ภาพรวมเรือ Harmony of the Seas

การล่องเรือสำราญเปรียบเสมือนการเดินทางสู่อิสรภาพที่ไม่สิ้นสุด ระหว่างทางรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเรือสำราญขนาดใหญ่ยักษ์มหึมาที่ลอยแล่นอยู่บนมหาสมุทรสีฟ้าครามจะคอยเติมเต็มความสุขและรอยยิ้มให้กับแขกผู้เข้าพักทุกท่าน เรือลำที่เราพูดกำลังถึงนี้ หากใครได้เห็นจะต้องร้องโอ้วว้าววว ด้วยขนาดที่ใหญ่ยักษ์สามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 6,780 คน มีความสูงถึง 18 ชั้น ระวางขับน้ำ 227,000 ตัน เรือลำนี้จึงได้ตำแหน่งหนึ่งในเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมาครอบครอง โดยเรือลำนี้มีชื่อว่า Harmony of the Seas เป็นเรือสำราญที่อยู่ในตระกูล Oasis Class กลุ่มเรือสำราญที่สุดในโลกของบริษัท Royal Caribbean International นั่นเองค่า
 

ข้อมูลทั่วไป

 
 

ไลฟ์สไตล์บนเรือ Harmony of the Seas

เรือสำราญ Harmony of the Seas (2016) ลำนี้เป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นอันดับที่ 2 รองจากเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก Symphony of the Seas (2018) ในปัจจุบัน จัดอยู่ในตระกูล Oasis Class ซึ่งในตระกูลนี้ยังมีเรือพี่น้องอีกสองลำ ได้แก่ Oasis of the Seas (2013) และ Allure of the Seas (2014) กลุ่มผู้โดยสารจะเป็นทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเดินทางมาด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มนักเดินทางจะเลือกเดินทางในช่วงฤดูร้อนและช่วงเทศกาลวันหยุดสำคัญต่างๆ ซึ่งกลุ่มผู้โดยสารหลักๆ จะเป็นชาวอเมริกาเหนือและอังกฤษค่ะ เน้นความสนุกสนาน ความบันเทิง ทำกิจกรรม ชมการแสดงบนเรือ และทานอาหารหลากหลายสไตล์ได้ไม่อั้น
   

 
 

ไฮไลท์ของเรือ Harmony of the Seas

ถ้าให้พูดถึงไฮไลท์ของเจ้าเรือสำราญ Harmony of the Seas เรือที่มีความยิ่งใหญ่อลังการมหึมาดาวล้านดวง พูดทั้งวันก็อาจจะไม่หมดเป็นได้นะคะ เรือลำนี้จะทำให้นักเดินทางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เพราะด้วยบรรยากาศภายในตัวเรือที่ได้รวบรวมเอากิจกรรมต่างๆ มากมายมารวมไว้ อาทิเช่น สวนสาธารณะที่เรียกว่าโซน Central Park ที่ถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณมากกว่า 1,200 ชนิด ร้านอาหารชื่อดังและหรูหราที่มีให้เลือกถึง 18 ร้าน หนึ่งในนั้นก็คือร้านสุดไฮโซ Jamie’s Italian จากเชฟชื่อดัง Jamie Oliver เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจไปทุกราย รวมไปถึงโซนไฮไลท์ของเด็กและผู้ใหญ่ นั่นก็คือโซนสวนน้ำที่ชั้น 16 ที่มีจุดเด่นเป็นเจ้าสไลเดอร์นำ้ที่จะทำให้หวาดเสียวแบบสุดๆ  “The Perfect Storm”  ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ ยังมีกิจกรรมที่สนุกอื่นๆ อีกมากมายค่ะ 


 
 

เส้นทางล่องเรือ Harmony of the Seas

เรือ Harmony of the Seas จะประจำให้บริการอยู่สองโซน คือ
 
โซนอเมริกา: ในเส้นทางแคริบเบียนตะวันตก 7 คืน 
 
Harmony of the Seas: USA - Caribbean Cruise  
  • มกราคม - มีนาคม: เดินทางเส้นทางแคริบเบียนตะวันตก 7 คืน เมืองท่าต้นทางคือ พอร์ท คานาเวอร์รัล เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา
  • เมษายน: เดินทางจากพอร์ท คานาเวอร์รัล ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสู่ทวีปยุโรป (Repositioning)
 
โซนยุโรป: เส้นทางล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 7 คืน 
Harmony of the Seas: Europe - Mediterranean Cruise
  • พฤษภาคม - ตุลาคม: ล่องเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก 7 คืน เมืองท่าต้นทางคือเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และชิวิตาเวคเกีย (โรม) ประเทศอิตาลี
  • พฤศจิกายน: เดินทางจากโซนยุโรปกลับอเมริกา เข้าประจำการที่พอร์ท คานาเวอร์รัล เพื่อเดินทางในโซนแคริบเบียน
 
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางกับเรือสำราญขนาดใหญ่ สามารถดูเส้นทางการเดินทางตลอดทั้งปีของ Harmony of the Seas ได้จากลิงค์ด้านล่างเลยค่า
Harmony of the Seas: Itinerary
 
 

ราคาค่าล่องเรือ Harmony of the Seas รวมบริการอะไรบ้าง

สายเรือ Royal Caribbean International เป็นสายเรือแบบครอบครัวที่เหมาะกับผู้โดยสารทุกเพศทุกวัย จัดอยู่ในระดับค่อนข้างดี ราคาที่ต้องจ่ายเป็นราคาที่ไม่สูงมาก ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่จำเป็นไว้ครบแล้ว

 

บริการที่รวมอยู่ในราคาค่าล่องเรือแล้ว

สิ่งรวมอยู่ในค่าล่องเรือจะรวมสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวัน  
  1. ห้องพักตามแบบที่คุณเลือกจองไว้
  2. บริการอาหารอย่างน้อยวันละสามมื้อหลัก อาหารมื่้อพิเศษ และอาหารทานเล่น 
  3. ชมการแสดงในโรงละคร และสถานที่จัดการแสดง
  4. ร่วมกิจกรรมและเล่นเครื่องเล่นที่มีให้บริการบนเรือ

 

บริการที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ถึงแม้ Harmony of the Seas จะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ท่านอย่างพอเพียงแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายความสุขสนุกสนานที่จัดเตรียมรอไว้สำหรับคุณที่ต้องการสิ่งที่พิเศษกว่า บางบริการจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิเช่น:
  • การซื้อสินค้าและบริการบนเรือ
  • การซื้อทัวร์ชายฝั่ง (Shore and Land Excursion)
  • การสั่งเครื่องดื่มในบาร์ ไนท์คลับ เลาจน์
  • แพ็คเกจเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ (Beverage Package)
  • อาหาร ขนม และสิ่งของสั่งพิเศษสำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษ
  • บริการเสริมความงามและสปาที่ VITALITY® at Sea Spa
  • บริการอินเตอร์เน็ต ทั้งในส่วนของ Business Center และ Wi-Fi
    • ตัวอย่างราคาค่า Wi-Fi โดยประมาณ *
    • Surf & Stream 1 Device = US $13.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ
    • Surf & Stream 2 Device = US $20.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ
    • Surf & Stream 3 Device = US $23.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ
    • Surf & Stream 4 Device = US $26.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ
  • บริการโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศ
  • การเล่นคาสิโนบนเรือ
  • บริการรถรับ - ส่งระหว่างท่าเรือ สนามบิน และในเมือง
  • บริการทางการแพทย์
  • บริการซักรีด
  • เช่าชุดสูทหรือทักซิโด้
* ราคาและค่าบริการนั้นอาจแตกต่างกันในแต่ละทริปการเดินทาง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อจองเรือแล้วนะคะ 

 

ยินดีต้อนรับสู่เรือ Harmony of the Seas

 

ห้องพักบนเรือ Harmony of the Seas

Harmony of the Seas มีการปรับปรุงจัดการเรื่องขนาดและโซนของห้องพักให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เดินทางที่หลากหลายมากขึ้น ภายในห้องจะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น
  • ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า พื้นที่นั่งเล่นพร้อมโซฟา 
  • โทรศัพท์ ทีวี ไดร์เป่าผม
  • พนักงานทำความสะอาดและจัดที่นอนประจำห้อง บริการทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
หมายเหตุ: เครื่องดื่มที่วางอยู่ในห้อง เช่น น้ำอัดลมกระป๋องหรือน้ำดื่มบรรจุขวดจะมีค่าใช้จ่าย
 
ประเภทของห้องพักบนเรือมีอยู่หลายระดับมากกว่า 20 แบบใน 14 ชั้นบริการ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักคือ ห้องไม่มีหน้าต่าง ห้องมีหน้าต่าง ห้องมีระเบียง และห้องสวีท
 

ห้องพักแบบที่ 1. ห้องไม่มีหน้าต่าง (Interior / Inside Stateroom) 

ขนาดห้อง 13.8 - 18.02 ตรม.
มีให้เลือก 4 ประเภท คือ Interior Stateroom, Interior Promenade View, Interior Central Park View, Interior Stateroom with Virtual Balcony โดยจะมีขนาดและมีวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่าราคาก็จะแตกต่างกันด้วย ห้องพักบางส่วนสามารถพักได้สูงสุดถึง 4 ท่าน แต่ถ้าจะให้ดี พัก 2 ท่านต่อ 1 ห้องจะดีมากค่ะ ไม่อึดอัดจนเกินไป เพราะพื้นที่ในห้องพักบนเรือสำราญค่อนข้างแคบกว่าห้องพักในโรงแรมทั่วไปค่ะ 
 
Interior Stateroom

Interior Central Park View

Interior Promenade View

 

ห้องพักแบบที่ 2. ห้องมีหน้าต่าง (Ocean View Stateroom) 

ขนาดห้อง 16.6 ตรม.
จะเหมือนกับห้องแบบไม่มีหน้าต่างเกือบทุกอย่าง ต่างกันคือจะมีหน้าต่างกลมๆ เล็กๆ ไว้ดูวิวด้านนอก แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ ห้องแบบนี้ส่วนมากจะอยู่ที่ชั้นที่ 3 แบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ คือ Standard Ocean View และ Superior Ocean View ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย และจะอยู่ที่ชั้น 7-9 ด้านหัวเรือ
 


ห้องพักแบบที่ 3. ห้องแบบมีระเบียง (Balcony Stateroom) 

ขนาดห้อง 16.9 ตรม. ระเบียง 5-7 ตรม.
ห้องแบบมีระเบียงบนเรือในกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสายเรือ Royal Caribbean International นี้จะแบ่งออกมาเป็นสามแบบหลักๆ ดังนี้
  • ห้องมีระเบียงวิวทะเล (Ocean View Balcony): เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดบนเรือ ภายในสะดวกสบาย มีขนาดที่ไม่เล็กจนเกินไป ระเบียงห้องยังสามารถเปิดออกไปนั่งชมวิวทะเล รับลม และสามารถสั่งอาหารค่ำมานั่งทานชมวิวแบบสุดแสนโรแมนติกกับคนรู้ใจก็ยังได้
  • ห้องมีระเบียงวิวสวน (Central Park View Balcony): ระเบียงของห้องจะหันหน้าเข้าด้านในของตัวเรือที่โซน Central Park เหมาะสำหรับท่านที่ยังหลงใหลในสีเขียวของต้นไม้แและสีสันของดอกไม้ ให้ท่านออกมานั่งระเบียงชื่นชมความสงบร่มรื่นของสวน Central Park กลางลำเรือได้อย่างเต็มที่ 
  • ห้องมีระเบียงวิวสวนสนุก (Boardwalk View Balcony): สำหรับคนที่ชอบความสนุกสนานรื่นเริง ห้องแบบนี้ระเบียงจะหันหน้าออกหาบริเวณสวนสนุก Boardwalk เปิดโอกาสให้ท่านจับตามองความสนุกสนานของ Boardwalk ยามค่ำคืน และบางห้องยังสามารถนั่งชมการแสดงชุดพิเศษที่ Aqua Theater ได้อย่างสบายโดยไม่ต้องคอยรีบไปจับจองที่นั่งชมค่ะ 
ห้องแบบมีระเบียงจะมีบางส่วนที่พักได้ได้สูงสุด 4 ท่านค่ะ ส่วนใหญ่คนไทยจะเลือกพักห้องประเภท Ocean View Balcony นี้ค่ะ ความสะดวกสบายมาพร้อมกับวิวระเบียงภายในห้องพักที่สุดฟิน ดังนั้นเวลาจองทริปเรือกรุณาตรวจสอบให้ดีนะคะว่าจองห้องได้ถูกต้องตามที่ท่านต้องการแล้ว 

Ocean View Balcony 

 

ห้องพักแบบที่ 4. ห้องสวีท (Suites) 

เหมาะสำหรับคุณคนพิเศษที่ต้องการความสะดวกสบาย และการดูแลเป็นพิเศษมากยิ่งขึ้น จากอภิสิทธิ์มากมาย เช่น Priority Check-in หรือการเข้าเลาจน์รับรองบนเรือเฉพาะแขกห้องสวีท เป็นห้องที่มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่ขึ้น ห้องสวีทในระดับสูงขึ้นไป จะมีความหรูหราขึ้นไปเรื่อยๆ และสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นตามระดับ ห้องแบบนี้ ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายๆ คนในการไปดื่มด่ำกับสวรรรค์กลางมหาสมุทร ซึ่งห้องสวีทมีทั้งหมด 7 ประเภทย่อยตามรูปภาพด้านล่างค่ะ
 
1. Junior Suite
2. Grand Suite (1 Bedroom) 


3. Owner's Suite 

4-5. Spacious Aquatheater Suite (1 Bedroom / 2 Bedroom) 


6. Sky Loft Suite 

7. Crown Loft Suite  
 
ดูรายละเอียดห้องพักเพิ่มเติมได้ที่: cruisemapper.com
 
 

อาหาร (Meals) 

ไม่ว่าคุณจะชอบอาหารสไตล์ไหน หรือต้องการทานช่วงเวลาใด คุณสามารถหาสถานที่ทานอาหารบนเรือ Harmony of the Seas ได้เสมอ เพลิดเพลินกับการเลือกรับประทานอาหารฟรี หรือเลือกทานอาหารชั้นเยี่ยมในสถานที่พิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเต็มคอร์สมากคุณภาพ หรือจะเป็นของขบเคี้ยวที่คุณอยากทาน 
 
Harmony of the Seas จะให้บริการอาหารมื้อหลัก เช้า กลางวัน และอาหารค่ำ ครบอย่างน้อยสามมื้อต่อวัน นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารรองท้องระหว่างมื้อ อาหารหรือขนมทานเล่น และอาหารรอบดึก โดยภายในเรือลำนี้จะห้องอาหารถึง 18 แห่งให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการได้เกือบตลอดทั้งวัน
 

 

ห้องอาหารที่บริการฟรี

ห้องอาหารที่ให้บริการฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มบนเรือ Harmony of the Seas มี 9 ห้อง ได้แก่

1. WINDJAMMER MARKETPLACE 
อยู่บนชั้นที่ 16 บริเวณท้ายเรือ บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ แบบบุฟเฟต์นานาชาติ ให้บริการตลอดทั้งวัน และอาหารรอบดึกจนถึงเที่ยงคืน
  • ห้องอาหารนี้จะมีซุ้มเครื่องดื่ม ชา กาแฟ โอวัลติน โกโก้ น้ำร้อน น้ำแข็งไว้บริการฟรีตลอดจนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน
  • หากต้องการสั่งเครื่องดื่มพิเศษ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • หากท่านต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมื้อค่ำจากห้องอาหารค่ำหลัก (Main Dining Restaurant) ก็สามารถมาทานที่นี่ได้
 
การแต่งกายเข้าห้องอาหาร WINDJAMMER MARKETPLACE สามารถแต่งชุดลำลอง กางเกงขาสั้น หรือรองเท้าแตะ แต่ไม่ควรเข้าไปในชุดว่ายน้ำหรือเมื่อตัวเปียกจากการเล่นน้ำ
 

 
2. MAIN DINING RESTAURANT 
ห้องทานอาหารหลักสำหรับอาหารมื้อค่ำที่บริการในแบบเซ็ตเมนู บริการอาหารมื้อค่ำด้วยเมนูอาหารที่คัดสรรอย่างดี ห้องอาหารจะแบ่งออกเป็นสามส่วน อยู่ต่างชั้นกันและมีชื่อเรียกแต่ละชั้นไม่เหมือนกันคือ
  1. American Icon* อยู่ชั้นที่ 3
  2. The Grand อยู่ชั้นที่ 4
  3. Silk จะอยู่ชั้นที่ 5
 
การแต่งกายสำหรับห้องอาหาร Main Dining Restaurant แนะนำให้แต่งกายแบบสุภาพ
  • สุภาพบุรุษ: สวมใส่เสื้อเชิ้ตมีปก หรือเสื้อโปโล อาจมีสูทหรือแจ็ตเก็ตทับ กางเกงขายาวหรือยีนส์สีเข้มไม่ขาด รองเท้าหุ้มส้น
  • สุภาพสตรี: สามารถสวมใส่เสื้อกับกระโปรงหรือกางเกงขายาว และรองเท้าสุภาพ 
  • กรุณาหลีกเลี่ยงกางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลม รองเท้าแตะ กางเกงยีนส์ขาด 
* สำหรับห้อง American Icon นอกเหนือจากการให้บริการอาหารค่ำในแบบเซ็ตเมนูแล้ว ยังมีบริการอีกสองอย่างคือ:
  • บริการอาหารเช้าทุกวัน คุณสามารถทานอาหารเช้าแบบสั่งจากเมนู หรือทานแบบบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่มีให้บริการในห้องนั้น หรือสามารถทานได้ทั้งสองอย่าง
  • บริการอาหารกลางวันในวันที่ล่องทะเล (At Sea)

นอกจากห้องอาหารหลักทั้งสองแห่งนี้ ยังมีห้องอาหารอื่นๆ ที่บริการอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ที่ให้บริการฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ได้แก่
 
3. COASTAL KITCHEN
ที่ชั้น 17 ห้องอาหารนี้จะให้บริการผู้โดยสารที่พักห้อง Grand Suite ขึ้นไป และแขกที่เป็นสมาชิกของเรือในระดับ Pinnacle Club เท่านั้นค่ะ บรรยากาศสวยงามพร้อมมีวิวทิวทัศน์ที่สวยเกินจะบรรยาย พร้อมเสิร์ฟอาหารที่มีรสชาติที่หาทานที่ไหนไม่ได้ ด้วยความอร่อยแบบไม่ซ้ำใคร บวกกับไวน์ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด

 
4. SOLARIUM BRISTO
อยู่ที่ชั้น 16 ค่ะ หากใครนึกถึงอาหารดีเพื่อสุขภาพ ต้องไม่พลาดที่จะมายังห้องอาหาร Solarium Bistro เป็นห้องอาหารที่มีสไตล์การตกแต่งที่สวยงาม พร้อมกับบรรยากาศสบายๆ กว้างขวาง รวมถึงการมีเมนูอาหารที่สดใหม่ และน้ำผลไม้ที่มีมากมายให้เลือกดื่มได้ ห้องอาหารนี้เปิดให้บริการแบบบุฟเฟต์ ทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวันค่ะ 

 
5. BOARDWALK DOG HOUSE
ร้านเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่บนทางเดินริมทะเลที่ชั้น 6 ในโซน Boarkwalk ให้บริการฮอทด็อกหลากหลายชนิด แล้วตกแต่งท็อปปิ้งให้เหมาะกับความชอบของคุณ 

 
6. PARK CAFÉ 
ที่ชั้น 8 บรรยากาศสบายกลางสวนบนเรือ ในย่านเซ็นทรัลพาร์คที่สวยงามและเงียบสงบ เพลิดเพลินกับเบเกิลบาร์ในตอนเช้าหรือพานินี่ตอนบ่าย ตัวเลือกอื่นๆ รวมถึงซุปและสลัดแบบเป็นของคุณเอง 

 
7. CAFÉ PROMENADE 
อยู่ที่ชั้น 5 โซน The Royal Promenade บริการอาหารรองท้อง แซนด์วิช น้ำดื่ม ชา กาแฟ

 
8. SORRENTO’S PIZZA
พิซซ่าบาร์ของเรือตั้งอยู่ในโซน The Royal Promenade ที่ชั้น 5 เสนอพิซซ่ารสชาติคุ้นลิ้น หรือสั่งทำด้วยส่วนผสมที่ไม่ซ้ำใคร เปิดให้บริการตั้งแต่กลางวันจนถึงดึก สำหรับแขกที่ชอบทานพิซซ่าต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ค่ะ แป้งที่นุ่มหอมกลุ่นละมุนละไมจนต้องเดินหลงเข้ามาแบบไม่รู้ตัว รวมถึงบรรยากาศภายในร้านที่รู้สึกเป็นกันเองด้วยการต้อนรับที่อบอุ่นของพนักงานค่ะ

 
9. MINI BITES
ที่ชั้น 14 Mini Bites เปิดให้บริการสำหรับช่วงกลางวันและในช่วงบ่าย Mini Bites เป็นชื่อที่สื่อถึงอาหารไซส์ขนาดเล็กพอดีคำ เช่น ข้าวโพดขนาดเล็ก ลูกชิ้น คัพเค้ก และ Mini Quiches เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับอาหารว่าง

 
 

ห้องอาหารที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม $

ห้องอาหารพิเศษ หรือ Specialty Restaurant คือภัตตาคารหรูขนาดเล็กที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอเมนูอาหารจากสูตรการปรุงของเชฟที่มีชื่อเสียง คุณภาพอาหารชั้นเลิศ ท่านสามารถเข้าไปใช้บริการได้ โดยต้องทำการจองที่นั่งล่วงหน้าและเสียค่าจองประมาณ US $20 - US $55 บวก Service Charge 18% ต่อท่านต่อมื้อ และหากท่านสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มเติมก็จะมีค่าใช้จ่ายตามเมนูของทางร้าน หรือบางร้านก็จะคิดราคาอาหารตามรายการที่ท่านสั่ง 
 
ห้องอาหารพิเศษบนเรือ Harmony of the Seas ที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากท่านใช้บริการนั้นมีอยู่ 9 ร้าน ได้แก่
 
1. WONDERLAND
ที่ชั้น 12 บริการอาหารยุโรป เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารในบรรยากาศชวนฝันดังจินตนาการของดินแดนอันสวยงามในเทพนิยาย ให้คุณสัมผัสรสชาติเมนูอาหารที่รังสรรค์ออกมาเป็น 6 ธีม คือ Sun, Sea, Ice, Earth, Fire และ Dreams ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศและเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ (ชำระค่าจองที่นั่งคนละ US $ 30-35 + Service Charge 18%)

 
2. 150 CENTRAL PARK 
ชั้น 8 โซน Central Park บริการอาหารยุโรป ฝีมือการรังสรรค์เมนูจากเชฟชื่อดังอย่าง Michael Schwartz ให้บริการอาหารที่เรียบง่ายและสง่างามโดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ เป็นอาหารที่จัดขึ้นตามฤดูกาลนั้นๆ และที่สำคัญอาหารที่เสิร์ฟมักคู่กับไวน์ที่ใช่ค่ะ แขกสามารถสั่งไวน์ให้เข้ากับอาหารเพื่อเพิ่มความกลมกล่อม ละมุนลิ้น ถือเป็นมื้อดินเนอร์อีกมื้ออันสุดแสนจะวิเศษพร้อมมากับบรรยากาศภายในห้องอาหารที่สวยงามอลังการค่ะ (ชำระค่าอาหารตามเมนู)

 
3. CHOPS GRILLE 
ชั้น 8 โซน Central Park สเต๊กเฮาส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Caribbean Cruise สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานสเต็กเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำว่าต้องให้มาที่ห้องอาหาร Chops Grille ค่ะ สำหรับมื้ออาหารกลางวัน และมื้อค่ำสุดหรู คุณจะได้ลิ้มรสสเต็กสุดแสนจะอร่อยด้วยสเต็กคุณภาพของเนื้อชั้นเยี่ยม และอาหารทะเลพร้อมกลิ่นอายร่วมสมัย วัตถุดิบทุกอย่างสดใหม่ รวมถึงกุ้งล็อบสเตอร์เมนูยอดนิยมทานคู่กับไวน์ขาว เข้ากันเป็นที่สุดค่ะ โอ๊ยเลิศ ตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่มีหลากหลายให้เลือก (ชำระค่าจองที่นั่งคนละ US $ 30-35 + Service Charge 18%)

 
4. CHEF'S TABLE
อาหารมื้อพิเศษจากเชฟ ได้กลายเป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยม เป็นมื้อค่ำที่คุณและแขกคนพิเศษคนอื่นจะได้ลิ้มรสอาหารที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษและนำเสนอโดยหัวหน้าเชฟ (Chef de Cuisine) อาหารรสเลิศและไวน์ชั้นดีที่ถูกคัดสรรมาด้วยกัน Chef's Table คือการจัดอาหารค่ำแบบห้าคอร์สที่ไม่เหมือนใครพร้อมการจับคู่กับไวน์ โดย Chef de Cuisine จะนำเสนอและอธิบายเทคนิคการทำอาหาร ส่วนผสม และรสชาติ
 
Chef's Table จะมีที่นั่งอยู่ในส่วนพิเศษของ Chops Grille และจะมีเพียง 14 ที่เท่านั้น (ตรวจสอบราคาในแต่ละทริปที่เดินทาง)

 
5. JAMIE’S ITALIAN by JAMIE OLIVER 
ที่ชั้น 8 โซน Central Park ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่โด่งดังบนเรือสำราญลำนี้โดยเชฟ Jamie Oliver ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วเพราะเป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่ได้รับความนิยมจากแขกเป็นอย่างมาก อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ มาพร้อมกับวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรตามฤดูกาล ทั้ง ชีส เนื้อชั้นดี ฟักทอง พาสต้า กุ้ง ผักดอง ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในเมนูจานเด็ดค่ะ Jamie's Italian จะให้บริการในช่วงมื้อกลางวัน และมื้ออาหารค่ำเท่านั้นค่ะ (ชำระค่าอาหารตามเมนู)

 
6.VINTAGES
ชั้น 8 โซน Central Park สำหรับคอไวน์แล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าหากคุณต้องการไวน์ชั้นเยี่ยมสักขวดละต้องมาที่นี่เลยค่า  ที่นี่ยังเสิร์ฟทาปาสเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับไวน์แก้วโปรด ทาปาสเป็นอาหารจานเล็ก ๆ ที่มีต้นกำเนิดในประเทศสเปน ทาปาสแบบดั้งเดิมนั้นมีส่วนผสมของอาหารเรียกน้ำย่อยหรือของว่างเสิร์ฟใกล้กับจานเล็ก ๆ อย่างมีสไตล์

 
7. JOHNNY ROCKETS 
ชั้น 6 โซน Boardwalk ร้านอาหารสุดคลาสสิคในบรรยากาศยุค 60's แห่งนี้ตั้งอยู่บนทางเดินริมทะเลพร้อมที่นั่งกลางแจ้งมากมาย ให้บริการอาหารอเมริกันแบบดั้งเดิมที่คุณโปรดปรานเช่นเบอร์เกอร์ ฮอทดอก และพริกทอดชีส ทั้งหมดนี้ปิดท้ายด้วยมิลค์เชคหวานสดใส (ชำระค่าอาหารตามเมนู)

 
 
8. SABOR
ชั้น 6 โซน Boardwalk ลองชิม Fajitas เนื้อผัดเม็กซิกันที่ร้อนแรงเสิร์ฟกับทาโก้รสจัดจ้านทานกับขนมแป้งกรอบตอร์ติญ่า และต้องไม่ลืมที่จะสั่งเครื่องดื่มมาการิต้าที่มีส่วนผสมเฉพาะของร้าน นั่งดื่มชิลๆ ในบรรยากาศ Boardwalk (ชำระค่าอาหารตามเมนู)

 
 
9. IZUMI HIBACHI & SUSHI 
ชั้น 4 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารเอเชีย ต้องมาลองอาหารยอดนิยมที่ห้องอาหารนี้ Izumi เป็นห้องอาหารญี่ปุ่น เพลิดเพลินกับรสชาติของซูชิทำมือกันเห็นๆ ซาซิมิสด เทปันยากิที่เตรียมไว้ตรงหน้าคุณ ทดสอบอาหารจานพิเศษของเชฟ เช่น Truffle Creamy Lobster หรือ Tempura Roll บอกได้เลยว่าเป็นสุดยอดของความอร่อย รวมไปถึงเมนูของหวานตบท้ายให้เลือกอีกมากมายค่ะ (ชำระค่าอาหารตามเมนู)

 
 
10. บริการ Room Service 
  • บริการส่งอาหารให้ถึงห้องพักของท่านฟรีตามเมนู Room Service ในระหว่างเวลา 06.00 น. - 24.00 น.
  • หากใช้บริการนอกเวลาที่กำหนดไว้จะมีค่าบริการครั้งละ$7.95 และค่า Service Charge อีก 18%







บาร์เครื่องดื่ม $

บนเรือจะมีบาร์เครื่องดื่มให้บริการกระจายอยู่ทั่วไป แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่คุณสั่งนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ก็แลกกลับคืนมาด้วยบรรยากาศของความสนุกสนานเฮฮากับผู้ร่วมเดินทาง ลีลาและเสน่ห์ของบาร์เทนเดอร์ และดนตรีเพราะๆ ขับกล่อม 
 
BIONIC BAR
Bionic Bar หรือจะให้เรียกอีกอย่างว่า 'หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์อัจฉริยะ' ที่เราสามารถให้ชงเครื่องดื่มส่วนตัว มิกซ์นั่นผสมนี่เป็นแบบเฉพาะของตัวเองก็ทำได้เช่นกันค่ะ แหม.. อยากจะขอหนักๆ สักแก้วก่อนเดินเซกลับไปยังห้องพักแบบไม่รู้ตัว อิอิ 

 
SUITE LOUNGE 
สวีท เลาจน์ หรือคลับสำหรับผู้โดยสารห้องสวีท คือห้องอาหาร Coastal Kitchen นั่นเอง จะให้บริการฟรีเฉพาะผู้ที่เข้าพักระดับ Grand Suite หรือระดับสูงกว่าขึ้นไปค่ะ ที่นี่นอกจากจะบริการอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลแล้ว ยังมีบริการเครื่องดื่ม รวมทั้งวิสกี้ บรั่นดี และไวน์ไว้บริการในยามบ่ายและยามเย็น แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องอายุสำหรับการให้บริการเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์ คือต้องอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปีในโซนที่เรือแล่นจากทวีปอเมริกาเหนือ สามารถเข้ามาใช้บริการได้และอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในโซนที่แล่นเรือจากอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์จ้า

 
SOLARIUM BAR  
ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่สวยงามพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ Solarium Bar เหมาะสำหรับผู้ใหญ่นะคะ แขกสามารถเข้ามาดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ผสมแอลกอฮอล์ได้ที่ห้องนี้ โดยจะมีบาร์เทนเดอร์ที่คอยให้บริการแบบเป็นมิตร ให้บริการทั้งเครื่องดื่ม ไวน์ เบียร์ ค็อกเทล และเครื่องดื่มเย็นๆ อื่นๆ อีกมากมาย ที่เหมาะสำหรับไปนั่งจิบบริเวณริมสระน้ำนั่นเองค่ะ 

  
 

โชว์และการแสดง (Entertainment)

THE ROYAL THEATER
Harmony of the Seas ได้จัดการแสดงให้ท่านชมทุกวันที่ห้อง The Royal Theater ในแต่ละทริปจะมีการคัดสรรการแสดงชั้นเยี่ยม เช่น ดนตรี มายากล หรือละครเพลงในระดับบรอดเวย์มาแสดงให้ชมเสมอ โดยการแสดงนั้นจะมีให้ชมวันละสองรอบ คือรอบ 18.00 น. และรอบ 20.30 น. ทางเข้าจะอยู่ที่ชั้น 4 และชั้น 5 
การแสดงชุดที่เป็น Highlight ในระดับ Boardway คือชุด 'Grease' และ 'Columbus'

 
AQUA THEATER
ที่บริเวณโซน Boardwalk ชั้น 6 ท้ายเรือ ชมชว์ชุดพิเศษ Aqua Show มหัศจรรย์แห่งสายน้ำประกอบ แสง สี เสียง อันตระการตา (ควรจับจองที่นั่งล่วงหน้า)
การแสดงชุดที่เป็น Highlight เช่น '1887' และ 'Hideaway' และเดินบนลวดสลิง 'The Fine Line'

 
STUDIO B, ICE SKATING RINK
อยู่ที่ชั้น 4 บริเวณกลางเรือ ชมการแสดง Ice Skating Show จากทีมสเก็ตนำ้แข็งระดับเหรียญรางวัล และในตอนกลางวันจะเปิดให้เป็นลานเล่นสเก็ตนำ้แข็งสำหรับผู้โดยสารทั่วไปอีกด้วย

 
หมายเหตุ
  • รายการโชว์และการแสดงจะสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน จะไม่มีการแสดงซำ้
  • ทางเรือจะแจ้งรูปแบบของรายการโชว์ให้ท่านทราบล่วงหน้าในหนังสือกิจกรรมรายวันของเรือ (Cruise Compass)
 

กิจกรรมความสนุกสนาน (Activities)

กิจกรรมและการแสดงย่อยบนเรือส่วนใหญ่จะไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิเช่น สระว่ายน้ำ เครื่องเล่นที่สวนน้ำ ลานกีฬา แหล่งบันเทิงของเด็กและวัยรุ่น การเข้าใช้ห้องสมุด และกิจกรรมทางการกีฬาหรือห้องออกกำลังกายซึ่งมีเครื่องออกกำลังกายหลากชนิดไว้บริการ
  
และเนื่องจากความใหญ่โตกว้างขวางของเรือลำนี้ จึงสามารถแยกส่วนสันทนาการกระจายออกจากกันไปได้หลายโซน หลักๆ จะมีดังนี้
 
โซน THE ROYAL PROMANADE ชั้น 5 กลางเรือ
พื้นที่ส่วนกลางของเรือนี้จัดเป็นพลาซ่าขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยกิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายตั้งแต่เช้าจนถึงดึก โซนนี้ถือเป็นศูนย์กลางของเรือเลยทีเดียว มีร้านอาหาร ผับ เลาจน์ และบาร์เครื่องดื่มมากมาย รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค Bionic Bar หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ที่จะมาผสมเครื่องดื่มสุดโปรดให้คุณ (มีค่าใช้จ่ายค่าเครื่องดื่ม) และยังเป็นถนนสายช็อปปิ้งสุดชิล รวบรวม Retail Shop หลากหลายที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงร้านค้าปลอดภาษีกันแบบไม่ตกเทรนด์
  
นอกจากนี้จะมีการแสดงดนตรีสดและการแสดงย่อยเป็นระยะ เป็นทางเชื่อมต่อไป Casino เหมือนจะเป็นถนนเส้นที่ไม่เคยหลับใหล แล้วก็มีร้านคาเฟ่ ทานขนมหวาน จิบชา กาแฟยามบ่าย หม่ำไอศกรีมแสนอร่อย ที่สุดฟินสุดขีดเลยต้องยกให้ Cafe Promenade และ Sorrento's Pizza ที่มีอาหารรองท้องไว้บริการจนถึงประมาณตีสามทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ 
 
 

 
Vitality SPA at Sea* and FITNESS CENTER 
Spa & Fitness Center อยู่ที่ชั้น 6 สำหรับคนที่รักสุขภาพ ต้องแนะนำให้มาออกกำลังกายเพื่อลดไขมันกันซักหน่อย เรือสำราญ Harmony of the Seas จะมีห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครันค่ะ สำหรับผู้ที่หลงใหลในการออกกำลังกายยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ โยคะ ชกมวย วิ่งจ๊อกกิ้ง รับรองได้ว่าสามารถอยู่บนเรือทั้งได้วันไม่มีเบื่อแน่นอน
 
ห้องออกกำลังกาย (Fitness Room) นั้นใช้บริการได้ฟรี แต่หากท่านต้องการเข้าร่วมกิจกรรมบางชนิดที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย เช่น แอโรบิค โยคะ การฝึกการต่อสู้เฉพาะอย่าง เป็นต้น

 
*สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำสปาและห้องเสริมความงาม เรือลำนี้ก็มีให้บริการสำหรับผู้ที่รักสวยรักงาม หรือรักในการนวดคลายเส้นเพื่อบำบัด แต่จะมีค่าบริการตามคอร์สที่ท่านเลือกใช้บริการค่า

 
โซน BOARDWALK STREET ชั้น 6 ท้ายเรือ
เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่มีกิจกรรมสนุกสนานรอคุณอยู่มากมาย ร้านอาหารพิเศษ ซุ้มอาหารรองท้อง ร้านนั่งทานนั่งดื่มแบบชิวๆ สุดชิค เช่น Boardwalk Dog House, Sabor ในบรรยากาศแบบลาตินร้อนแรง Johnny Rockets ขวัญใจวัยโจ๋ยุค 60s และ Starbucks ร้านกาแฟร้านโปรดของคุณ สนุกสนานกับม้าหมุน Carousel และที่สำคัญทางด้านท้ายเรือก็ยังมี Aqua Theater เป็นลานแสดงสุดตระการตาที่มีสระน้ำระบบ Hydraulic-Floored Pool เป็นองค์ประกอบใหญ่เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจในทุกโชว์
 
เป็นอีกโซนที่มีผู้คนมารวมตัวเฮฮากันคับคั่ง เป็นรองก็เพียง The Royal Promenade เท่านั้น โดยเฉพาะในตอนกลางคืนจะสนุกมาก เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นที่แสดง Aqua Show ที่สวยงามอลังการนั่นเอง 
 

 
โซน CENTRAL PARK ชั้น 8 กลางเรือ
ในวันที่ต้องการพักผ่อน คุณสามารถมานั่งเล่นชิลๆ กลางสวนสวย กับบรรยากาศที่ร่มรื่นจากพรรณไม้นานาชนิดที่เรียงรายกันอยู่มากกว่า 15,000 ต้น รวมทั้งต้นไม้ใหญ่สูงขนาด 20 ฟุตกว่า 50 ต้น โดยสวนนี้จำลองมาจากสวนสาธารณะขนาดใหญ่ Central Park ที่นิวยอร์ก ตรงนี้ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารพิเศษหลายแห่ง เช่น Chops Grille, Jamie’s Italian by Jamie Oliver และ 150 Central Park และร้านทานฟรี Park Cafe

 
โซนดาดฟ้า สวนน้ำ และลานกีฬา ชั้น 15-16
เป็นที่รวมของกิจกรรมกลางแจ้งสำหรับทุกเพศทุกวัย สวนน้ำทุกขนาด อ่างแช่น้ำวน ลานเล่นกีฬาทั้งแบบผ่อนคลายอย่างสนามพัทกอล์ฟ โต๊ะปิงปองไป จนถึงเล่นจริงจังเรียกเหงื่อกันอย่างสนามบาส หรือฟุตบอลสนามเล็ก (Six-A-Side) รวมทั้งเครื่องเล่นเร้าใจ Ultimate Abyss, The Perfect Strom, Zip Line, FlowRider
 
โซนที่เป็นไฮไลท์ก็จะเป็นโซนสระว่ายน้ำ ซึ่งภายในจะมีทั้ง Solarium ที่เป็นโซนของผู้ใหญ่โดยเฉพาะ บรรยากาศเงียบสงบบวกกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงโซน Sports Pool สามารถนอนอาบแดดให้แสงอาทิตย์ตกกระทบผืนน้ำทะเล แล้วนอนชิวๆ พักผ่อนได้ตามใจชอบค่ะ
 


 
CASINO ROYAL
สำหรับผู้ที่รักการเสี่ยงโชคก็สามารถเข้ามาได้ที่นี่ มีทั้งสล็อต โป๊กเกอร์ รูเล็ต และอื่นๆ อีกมากมาย รับรองว่าอยู่บนเรือทั้งวัน พอได้หลงเข้ามาในคาสิโนจะไม่อยากออกไปไหนอย่างแน่นอนค่ะ 

 
 

แนะนำเครื่องเล่นและส่วนบริการบนเรือ Harmony of the Seas

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นค่ะว่าเรือลำนี้ได้เพิ่มเติมเครื่องเล่นใหม่ๆ สำหรับคุณที่หลงใหลในกิจกรรมตื่นเต้นเร้าใจสนุกสุดเหวี่ยงหลายรายการ ตามมาดูเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
 
ULTIMATE ABYSS
ถูกขนานนามว่าเป็นสไลเดอร์บนเรือสำราญที่มีความยาวที่สุดในโลกไปแล้ว เพราะระยะสไลด์มีความยาวถึง 216 ฟุต โดยมีทางเข้าที่ชั้น 15 สไลด์วนลงมาถึงทางออกที่ชั้น 6 เรียกได้ว่าหวาดเสียวและตื่นเต้นสุดๆ ขอย้ำว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดจ้า 

 
THE PERFECT STROM
สไลเดอร์น้ำในท่อวนเป็นวงกลมที่อยู่ในโซนสวนน้ำนี้นี้เป็นเครื่องเล่นยอดฮิต คุณสามารถเล่นวนแล้ววนอีกได้อย่างไม่รู้สึกเบื่อ

 
ZIP LINE 
เล่นโหน Zip Line ที่มีความยาว 82 ฟุต จากจุดเริ่มต้น ที่ความสูง 9 ชั้น เหนือจากโซน Boardwalk ด้านล่าง

 
FLOW RIDER 
กิจกรรมที่เรียกว่า Sound Waves หรือ Flow Rider ที่มีความยาวถึง 40 ฟุต เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่นมันส์ๆ ทั้งนี้ได้ยกมาไว้บนเรือลำใหญ่ยักษ์มหึมาอย่าง Harmony of the Seas แล้วค่ะ เป็นไงหละคะสนุกทั้งวันบนเรือสำราญ รับรองไม่เบื่อแน่นอนค่ะ

 
ROCK CLIMBING WALLS 
กิจกรรมสำหรับผู้ที่รักการปีนหน้าผา ด้วยความสูง 40 ฟุตของหน้าผาจำลองบนชั้น Boardwalk เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ธรรมดาจริงๆ

  
MINI GOLF
สนามกอล์ฟมินิที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า เอาใจคลับคนรักกอล์ฟเป็นที่สุด มีหลายหลุมให้เลือกตีได้ตามใจชอบ พร้อมบรรยากาศโดยรอบที่สวยงาม ... โอ๊ยยยเลิศค่ะ 

 
ขอบคุณภาพต้นฉบับจาก Royal Caribbean Cruise
 
 

ส่วนบริการบนเรือ Harmony of the Seas โดยย่อ

 
 

  
ขอบคุณที่กรุณาติดตามการแนะนำเรือสำราญ Harmony of the Seas ของ 'หญิงปุ๊กพาเที่ยว' ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางทริปในฝันนะค้าาาาา และฝากติดตามผลงานรีวิวและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกค่า หญิงปุ๊กพาเที่ยว
 
Update: 2020/11/11