ล่องเรือสำราญ Disney Wonder

 

ภาพรวมของเรือ Disney Wonder

ความมหัศจรรย์และความสนุกสุดหรรษาได้เกิดขึ้นแล้วบนน่านน้ำทะเลสีฟ้าคราม โดยเรือสำราญสุดคลาสสิคลำนี้ที่มีชื่อว่า Disney Wonder พร้อมแล้วที่จะพานักเดินทางจากทั่วโลกแล่นเรือไปยังเส้นทางที่น่าสนใจและน่าค้นหา อาทิ ล่องไปในแถบแคริบเบียน, อลาสก้า, ปานามา, บาฮามาส เป็นต้น สิ่งที่ทุกคนจะได้สัมผัสไปพร้อมๆ กันก็คืนบรรยากาศสุดพิเศษบนเจ้าเรือสำราญลำนี้ เราจะได้พบกับ เหล่าตัวการ์ตูนสุดคลาสสิคของดิสนีย์ เหล่าเจ้าหญิง เจ้าชาย เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้อง พลุไฟตระการตา ที่สร้างความตื่นเต้นจนต้องขนลุก ซู่ซ่า พร้อมความบันเทิงพิเศษสุดคับคลั่ง รวมไปถึงปาร์ตี้ธีมโจรสลัด ที่เหล่านักเดินทางจะร่วมแต่งตัวในธีมโจรสลัดและสนุกสุดเหวี่ยงไปกับโชว์สุดยิ่งใหญ่อลังการในค่ำคืนที่น่าจดจำ 
 
Disney Wonder มีความสูง 11 ชั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเห็นได้ชัด เป็นเรือที่ออกแบบในสไตล์สุดคลาสสิคแต่ก็มีความทันสมัย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการรวมตัวกันของครอบครัว และเป็นโลกแห่งความมหัศจรรย์เหนือกาลเวลาของเด็กๆ ความสนุกได้เริ่มขึ้นเมื่อนักเดินทางได้ก้าวเข้าไปในตัวเรือสำราญลำนี้ สิ่งแรกที่ได้เจอก็คือการต้อนรับของเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์สุดคลาสสิคคนโปรดของคุณ สถานที่จัดงานที่มีธีมต่างๆ อันน่ามหัศจรรย์ บนเรือมีบรรยากาศที่รื่นเริงสดใส เต็มไปด้วยภาพวาด ประติมากรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของดีสนีย์ประดับตกแต่งเต็มไปหมด ร้านอาหารที่หลากหลาย รวมไปถึงไนท์คลับ และการบริการที่เป็นมิตรของพนักงาน
 

 

ข้อมูลทางเทคนิค

Fact_Sheet_-_MagicWonderFactSheetR3-1  
Fact_Sheet_-_MagicWonderFactSheetR3-2
 

 

ไลฟ์สไตล์บนเรือ Disney Wonder 

เรือสำราญ Disney Wonder มีจำนวนของผู้โดยสารที่เป็นเด็กโดยเฉลี่ย 900-1000 คน นั่นหมายความว่า ส่วนใหญ่กลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวที่ไปกันจะเน้นไปกันเป็นแบบครอบครัวค่ะ กลุ่มนักเดินทางจะมีเป็นครอบครัวเดี่ยว รวมไปถึงกลุ่มครอบครัวใหญ่ๆ ทั้ง ปู่ย่า ตายาย เพื่อทำให้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีแต่เสียงหัวเราะ นั่นเองค่ะ 
  

ไฮไลท์ของเรือ Disney Wonder

เรือสำราญลำนี้มีไฮไลท์ตรงที่ชอบจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับเทศกาลต่างๆ อาทิ วันฮาโลวีนหรือ วันหยุดในฤดูหนาวค่ะ แน่นอนว่าเด็กๆต้องกริ๊ดเสียงดังระงมบนเรือลำนี้ นั่นคือการจัดกิจกรรม Character Greetings รวมไปถึงกิจกรรม Frozen Deck Party  และ สำหรับใครที่ชื่นชอบราชินีหิมะเอลซ่า และสาวน้อยยิ้มสวย แอนนา ต้องห้ามพลาดใน Frozen, A Musical Spectacular การแสดงเต็มรูปแบบที่โรงละคร Walt Disney Theatre ค่ะ 
 
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของ Disney Wonder คือชั้นสวนสนุกในดาดฟ้าค่ะ สวรรค์ของเด็กน้อยที่จะได้เพลิดเพลินไปกับสระ Goofy's Pool และ AqualLab สไลด์เดอร์ที่มีเสน่ห์และมีความคดเคี้ยว เหมือนยกสระและสวนสนุกเล็กๆ มาไว้บนเรือลำนี้นั่นเองค่ะ
 
Disney Wonder ปรับเปลี่ยนระบบการทานอาหารค่ำมาใช้แบบแบบ Rotational Dining เหมือนกันค่า คุณจะได้เปลี่ยนห้องอาหารค่ำทุกวัน ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภัตตาคาร ได้รสชาติอาหารจากเมนูที่ไม่ซ้ำแบบกัน โดยพนักงานคนเดิมจะตามไปคอยให้บริการด้วยค่า
 

 
 
 

Castaway Cay เกาะส่วนตัว ไฮไลท์สุดพิเศษสำหรับแฟน Disney เท่านั้น

Castaway Cay เป็นสวรรค์บนเกาะส่วนตัวของดีสนีย์ที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้โดยสารของเรือสำราญ Disney Cruise Line เท่านั้น บนเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและอาหารอร่อยๆ อาทิเช่น บุฟเฟต์อาหารกลางวันแบบสไตล์บาร์บีคิว ชา กาแฟ ไอศกรีม นอกจากนั้นยังมีชายหาดริมทะเลสำหรับครอบครัว และสำหรับผู้ใหญ่ เก้าอี้ริมชายหาด ร่มและเปลญวน ผ้าขนหนูสำหรับใช้บนชายหาด ความบันเทิงต่างๆ บนเกาะ คลับสำหรับเด็กและวัยรุ่น เส้นทางเดินป่า กีฬาทางน้ำต่างๆ ชั้นเรียนโยคะ โซนอาบน้ำ น้ำตก Pelican Plunge รถราง สำหรับการรับส่ง และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ 
 
ที่นี่คนที่ล่องเรือสำราญดิสนีย์เท่านั้นที่ไปเที่ยวได้นะคะ ลงมาถึงก็แวะถ่ายภาพกับ Mickey Mouse และเพื่อนๆ ที่มารอต้อนรับอยู่ได้เลย แน่นอนว่าผู้โดยสารของเรือ Disney Wonder สามารถลงมาเที่ยวได้ฟรีค่ะ
 
ว่าแล้วก็อยากแพ็คกะเป๋าเดินทางและไปกันทั้งครอบครัวใหญ่ ฮูลาฮูเล่ ฮูเลฮูเล ฮูลัลลา เฮเฮ้ทุกเวลา...
 



 
 

เส้นทางล่องเรือ Disney Wonder

 

ภาพรวมเส้นทางล่องเรือ Disney Wonder

Disney Wonder จะให้บริการในโซนทวีปอเมริกาค่ะ และมีเส้นทางการเดินทางที่หลากหลายมาก เรียกว่าในหนึ่งปีจะเดินทางรอบประเทศอเมริกาเลยทีเดียว โดยเริ่มต้นปีเรือจะออกเดินทางจากท่าเรือ Galveston เมือง Houston รัฐ Texas สลับกับท่าเรือเมือง New Orleans รัฐ Louisiana พานักล่องเรือสำราญที่อยู่ทางตะวันตกตอนกลางและทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาล่องไปเที่ยวแถบแคริบเบี้ยน และบาฮามาส และแน่นอนว่าทุกทริปในโซนนี้เรือจะแวะเข้าเกาะส่วนตัว Castaway Cay ด้วยแน่นอนค่ะ 
 
จากนั้นจะมีเส้นทางพิเศษ 14 คืน เดินทางข้ามคลองปานามาในอเมริกากลางข้ามไปล่องในฝั่งตะวันตกของอเมริกาโดยเริ่มต้นที่ท่าเรือเมือง San Diego รัฐ California พานักท่องเที่ยวแวะเข้า Mexico ด้วยค่ะ ก่อนจะขึ้นเหนือเข้าประจำการที่เส้นทางหลัก Alaska Cruise โดยเริ่มต้นทริปที่เมือง Vancouver ของประเทศ Canada ค่ะ และจะล่องที่โซนอลาสก้านี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน จากนั้นก็จะย้ายหนีหนาวลงมาทางแคลิฟอร์เนีย ค่ะ
 
 
1. รายการเดินทางของเรือ Disney Wonder 
 
เรือ Disney Wonder มีรายการเดินทางในสองโซนหลักคือแคริเบี้ยน / บาฮามาส และโซนอลาสก้า ออกเดินทางจากท่าเรือถึง 4 แห่ง เพื่อกันความสับสนจะขอแนะนำเส้นทางโดยแยกเป็นแต่ละท่าเรือ ตาม link ด้านล่างนี้ค่ะ
 
ท่าเรือ: Galveston, Texas
รายการ: Bahamas & Caribbean Cruise
วันเดินทาง: มกราคม และธันวาคม
 
ท่าเรือ: New Orleans, Louisiana
รายการ: Caribbean & Mexico Cruise
วันเดินทาง: มกราคม และ กุมภาพันธ์
 
ท่าเรือ: San Diego, California
รายการ: Mexico Cruise
วันเดินทาง: มีนาคม เมษายน และพฤษภาคม
 
ท่าเรือ: Vancouver, Canada
รายการ: Alaska Cruise
วันเดินทาง: พฤษภาคม-กันยายน
 
2. เดินทางช่วงเทศกาลและรายการที่มี Theme พิเศษ
 
Theme: 'Halloween on the High Seas'
รายการ: 3, 4 and 5 Nights Halloween on the High Seas Baja Cruise from San Diego
วันเดินทาง: ตุลาคม

ทศกาลเฉลิมฉลองวันฮาโลวีน เทศกาลแฟนซีที่มีคนแต่งตัวเฉลิมฉลองมากที่สุดในโลก และบนเรือ Disney Wonder ก็ไม่มียกเว้น ในคืนวัน 'Halloween on the High Seas' แน่นอนว่าบนเรือจะเต็มไปด้วยเหล่าอสูรกายและแม่มดตัวน้อยๆ แต่ละคนคงใช้เทคนิคพิเศษแบบสุดๆ ในการแต่งหน้ากันเลยทีเดียว แล้วคุณจะไม่เตรียมชุดหรือหน้ากากอสูรกายตัวโปรดไปร่วมเฮกับพวกเค้าด้วยรึ ... ลองชมวิดีโอตัวอย่างกันหน่อยนะคะ
 


 
 
Theme: 'A Very Merrytime Cruises'
รายการ: 4, 5 คืน Merrytime Western Caribbean Cruise from Galveston 
รายการ: 6 คืน Marrytime Bahamian Cruise from Galveston 
วันเดินทาง: พฤศจิกายน - ธันวาคม

กิจกรรมนี้เป็นต้องถูกใจสำหรับเด็กๆ น้องๆ นู๋ๆ ในช่วงฤดูหนาว Disney Cruise Line ขอมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับผู้โดยสารทุกท่านบนเรือสำราญ Disney Wonder ที่เดินทางในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ทุกท่านจะได้พบกับกิจกรรมสุดพิเศษในคืนวันคริสต์มาสสุดหรรษา แน่นอนว่าจะได้กอดคุณลุงซานตา ตัวเป็นๆ พร้อมแสงไฟระยิบระยับ ประสบการณ์นี้จะทำให้หัวใจของเด็กๆ พองโตไปตามๆ กัน ก็แน่นอนแหละค่ะคุณลุงซานตาต้องมีของขวัญมามอบให้น้องๆ นู๋ๆ เขาด้วยนะจ๊ะ
 

 
 

ห้องพักของเรือ Disney Wonder

ห้องพักบนเรือ Disney Wonder ออกแบบให้รู้สึกผ่อนคลาย การออกแบบที่คลาสสิค ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบ Standard Stateroom หรือห้องสวีท Concierge Verandah ที่ได้มาตรฐาน ในห้องพักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น
  • ทุกห้องเป็นห้องน้ำแยก พร้อมฝักบัวสำหรับอาบน้ำ และมีม่านปิดกั้น เพื่อให้บรรยากาศของความเป็นส่วนตัว
  • ในห้องพักจะใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ H20  
  • พื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ รวมถึงพื้นที่ใต้เตียงที่สามารถเก็บสัมภาระอื่นๆ ได้อีกด้วย
  • โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องเป่าผม
  • บริการทำความสะอาด 2 ครั้งต่อวัน
รูปแบบห้องพัก มีอยู่ 4 ประเภทหลัก คือ Inside Stateroom (ห้องไม่มีหน้าต่าง) Oceanview Stateroom (ห้องมีหน้าต่าง) Verandah (ห้องมีระเบียง) Concierge หรือห้องสวีท เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพร้อมครอบครัว และทั้งหมดนี้จะถูกแบ่งออกไปอีกเป็นนับสิบระดับย่อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห้อง ซึ่งจะทำให้ราคาแตกต่างกันไปด้วย
ห้องพักแบบ Inside Stateroom (ห้องไม่มีหน้าต่าง) ขนาดห้องประมาณ 17.09 ตรม. - 19.88 ตรม.
 

 
ห้องพักแบบ Oceanview Stateroom (ห้องมีหน้าต่าง) ขนาดห้องประมาณ 19.88 ตรม.
 

 
ห้องพักแบบ Verandah (ห้องมีระเบียง) ขนาดห้องประมาณ 24.89 - 28.24 ตรม.
 

 
ห้องพักแบบ Concierge Verandah หรือห้องสวีท ขนาดห้องเริ่มต้น 28.42 ตรมจนถึง 95.59 ตรม.
 


 
 

ห้องอาหารบนเรือ Disney Wonder 

การบริการอาหารค่ำของเรือ Disney Wonder จะใช้ระบบ Rotational Dining (ตามแบบของ Disney Fantasy ที่ให้บริการเป็นลำแรก) โดยคุณจะได้เปลี่ยนห้องอาหารค่ำทุกวันเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหาร ทำให้มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภัตตาคาร และจะได้รับประทานอาหารที่เมนูหลากหลายยิ่งขึ้น โดยพนักงานคนเดิมจะตามไปคอยให้บริการด้วยค่ะ 
 

ห้องอาหารที่รวมอยู่ในค่าทริปเรือที่จ่ายไปแล้ว

สำหรับเรือ Disney Wonder นั้น ห้องอาหาร Cabanas, Animator’s Palate, Tiana's Place และ Triton's จะเป็นห้องอาหารหลักที่คุณเข้าไปใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะจะรวมอยู่ในค่าแพ็คเก็จที่คุณชำระไปแล้วนั่นเองค่ะ ทั้ง 4 ร้านจะมีลักษณะการบริการ ธีมของร้าน และรสชาติของอาหารที่แตกต่างกันไปค่ะ
  • Cabanas และ Triton's จะให้บริการอาหารมื้อหลักทั้งเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ
  • Animator’s Palate และ Tiana's Place จะให้บริการเฉพาะมื้อค่ำ
  • สำหรับอาการมื้อค่ำนั้น จะสามารถเลือกเวลาในการเข้ามารับประทานอาหารได้ โดยรอบแรก (Main Seating) เริ่มเปิดให้บริการช่วงเย็นเวลา 17.45 และรอบที่สอง (Second Seating) เริ่มเปิดให้บริการช่วงค่ำเวลา 20.15 
 
Cabanas
ชั้น 9 ท้ายเรือ: อาหารเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ
เป็นห้องอาหารที่บริการแบบบุฟเฟต์นานาชาติ เชิญให้ลิ้มลองอาหารสดและรสชาติแปลกใหม่ในมื้อเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ เราสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารที่ตัวเองชอบ ลักษณะการบริการจะเป็นการบริการด้วยตัวเองแบบ Safe-Service นั่นเอง อันนี้งานถนัดมากๆ จ้า
 
ในโซนห้องอาหาร Cabanas ผู้โดยสารสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศริมทะเลตามทางเดินของเรือสำราญ ในโซนนี้จะมีรายการอาหารสดใหม่ตลอดวัน หรือจะรับประทานอาหารบนโต๊ะอาหารหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ในธีมแบบ Boardwalk-Themed ก็ได้เช่นกันนะคะ ไม่ธรรมดาจริงๆ เรือลำนี้
 

 
Animator's Palat
ชั้น 4 ท้ายเรือ: มื้อค่ำ
สำหรับผู้ที่หลงใหลในภาพยนตร์แอนิเมชั่นต้องไม่พลาดค่ะ เพราะทุกท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์อันสุดวิเศษนี้ รวมถึงการแสดงสำหรับอาหารค่ำโดยตัวละครดิสนีย์ พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับ State-of Art Dining การวาดภาพและแสดงภาพเคลื่อนไหวของตัวการ์ตูนที่ร่วมกันสรรค์สร้าง หนึ่งในนั้นรวมไปถึง Animation Magic สร้างตัวการ์ตูนด้วยตัวของคุณเอง (สำหรับแขกที่ล่องเรือตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป บนเรือ Disney Cruise Line) พร้อมเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารที่ถูกผสมผสานจากแคลิฟอร์เนียและอาหารเอเชียที่สดใหม่นั่นเองค่ะ 
 
 

 
 
Tiana's Place 
ชั้น 3 ท้ายเรือ: มื้อค่ำ
บรรยากาศจะอบอวลไปด้วยดนตรีแจ๊ส พร้อมอาหารสุดพิเศษที่รสชาติสุดแสนจะอร่อย ซึ่งจะสัมผัสผ่านริมฝีปากไปอย่างช้าๆ อาหารจากทางตอนใต้ของ Creole และ Cajun cooking of New Orleans รับรองว่าทั้งอาหารและดนตรีแจ๊ส ฟังไปกินไปจะเข้ากันที่สุดค่ะ
 

 
Triton's
ชั้น 3 กลางเรือ: อาหารเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ
ห้องอาหารสุดหรูหราค่ะ พลาดไม่ได้เลยกับรสชาติอาหารที่ต้องมาลิ้มลองรสชาติอาหารอเมริกันคลาสสิกแบบคอนติเนนตัลสำหรับมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ส่วนมื้อค่ำจะบริการอาหารฝรั่งเศสหรูหราค่ะ
 

 

 
อาหารรองท้อง อาหารทานเล่น และขนม (Light Meal, Snack & Sweeties)

 
Pete’s Boiler Bites 
ชั้น 9
เป็นห้องอาหารสไตล์อเมริกันคลาสสิค เช่น เบอร์เกอร์ ฮอทดอก ทาโก้ เหมาะสำหรับการรับประทานในมื้อกลางวันและมื้อเย็น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโซนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับเหล่านักกินทั้งหลายค่ะ
 

 
Daisy's De-Lites
ชั้น 9
หากใครที่เดินเที่ยวบนเรือสำราญลำนี้จนเหนื่อย และเกิดความหิวก่อนอาหารในมื้อเย็นแล้วหล่ะก็ เชิญมาทางนี้ก่อนได้ค่ะ ร้านเล็กๆ ชื่อว่า Daisy's De-Lites ร้านอาหารที่อยู่บริเวณริมสระน้ำ มีอาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆ มาให้ทานระหว่างวัน อาทิเช่น แซนวิส สลัด ขนมปังอบกรอบ หรืออาหารเบาๆ เพื่อสุขภาพ พร้อมผลไม้สดใหม่ ทานได้เพลินๆค่า
 
 
 
Pinocchio’s Pizzeria 
ชั้น 9
ลิ้มรสไปกับพิซซ่าที่สุดแสนอร่อย กับรสชาติที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นฮาวายเอียน หรือ เปปเปโรนีพิซ่า บวกกับชีสที่หอมนุ่มลิ้น ที่ตั้งร้านจะอยู่ติดกับ Goofy’s Pool รับลองจะถูกอกถูกใจเป็นที่สุดค๊า หิวๆขึ้นมาทันที
 

 
Eye Scream Treats
ชั้น 9
มุมไอศครีมอร่อยสำหรับน้องๆ นู๋ๆ ที่นี่มีไอติมฟรี กดกินเองได้แบบไม่อั้นเลยจ้า 
 

 
Room Service 
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้า และเพลิดเพลินไปกับอาหารว่างแสนอร่อยระหว่างมื้ออาหาร หรือเพื่อตอบสนองความต้องการในยามค่ำคืนก่อนนอน อีกทั้งผู้โดยสารสามารถใช้บริการจากห้องพักของคุณด้วยบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงได้ด้วยค่ะ แหม๋สะดวกสบายจริงๆเลย 
 

 
 

ห้องอาหารพิเศษที่ต้องเสียเงินเพิ่ม

นอกจาก Disney Wonder จะจัดบริการอาหารให้ทุกมื้อตามที่กล่าวมาแล้วด้านบน แต่ก็ยังมีภัตตาคารอีกหลายแห่งที่จัดไว้รับรอง หากคุณต้องการทานอาหารในแบบส่วนตัวหรือกับครอบครัว ในห้องอาหารที่จัดด้วยบรรยากาศ unique มีสไตล์ของตัวเอง หรือเมนูที่ปรุงพิเศษของเชฟชื่อดัง ห้องอาหารเหล่านี้จะมีค่าจองที่นั่ง หรือมีใช้จ่ายเพิ่มตามเมนูที่คุณสั่งค่ะ
 
 
Palo
ชั้น 10 ท้ายเรือ: มื้อค่ำ $
ห้องอาหารสุดพิเศษที่เรียกว่า Palo สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ต้องมาที่นี่ เป็นอาหารทางภาคเหนือของทางอิตาลีถูที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันค่ะ ส่วนภาพบรรยากาศด้านในถูกตกแต่งสไตล์แบบอิตาเลียน ทันสมัยและหรูหราผสมผสานกับดนตรี และมีทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา สำหรับห้องอาหาร Palo ในมื้อกลางวันและมื้อค่ำจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 30 เหรียญต่อท่าน เราจะต้องพาตัวเองเข้าไป Enjoy Eating ที่ห้องนี้ให้ได้เลยค่ะ
 

 
Frozone Treats
ชั้น 9: $
หากใครที่กำลังมองหาเครื่องดื่มเย็นๆ ก็สามารถมาได้ที่นี่ รสชาติคงไม่ต้องพูดถึง เพราะคงหวานอมเปรี้ยว นุ่มลิ้มละลายในปากจนอยากจะหยุดหายใจ อิอิ (ที่นี่จะอยู่ติดกับ Eye Scream Treats ที่มีไอติมฟรีค่ะ)
 

 
Preludes
ชั้น 4 กลางเรือ: $
สำหรับความบันเทิงในช่วงเย็น ก่อนเข้าไปยังโรงละคร Walt Disney Theatre จะมีบาร์ที่ชื่อว่า Preludes ผู้โดยสารทุกท่านสามารถหาคุกกี้ ค็อกเทล หรือป๊อปคอร์นได้ โดยจะมีพนักงานคอยให้บริการและเสิร์ฟถึงในโรงละครค่ะ
 

 
 

การแสดงและความบันเทิง

 
บนเรือ Disney Wonder นั้น ผู้โดยสารจะเพลิดเพลินไปกับการแสดงสดและรายการบันเทิง Live Show and Entertainment ที่โรงละครหลัก Walt Disney Theatre การแสดงมีหลายรูปแบบทั้งโชว์ละครเพลงจากภาพยนต์ของดีสนีย์คุณภาพในระดับบอร์ดเวย์ และการแสดงตลกและมายากลสลับกันไป หรือการเข้าชมภาพยนตร์ของดิสนีย์ในระบบดิจิตอล 3D ในโรงภาพยนต์ Buena Vista Theatre ขอบอกเลยว่าเราสามารถใช้เวลาอันคุ้มค่าอยู่ในห้องนี้ได้แบบไม่มีวันเบื่อแน่นอน
 
 
Walt Disney Theatre
เป็นห้องการแสดงโชว์หลัก ที่นี่จะจัดให้มีการแสดงโชว์ตามเนื้อเรื่องในภาพยนต์ชื่อดังต่างๆ ของดีสนีย์ เป็นการแสดงชุดใหญ่ระดับละครบอร์ดเวย์ที่น่าตื่นตาและแสนประทับใจ พร้อมเพลงแสนไพเราะและรีวิวเต้นประกอบงามตระการตา
 

 
สำหรับใครที่ชื่นชอบราชินีหิมะเอลซ่า และแอนนา สาวน้อยยิ้มสวย ต้องห้ามพลาดโชว์ชุด Frozen, A Musical Spectacular ซึ่งจะถือว่าเป็นโชว์หลักของเรือ Disney Wonder โดยมีการแสดงเต็มรูปแบบที่โรงละคร Walt Disney Theatre ค่ะ
 

 
Disney Dream - An Enchanted Classic เรื่องราวของสาวน้อยผู้หลงใหลในจินตนาการอมตะของดีสนีย์ ซึ่งเปรียบเสมอตัวแทนของเด็กๆ ทุกคน 
 
Show_Disney_Dream_-_Enchanted_Classic
 
The Golden Mickey Show อลหม่านไปกับ Dance Show สุดคับคลั่งและวุ่นวายจากมิกกี้และเพื่อน อีกหนึ่งโชว์ที่ได้รับความนิยมค่ะ
 

 
Buena Vista Theatre
เป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กสุดทันสมัยเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จัดฉายภาพยนต์ของดีสนีย์แบบจัดเต็ม ให้ชมกันให้ตาฉ่ำหวานกันไปเล๊ยยย ... First-Run Movies และหากท่านต้องการชมภาพยนตร์สุดคลาสสิคของดิสนีย์ที่แรกก่อนใคร ไปได้ที่โรงภาพยนต์นี้เลยค่ะ
 

 
 
  

กิจกรรมพิเศษที่เป็นไฮไลท์บนเรือ Disney Wonder

 
Sailing Away Deck Party
กิจกรรมความสนุกบนดาดฟ้าเรือที่ไม่มีวันจบสิ้น มาเริ่มต้นวันสนุกสุดขีดกันในวันแรกที่เรือเริ่มออกเดินทางกันเลย นั่นก็คือ Sailing Away Deck Party บริเวณดาดฟ้าเรือ จะมีตัวการ์ตูนพวก Mickey Mouse พร้อมผองเพื่อนมาแดนซ์กันกระจาย และแจกพู่สีแดง สีน้ำเงินโบกสะบัดกันให้ทั่ว เป็นภาพที่สวยงามอลังการตื่นตาตื่นใจจริงๆ เลยค่ะ 
 


 
Frozen Deck Party 
Let it go ... Let it go ... มาเป็นเสียงเพลงอิอิ เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆบนเรือสำราญลำนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญของเรือ Disney Magic สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับตัวยงของ 'แอนนา' สาวน้อยยิ้มสวย รวมถึง 'เอลซา' และเพื่อนๆ ต้องไม่พลาด 'Frozen Deck Party' ค่ำคืนที่มีแต่เสียงหัวเราะ บทเพลงโดนใจ กับจังหวะการเต้นสไตล์นอร์ดิกแบบคนพื้นเมือง ในงานจะถูกเนรมิตเป็นดินแดนมหัศจรรย์ในโลกน้ำแข็ง พร้อมกับจัดกิจกรรม Meet and Greet ให้เด็กๆได้สวมกอดและถ่ายรูปกับขวัญใจตัวเป็นๆ แน่นอนจะต้องได้พบกับ Queen Elsa, Princess Anna และ Olaf the Snowman ค่ะ
 
 
 
Pixar Pals Party
เชื่อว่าหลายๆ คนที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์แอนิเมชันของค่ายพิกซาร์ จะต้องรู้จักกับตัวการ์ตูนแต่ละตัวเป็นอย่างดี อาทิเช่น  Woody, Jessie, Russell, Dug, Sully และ Mr. Incredible อื่นๆอีกมากมาย แน่นอนว่าเด็กๆจะได้พบปะกับตัวการ์ตูนเหล่านี้ สวมกอด ขอลายเซ็นต์ และถ่ายรูปร่วมกันอย่างแน่นอนค่ะ ยิ้มไม่หุบกันหล่ะทีนี้ 
 

 
Character Greetings
พบตัวการ์ตูนขวัญใจของคุณๆ ... นอกจากที่ Walt Disney World แล้ว การได้พบปะสัมผัสกับเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์เหล่าขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะมีอยูในรายการ Character Greetings บนเรือสำราญของดีสนีย์เท่านั้น รับรองได้ว่าหันไปมองทางไหนก็จะเจอแต่เหล่าฮีโร่ เหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์สุดคลาสสิคและผองเพื่อนอยู่ทั่วเรือ พร้อมแล้วก็อย่าลืมกอดและหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่าย แช๊ะ แช๊ะ กันนะคะ จุดที่น้องๆ นู๋ๆ จะเจอตลอดจะเป็นชั้น 4 ตรงกลางลำเรือ และจุดที่เป็นระเบียง รวมถึงตรงบริเวณสระน้ำ รู้พิกัดแล้วรออะไรคะ ต้องวิ่งออกนอกห้องกันไปเลย อิอิ
 

 
Pirate Night
ค่ำคืนของโจรสลัด ... ธีมที่ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการงานสร้างดาวแสนล้านๆ ดวง คงต้องยกให้กับปาร์ตี้โจรสลัดในค่ำคืนสุดมหัศจรรย์นี้ เป็นค่ำคืนแห่งการรวมตัวที่ผู้โดยสารทุกท่านจะได้มาสนุกสุดเหวี่ยงกันบนเรือพร้อมชมการแสดงต่างๆ ของเหล่ามิคกี้เมาท์ที่มาจะเรียกเสียงหัวเราะ รวมถึงผองเพื่อน อาทิเช่น Daisy Duck, Minnie Mouse และ Goofy พร้อมชมความตระการตาของพลุไฟที่สวยสดงดงามบนท้องฟ้า จุดกันให้เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วชั้นดาดฟ้า พร้อมกับบรรเลงเพลงคู่ไปกับการเต้นรำให้ครื้นเครงบรรเลงใจ ... โอ้ยยย ว่าแล้วก็อยากจะเก็บเสื้อผ้าแล้วแพ็คใส่กระเป๋าหนีตามพี่มิคกี้เมาท์ไปปาร์ตี้ ในค่ำคืน Pirate Night ซะแล้วสิ
 



 
Thanksgiving at Sea 
หรือเรียกอีกอย่างว่าเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน งานเฉลิมฉลอง 'Thanksgiving at Sea' ผู้ดดยสารจะได้รับประทานอาหารอร่อยเป็นพิเศษค่า โดยเรือจะมีบริการอาหารสำคัญสัญญลักษณ์ของเทศกาลคือเมนูไก่งวง การตกแต่งภายในเรือจะถูกเนรมิตให้ออกมาอย่างสวยงาม เพื่อให้ทุกคนได้เกิดความประทับใจในการเฉลิมฉลองวันหยุดสุดพิเศษนี้ เรียกได้ว่าจะเรียกรอยยิ้มได้จากแขกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
 

 
New Year's Eve
เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ สำหรับผู้โดยสารที่เลือกล่องเรือที่อยู่ในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม - 1 มกราคม แและร่วมกิจกรรม Countdown ต้อนรับปีใหม่บนเรือสำราญ แสง สี เสียง สุดอลังการตื่นตาตื่นใจ จะเป็นทริปที่ทำให้ประทับใจไปจนจบการเดินทางอย่างแน่นอนค่ะ
 

 
 

กิจกรรมในฝันของ 'เจ้าหญิงและเจ้าชายตัวน้อยๆ'

 
Bibbidi Bobbidi Boutique 
เด็กหญิงเกือบทุกคนฝันที่จะได้แต่งตัวเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ มีเวลาอยู่กับโลกในจิตนาการอันสวยงามของเด็กน้อย ... เด็กชายฝันอยากเป็นฮีโร่สุดหล่อ มาช่วยเจ้าหญิงแสนสวยให้พ้นภัย ... สำหรับน้องๆ นู๋ๆ ที่อยากจะแปลงโฉมเป็นเจ้าหญิงแสนสวย หรือเจ้าชายสุดเนียบ สามารถเข้ามาได้ที่ร้านเสริมสวยสุดพิเศษ ที่เรียกว่า Bibbidi Bobbidi Boutique อย่างที่เรารู้กันว่าเจ้าเรือสำราญลำนี้มีธีมมากมายในแต่ละคืน เช่น ปาร์ตี้โจรสลัด หรือจะเป็นธีมฮออโลวีน ... หรือธีมเจ้าหญิงดิสนีย์ผู้ที่อยู่ในราชวังอันแสนงดงาม และยิ่งใหญ่อลังการ จินตราการของเด็กๆ เหล่านี้สามารถเนรมิตให้เป็นจริงได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ รับลองว่าถูกใจน้องๆ นู๋ๆ เป็นที่สุด
 

 
หลังจากนู๋น้อยได้ไปแปลงโฉมที่ห้อง Bibbidi Bobbidi Boutique เพื่อจะมางานเลี้ยงน้ำชาของเหล่าบรรดาเจ้าหญิงและเจ้าชายองค์น้อย ได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ ห้อง Royal Court Royal Tea ขอต้อนรับเด็กๆที่มีอายุ 3-12 ขวบให้มาลองเปิดประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมพบกับเหล่าตัวการ์ตูนในฝันของดิสนีย์ที่จะมาปรากฎตัวให้เห็นแบบเต็มๆ ตัวเป็นๆ ให้เด็กๆได้กริ๊ดกันเสียงหลงที่นี่ค่ะ ทั้งนี้เด็กๆสามารถสั่งอาหารพิเศษมารับประทานได้ แต่ห้องนี้ต้องทำการจองล่วงหน้านะคะ เพราะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับเด็กอยู่ที่ประมาณ 210 เหรียญ ผู้ใหญ่ประมาณ 69 เหรียญค่ะ 
 

 
 

โซนกิจกรรมสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต

 
'It's A Small World'
ห้อง “It’s A Small World” Nursery เป็นศูนย์รับเลี้ยงเด็กสุดคลาสสิคบนเรือสำราญสำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี ค่ะ คุณพ่อคุณแม่หากต้องการมีเวลาส่วนตัวสามารถนำลูกๆ มาได้ที่ห้องนี้ค่ะ เหมือนเป็นสวรรค์เล็กๆของนู๋น้อยฟันน้ำนม ห้องที่เต็มไปด้วยโลกแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีทั้งของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการมากมายให้กับเด็ก
 


 
Disney's Oceaneer Club'
โซนต่อไปเราจะมาเอาใจน้องๆ นู๋ๆ ประชาชนชั้น 1 ของเรือ Disney Cruise กัน โซนนี้เรียกว่า Disney’s Oceaneer Club  คลับสำหรับเด็กอายุ 3-12 ขวบ เด็กๆ สามารถเพลิดเพลินไปกับการแต่งตัวแบบเหล่าการ์ตูนดิสนีย์ หรือ เล่นเกมส์เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ พร้อมกับมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ คุณนู๋ๆ มีเฮ เพราะเขาเปิดให้บริการทุกวันนั่นเองค่ะ
 

 
'Edge'
ห้องนี้เรียกว่า 'Edge' สำหรับเด็กที่มีอายุ 11-14 ปี เป็นสถานที่สุดพิเศษที่ออกจะเน้นสำหรับการพบปะ พูดคุย และการเล่นเกมส์แบบฝึกสมองประลองความฉลาด ซึ่งในห้องนี้จะมีโทรทัศน์จอแบน คอมพิวเตอร์ วิดีโอเกมส์ และมีกิจกรรมที่น่าสนใจอยู่เพียบ เด็กๆ จะได้พบปะเพื่อนใหม่มากมายที่นี่ค่ะ 
 

 
'Vibe'
ห้องนี้เรียกว่า 'Vibe' เป็นสถานที่สำหรับเด็กโตอายุ 14-17 ปีค่า ที่จะสามารถมาพบปะเพื่อนใหม่ๆ เพลิดเพลินไปกับการดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ และสนุกกับการ เล่นวิดีโอเกมส์ รับรองว่าเด็กๆคงไม่อยากจะไปเที่ยวโซนอื่นเลยแน่นอน อิอิ
 

 
 

กิจกรรมความสนุกสนานทั่วไปบนเรือ Disney Wonder

 
AquaLab
เด็กๆ สามารถเพลิดเพลินไปกับ AquaLab สไลด์เดอร์ที่มีเสน่ห์ และมีความคดเคี้ยวแบบสวนสนุกที่ท้าทายสำหรับเด็กๆ ค่ะ
 

 
Goofy's Pool
สระน้ำที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกระชับมิตร ที่มีส่วนร่วมแบบครอบครัว พ่อ แม่ลูก ค่ะ
 

 
Quiet Cove Pool 
สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ และวันทีนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นสระที่มีความเงียบสงบ ชิวๆ บรรยากาศแบบผ่อนคลายสุดๆ ไปเลย 
 

 
 

สุขภาพและความงาม

 
Senses Spa & Salon
โซนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้โซนไหนๆ เห็นจะเป็นที่นี่เลยค่ะ เรียกว่า Senses Spa & Salo สำหรับหนุ่มสาวผู้ที่รักสวยรักงาม สามารถมาสัมผัสประสบการณ์ร้านเสริมสวยและสปาระดับไฮเอนด์ และทรีทเมนท์ที่จะทำให้ผ่อนคลายไปตลอดวัน ภายในมีทั้งห้องอบไอน้ำ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอโรม่า พร้อมห้องอบเซาน่าและห้องน้ำสุดหรูหราภายในตัว บริการของ Senses Spa & Salon มีทั้งนวดตัว บริการตัดผม ทำเล็บ ดูแลผิว ทุกอย่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สาวๆ ไม่ควรพลาดนะคะ
 

 
 
Fitness Centers
สำหรับผู้ที่หลงรักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ ต้องร้องโอ้ว๊าวววกับความครบครันของอุปกรณ์การออกกำลังกายบนเรือสำราญลำนี้ ที่ห้อง Fitness Centers มีทั้งลู่วิ่ง อุปกรณ์เครื่องยกน้ำหนักสำหรับท่านสุภาพบุรุษหุ่นล้ำบึก ส่วนสำหรับสุภาพสตรีก็มีกิจกรรมภายในที่สามารถเข้ามาเรียนได้ อาทิเช่น พิลาทิส โยคะ หรือสนุกไปกับการเต้นแอโรบิค ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในมีทั้ง ห้องอาบน้ำ ตู้เก็บของ ผ้าขนหนูฟรี และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า น้ำดื่มฟรีด้วยค่ะ เลิศ
 

 
Wide World of Sport
นอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรมบนดาดฟ้าได้ที่โซน Wide World of Sport เช่น เล่นกีฬากลางแจ้ง บาสเก็ตบอล ปิงปอง บรรยากาศโดยรอบจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องทะเลสีฟ้าครามค่ะ
 

 
 

โซนนี้ ... พื้นที่ส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่นะจ๊ะ

เรือสำราญของดีสนีย์ คือสวรรค์และพื้นที่สำหรับเด็ก และเป็นโลกซ่อนเร้นในจินตนาการของผู้ใหญ่ทุกคน บนเรือจะมีแต่ความบริสุทธิ์สดชื่น จะไม่มีคาสิโน ไม่มีที่สูบบุหรี่ และไม่มีเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์วางให้เห็นทั่วไปเหมือนสายเรืออื่นๆ แต่ Disney Cruise Line ก็ไม่ได้ทิ้งคุณพ่อคุณแม่หรือพี่ๆ วัยมันส์ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเรือค่า โดยบนเรือจะจัดให้มีโซนลี้ภัยไว้รับรองคุณพ่อคุณแม่ไว้เยอะทีเดียวค่า
 
D-Lounge
ชั้น 4: Nightclub $
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการร้องเพลงคาราโอเกะ เต้นรำ เล่นเกมส์ เปิดประตูและเข้ามาสนุกพลิดเพลินกับความบันเทิงเป็นครอบครัวกันได้ที่ห้องนี้กันเลยค่ะ เรียกว่า D-Lounge ภายในเลานจ์มีที่นั่งที่สะดวกสบาย กว้างขวาง ผสมผสานกับการตกแต่งที่สวยงามถือเป็นสถานที่รวมตัวกันอันยอดเยี่ยมเลยก็ว่าได้ หากใครชอบมานั่งที่นี่ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ เช่น ค็อกเทลสมูทตี้ หรือ มาร์ตินี่ นั่งชิวๆ ยาวไปค่ะ 
 
 
 
Promenade Lounge
ชั้น 3: Lounge $
สำหรับความบันเทิงและการพักผ่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุดในทริปการเดินทาง แน่นอนว่าผู้โดยสารสามารถมาใช้บริการเลานจ์แห่งที่ได้ตลอด ภายในกว้างขวาง มีโต๊ะ เก้าอี้ที่นั่งสบายๆอยู่มากมาย มีทีวีจอยักษ์ขนาดใหญ่ สำหรับรับชมเกมส์กีฬาฟุตบอล หรือติดตามข่าวสารได้ตลอดวัน เลานจ์แห่งนี้ตกแต่งสไตล์อาร์ตเดโคที่หรูหรา หากใครชอบมานั่งที่นี่ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำผลไม้ อาหารว่างเรียกน้ำย่อย หรือ สแน๊คกับกาแฟร้อนๆ ก็มากันได้ที่นี่เลยค่ะ 
 

 
Cove Cafe
ชั้น 9: Loung $
บรรยากาศสุดแสนจะบรรยาย ที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสระ Quiet Cove Pool ที่นี่เป็นเลานจ์สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นค่ะ เรียกว่าห้อง Cove Cafe ผู้โดยสารที่ชื่นชอบการจิบกาแฟรสเลิศ พร้อมทานขนมอบกรอบแสนอร่อย หรือจะเพลิดเพลินไปกับการดูโทรทัศน์ และท่องอินเตอร์เน็ตสามารถมารวมตัวกันได้ที่นี่ รับรองไม่มีเบื่อแน่นอนค่ะ
 

 
Signals
ชั้น 9: Bar $
ชมพระอาทิตย์ตกดิน ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบในท้องทะเลกับวิวสวยๆ ผู้โดยสารสามารถมานั่งชิวได้ที่บาร์พร้อมสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ Signals จะอยู่ถัดไปจาก Quiet Cove Pool นั่นเองค่า
 


 
Cadillac Lounge
ชั้น 3: Nightclub & Lounge $
หากใครที่หลงไหลในเสียงของเปียโน แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ Cadillac Lounge เรียกได้ว่าเป็นฮอลลิวูดไนท์คลับสุดคลาสสิค มีการเล่นเปียโนสดตลอดทั้งคืน อีกทั้งยังมีเครื่องดิ่มให้ดื่มแบบไม่อั้น บรรยากาศด้านในมีการตกแต่งที่หรูหรา ด้วยผนังไม้สีเข้ม เก้าอี้ที่มีขนาดใหญ่นั่งแบบสบายๆ และหน้าต่างที่สามารถมองออกไปและเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม หรือชมพระอาทิตย์ตกดินในเวลาเดียวกัน ที่กระทบกับแสงสว่างสีทอง จากไฟเบอร์ออปติก เพิ่มระดับความหรูหราจากด้านในและจิตรกรรมฝาผนังอีกด้วยค่ะ เลิศศศศ
 

 
Crown & Fin Pub
ชั้น 3: Pun & Bar $
สำหรับนักดื่มตัวยงทั้งหลายต้องไม่พลาดที่จะมาผับนี้ Crown & Fin Pub เป็นผับสไตล์อังกฤษสุดคลาสสิคนั่นเองค่ะ เพลิดเพลินไปกับการได้พักผ่อน พูดคุย พบปะกับเพื่อนๆ พร้อมสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ ค็อกเทล เบียร์รสชาติดี ไวน์รสชาติเยี่ยม และเครื่องดื่มน้ำผลไม้สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายก็มีให้เลือกค่ะ รับรองว่าผู้ใหญ่ทั้งหลายจะไม่เบื่อกันอย่างแน่นอน
 

 
Azure
ชั้น 3: Nightclub $
ขาแดนซ์ต้องห้ามพลาด มาโชว์สเตปกันสะหน่อยที่คลับเลานจ์ Azure ถือเป็นไนท์คลับที่มี แสง สี เสียง ระยิบระยับ สุดตระการตา เป็นสถานที่พบปะ หาเพื่อนใหม่ๆ ได้ไม่ยากเลยค่ะ เหมาะสำหรับแดนซ์กันแบบกระโปรงสะบัด สลัดความเครียดทั้งหลาย แล้วปล่อยใจให้เป็นอิสระ แดนซ์ไปพร้อมกับจังหวะเสียงดนตรี และเพลงที่ดังกึกก้อง ตึ๊ดตึ๊ด ๆๆ ๆๆ   
 

 
French Quarter Lounge
ชั้น 3: Nightclub & Lounge $
ค่ำคืนพิเศษกับเครื่องดื่มสุดโปรด เคลัาเสียงคนตรีแจ๊สแบบควอเทรท ในแบบ นิวออร์ลีนส์แจ๊สแท้ๆ
 
Wonder_French_Quarter_copy
 
Beverage Tastings
ชั้น 3: Lounge $
และสุดท้ายนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Beverage Tastings ต้องห้ามพลาดมาเรียนรู้และลิ้มลองรสชาติของเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นไวน์ หรือวิสกี้ และค็อกเทลชนิดต่างๆ อีกมากมาย รับรองว่าไม่เดินเซกลับไปที่ห้องนอนแน่นอนคร๊า คริคริ
 

 
 

SHOPPING

 
สินค้าของที่ระลึกจาก Disney
สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวยงของดิสนีย์สามารถเข้ามาช้อปปิ้งได้ที่นี่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ของทางดิสนีย์ทั้งนั้น ขาช้อปต้องห้ามพลาดที่จะมาที่ Sea Treasures  ถ้ามากันทั้งครอบครัวก็จะต้องจัดให้ครบเซ็ตเลยก็ว่าได้ค่ะ อิอิ และข้างๆ กันก็เป็นร้านที่เรียกว่า Mickey’s Mainsail สามารถเข้ามาเลือกช้อปของที่ถูกใจก่อนจะพร้อมไปปาร์ตี้บนเรือสำราญ ในยามค่ำคืนอันสุดวิเศษกันเล๊ยยย
 

 
 
สินค้าปลอดภาษี
 
ถ้ายังช้อปไม่หนำใจก็มาต่อกันที่ White Caps ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Mickey’s Mainsail ค่ะ ร้าน White Caps มีสินค้าปลอดภาษีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องดื่มหรือซิการ์ ไวน์ เบียร์ เป็นสินค้าที่ปลอดภาษีทั้งสิ้นค่ะ อิอิ กระเป๋าแฟ๊บก็คราวนี้แหละค่า
 
 
 
 

ความประทับใจ

หากใครยังช้อปได้อีก บริเวณชั้น 4 โซนช้อปปิ้งก็จะมีชอปที่เรียกว่า Vista Gallery สามารถซื้อรูปภาพของเหล่าตัวการ์ตูนของดิสนีย์เก็บไว้เป็นของฝากหรือของที่ระลึกได้ค่ะ รับรองว่ามีตัวละครหลายแบบที่ชื่นชอบให้เลือกหา สำหรับนักสะสมภาพวาดก็ต้องห้ามพลาดที่จะมาที่นี่แน่นอน
 

 
สำหรับคนที่ชอบภาพถ่ายสวยๆ สามารถมีอัลบั้มส่วนตัวได้ค่ะ บนเรือสำราญจะมีช็อปที่เรียกว่า Shutters: The Onboard Photography Shop ซึ่งเป็นร้านถ่ายรูปที่มีอุปกรณ์ครบครันค่ะ หากใครที่อยากได้อุปกรณ์ถ่ายภาพก็มาหาดู หาซื้อได้ที่นี่ หรือใครที่มาเที่ยวเป็นทริปฮันนีมูน อยากได้รูปสวยๆ กลับไปเป็นที่ระลึก หรือต้องการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก็จะมีแพคเกจให้เลือกเช่นกันค่ะ
 

 

 
ขอบคุณที่กรุณาติดตามการแนะนำเรือสำราญของ 'หญิงปุ๊กพาเที่ยว' ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการล่องเรือสำราญกับทริปในฝันของคุณๆ นะค้าาาาา
 

 
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
 
http://www.yingpook.com/cruises
https://disneycruise.disney.go.com
https://en.wikipedia.org/wiki/Disney_Cruise_Line
https://www.cruzely.com