน แซนวิส และเค็กที่ดีที่สุด มาคอยเสิร์ฟให้บริการกับแขกทุกๆท่าน ได้เพลิดเพลิน และสนุกสนานไปกับการพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง พร้อมจิบชา ส่วนพนักงานมีการแต่งตัวแบบดูดี เต็มรูปแบบ ตามภาพที่เห็นเลยค่า

 

Room Service มีบริการอาหารคอยเสิร์ฟให้ถึงห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งอาหารเช้ากลางวันและเย็น ในช่วงกลางวันและมื้อค่ำแขกสามารถสั่งอาหารว่างจากห้อง Crystal Dining Room ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ซุป สลัด ผลไม้ ชา กาแฟ ขนมปัง และอื่นๆ 

 

Beth: 2018-03-12