ภาพรวมเรือสำราญ Koningsdam

 

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเรือสำราญระดับพรีเมี่ยม Koningsdam ของสายเรือสัญชาติอเมริกันอย่าง Holland America Line กันค่ะ เรือสำราญลำนี้เป็น เรือสุดคลาสสิค ถูกสร้างขึ้นในปี 2016 สามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 2,560 คน เรือลำนี้มีเส้นทางล่องเรือที่น่าสนใจ และหลากหลาย เส้นทางยอดฮิตจะเป็นในแถบยุโรป โดยจะออกจากท่าเรือ Amsterdam และ Rome/Civitavecchia เป็นหลักค่า บรรยากาศภายในเรือสำราญลำนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารพิเศษ และ Culinary Arts Center ศูนย์ศิลปะการเรียนทำอาหารสำหรับแขกผู้ที่หลงไหลและชื่นชอบในการทดลองทำอาหารด้วยตัวเอง ยังมีห้องพักที่กว้างขวางรองรับแขกได้ทั้งหมดถึง 2,560 คน มีสถานที่ช้อปปิ้งบนเรือ คาสิโน สปา ฟิตเนส รวมถึงพื้นที่สาธารณะอย่าง สระว่ายน้ำ เลานจ์ บาร์ และ เวทีแสดงดนตรีสด ที่บรรเลงเพลง เป็นจังหว่ะ สลับกับเสียงเพลงพราะๆ เพลินๆ จากนักร้องที่ B.B. King Blues Club นั่นเองค่า

 

เส้นทางล่องเรือสำราญ Koningsdam

- เรือสำราญ Koningsdam จะล่องในแถบ แคริบเบียน และ ยุโรป เป็นหลักค่า

- ระยะเวลาการเดินทางโดยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ 9 วันขึ้นไป 

  • เรือสำราญ Koningsdam ส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือ Fort Lauderdale, Rome/Civitavecchia และ Amsterdam  เป็นต้น

 

ขอต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญ Koningsdam

 

ไฮไลท์

เรือสำราญ Koningsdam  เป็นเรือสำราญขนาดกลาง ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีห้องพักกว้างขวาง หลากหลายประเภทให้เลือก และยังมีร้านอาหารพิเศษให้เลือกมากมาย อาทิเช่น Pinnacle Grill เมนูสเต็กสุดอร่อย รวมไปถึง Canaletto ห้องอาหารพิเศษ สไตล์อิตาเลี่ยน สุดละมุนลิ้น เรือลำนี้ยังมีไฮไลท์ตรงที่เส้นทางการล่องเรือค่ะ  ส่วนใหญ่จะล่องในแถบยุโรป และแคริเบียน เน้นออกจากท่าเรือหลักอย่าง Rome/Civitavecchia, Amsterdam และ Fort Lauderdale เป็นต้นค่ะ ว่าแล้วลองไปชมคลิปวิดีโอในเส้นทางยอดนิยมโซนยุโรปเหนือกันก่อนเล๊ยยยย

 

เชิญชมคลิปบรรยากาศในเรือกันค่า

 

ข้อมูลตัวเลข

 

ไลฟสไตล์บนเรือ

 

หากพูดถึงกลุ่มผู้โดยสารของเรือสำราญ Koningsdam นั้นจะค่อนข้างหลากหลาย และจะขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เรือล่องด้วยค่ะ หากเรือออกจากท่าเรือที่ อัมสเตอร์ดัม กลุ่มผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรเปียน แต่ถ้าหากเรือ ออกจากท่าเรือที่ Fort Lauderdale แน่นอนว่ากลุ่มผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวออสเตรเลีย และ อเมริกัน ค่า กลุ่มหลักๆ เลยก็มาจากอเมริกาเหนือ ที่นิยมล่องเรือสำราญกันมากที่สุด 

นอกจากนี้สายเรือ Holland America Line ยังดึงดูดกลุ่มนักเดินทางที่อยู่ในช่วงวัยเกษียร อายุโดยเฉลี่ย 65 ปี ขึ้นไป รวมถึงกลุ่มที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว เวลาที่เหมาะสมจะเป็นช่วงฤดูร้อน หรือช่วงปิดเทอมของน้องๆ นู๋ๆ วัดได้จากตัวเลขของผู้โดยสารเด็กในช่วงฤดูร้อนจะมีมากถึง 300 คน บนเรือค่า และเรือลำนี้จะมีการประกาศเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาดัตช์ เป็นหลักค่ะ

 

ห้องพักบนเรือสำราญ

ห้องพักบนเรือสำราญ Koningsdam สำหรับห้องมาตรฐานเริ่มต้น

  • ห้องไม่มีหน้าต่าง Interior มีขนาดตั้งแต่ 13 ตางรางเมตร - 26 ตารางเมตร
  • ห้องมีหน้าต่าง Oceanview มีขนาดตั้งแต่ 15 ตารางเมตร - 24 ตารางเมตร
  • ห้องมีระเบียง Balcony มีขนาดตั้งแต่ 19 ตารางเมตร - 35 ตารางเมตร
  • ห้องพักแบบ Signature Suites มีขนาดตั้งแต่ 25 ตารางเมตร - 42 ตารางเมตร (รวมระเบียง)
  • ห้องพักแบบ Neptune Suites มีขนาดตั้งแต่ 43 ตารางเมตร - 79 ตารางเมตร (รวมระเบียง) 
  • ห้องพักแบบ Pinnacle Suites มีขนาดประมาณ 119 ตารางเมตร (รวมระเบียง) 

 

รูปแบบห้องพัก

Interior 

   

Oceanview 

  

Verandah

 

Signature Suite

 

Vista Suite

 

Neptune Suite

  

Pinnacle Suite

 

  

ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารพิเศษ 

 

Dining Room เป็นห้องอาหารหลัก ที่เปิดให้บริการ ตั้งแต่ อาหารเช้า กลางวัน พร้อมชายามบ่าย และมื้อค่ำ มีเมนูอาหารให้เลือกทานมากมาย เปิดบริการตลอดทั้งวัน ตามรอบเวลามื้ออาหารค่า ได้รับการตกแต่งภายในที่ทันสมัย อร่ามตา โอ่อ่า กว้างขวาง รวมถึงประติมากรรมสองชั้นที่มีลักษณะคล้ายกรงซี่โครงของปลาวาฬ โดดเด่นเป็นอักลักษณ์ ภายในห้องเน้นโทนสีสว่างสะท้อนถึงความงาม ร่วมกับการประดับดอกไม้สดบนโต๊ะอาหาร เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหารเป็นที่สุด ห้องหารหลักนี้ ตั้งอยู่ชั้น 2 และ 3 บนเรือสำราญค่า

 

 

Sel de Mer ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 บนเรือสำราญ เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส และมีเมนูซีฟู๊ดให้เลือกทานมากมาย ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์ ปู หอยนางรมสดๆ พร้อมมีรายการไวน์ชั้นดีจากฝรั่งเศสให้ลองสั่งมาจิบคู่กับอาหารจานโปรด ยังมีอาหารทานเล่น และของหวานให้ฟินกันปิดท้ายด้วยค่า ห้องอาหารพิเศษแห่งนี้จะเปิดให้บริการในช่วงมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 17.00 - 23.00 น. ค่า

 

ห้องอาหารพิเศษ Tamarind เน้นรสชาติอาหารสไตล์เอเชีย มีทั้ง อินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น เป็นห้องอาหารที่ได้รับควาสนใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะมีเมนูที่หลากหลายทั้ง สะเต๊ะ ซุปเรียกน้ำย่อย ชูชิ ซาชิมิ รวมถึง ไก่อบเครื่องเทศ ต้มยำกุ้ง เมนูก๋วยเตี๋ยว อื่นๆ อีกมากมาย ขอแนะนำให้มาที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่า ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 25 เหรียญต่อท่าน ตั้งอยู่ชั้น 10 บนเรือค่า สำหรับมื้อดินเนอร์เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.30 น. - 21.00 น. ค่า

 

ใครที่ชอบทานสเต็ก ต้องมาที่ชั้น 2 ตรงห้องอาหารพิเศษ ที่เรียกว่า "Pinnacle Grill" (สำหรับมื้อพิเศษจะเสียค่าธรรมเนียม 35 เหรียญต่อท่าน) หรือจะเลือกมาดินเนอร์ในมื้อค่ำ สุดโรแมนติก ก็สามารถสั่งไวน์มาดื่มคู่กับการทานอาหารรสเลิศก็ดีไม่น้อยค่า เมนูมีทั้ง สเต็กเนื้ออย่างดี กุ้งล็อบสเตอร์ ซีซ่าสลัด ซี่โครงย่างอย่างดี พร้อมมีของหวานตบท้ายอีกมากมาย 

  

Canaletto ห้องอาหารพิเศษ สไตล์อิตาเลี่ยน พิกัดมากันได้เลยที่ชั้น 9 บนเรือสำราญ สำหรับห้องนี้จะมีค่าใช้จ่าย 15 เหรียญต่อท่าน จะเปิดให้บริการสำหรับอาหารมื้อค่ำ ทุกวันค่า เมนูอาหารที่นี่จะหลากหลายมากมีทั้ง ส่วนใหญ่จะมาเป็นจานเล็กๆ เมนูแนะนำ เช่น Antipasto, Zuppa di pesce, Canaletto salad และ Beef carpaccio ยังมีจานใหญ่อย่าง พาสต้า สปาเก็ตตี้ซีฟู๊ด เมนูกุ้งล็อบสเตอร์ เมนูไก่ตุ๋นอบเครื่องเทศสไตล์อิตาเลี่ยน รวมไปถึงเนื้อลูกวัว นุ่มๆ อิอิ พูดเสร็จท้องถึงกับร้องจ๊อกกันเลยแหล่ะค่า

  

Lido Market พิกัดมากันได้ที่ชั้น 9 ค่ะ ภายในถูกออกแบบให้สถานที่เป็นเหมือนตลาดที่เปิดให้บริการทั้งวัน แขกสามารถเลือกทานอาหารตามสั่งได้แบบบุฟเฟต์ มีทั้ง ขนมปังอบกรอบหอมกรุ่น แซนวิช สลัดผัก ไก่ย่าง แฮม ชีท และเมนูของหวานให้เลือกทานอีกมากมาย ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ไปจนถึง 23.30 น.

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ

 

Atrium โซนนี้เรียกว่า เอเทรียม มีทั้งหมดสามชั้น การออกแบบสวยงาม กว้างขวาง ดูมีความทันสมัย มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ มีพื้นที่สำหรับการแสดงดนตรีสด และความบันเทิงต่างๆ อีกด้วยค่ะ

 

สถานที่ที่น่าหลงไหล เคลิ้มไปด้วยเสียงเปียโนคลอเคลีย เรียกโซนนี้ว่า Billboard Onboard เป็นเลานจ์ที่ทันสมัย และสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่รักในเสียงเปียโน เพลงที่เลือกบรรเลงจะมีตั้งแต่ในยุค 50 ไปจนถึงยุคปัจจุบัน เหมาะสำหรับมานั่งจิบไวน์เบาๆ และปล่อยใจให้ลอยไป อิอิ 

 

Blend บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ค่ะ ห้องนี้จะมีไวน์รสชาติเยี่ยม และมีไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐวอชิงตันค่า ใครเป็นนักดื่มไวน์ต้องห้ามพลาดมากันได้ที่ห้องนี้ นัดเพื่อนๆ มาเป็นแกงค์ ก็ได้นะคะ ค่าใช้จ่ายต่อท่านประมาณ 79 เหรียญขึ้นไปค่า

 

Casino สำหรับผู้ที่รักการเสี่ยงโชคต้องห้ามพลาด มากันได้ที่คาสิโนแห่งนี้ค่า มีทั้ง แบล็คแจ็ค สล็อต และแครปส์  รับรองว่าอยู่บนเรือทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอนค่า พิกัดตั้งอยู่ชั้น 3 บนเรือสำราญค่า

 

 

Culinary Arts Center ตั้งอยู่บนชั้น 2  บนเรือสำราญ ห้องนี้จะมีค่าใช้จ่าย 20 เหรียญ ถึง 39 เหรียญต่อท่านค่า บรรยากาศภายในห้องกว้างขวาง โต๊ะจะถูกจัดไว้สำหรับกลุ่ม บรรยากาศเป็นกันเองสบายๆ สนุกไปกับการทำอาหาร และการให้ความรู้ไปในตัวโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ พร้อมได้รู้ถึงวัตถุดิบ ประโยชน์ของเครื่องปรุง และเครื่องเทศต่างๆ ที่มีมากมายหลากหลายชนิด เมนูอาหารจะมีทั้งหมด 5 จาน ได้แก่อาหารเลือกน้ำย่อย 2 จาน และอาหารจานหลัก 3 จาน เมนูจะถูกปรับเปรี่ยนทุก 1 อาทิตย์  Culinary Arts Center เปิดให้บริการอาหารค่ำเวลา 19.00 น.ค่ะ 

  

Digital Workshop แห่งนี้เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่อยู่บนเรือทุกท่าน ที่รักการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่นี่จะมีการเรียนการสอน ทั้งในเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ เป็นประโยชน์อย่างมากค่ะ ในการก้าวทันเทคโนโลยีในปัจจุบัน 

 

หากใครที่รักในเสียงดนตรีสุดคลาสสิค อย่างเสียงไวโอลีน เพราะๆ แนะนำให้มาดูโชว์การแสดงดนตรีสดได้ที่  Lincoln Center Stage อิอิ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มสุดคุ้ม ทำให้วันทั้งวันที่ล่องเรือเป็นวันที่สดใส เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า อย่างที่บอกว่าเสียงดนตรีบำบัดคน เห็นจะจริงก็คราวนี้แหล่ะค่า ล่องเรือสำราญ มีหลายอย่างที่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ Lincoln Center Stage ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมระหว่างวันที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืมไปเลยจ้า

 

Music Walk ตั้งอยู่บนชั้น 2 บนเรือสำราญ หากใครกำลังมองหาความบันเทิงแบบครบรส และเสียงเพลงเพราะ ๆ แนะนำให้มากันที่นี่ โชว์แบบจัดเต็มมารวมพลรอแขกทุกท่านให้มาสนุกสนานกันในยามค่ำคืนค่า  

 

Lido Pool เป็นสระน้ำหลักที่ใครๆ ก็มาว่ายกันได้ที่นี่ค่า ภายในจะมีสระว่ายน้ำหลัก 1 แห่ง และอ่างน้ำวนอีก 3 แห่ง กลางคืนจะมีรายการภาพยนตร์สนุกๆ สารคดีชื่อดังต่างๆ ฉายผ่านจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่เราเห็นในรูปคือ โซน Poolside Movie แขกสามารถเพลิดเพลินกับอาหารว่างฟรี หรือจะมานอนเล่นอาบแดด ที่มีเก้าอี้ จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียงรายให้ได้เลือกเอนตัว ฟินไปอีกแบบนะคะ อยากจะว๊าบบบบแล้วหายตัวไปที่ Lido Pool สะแล้วสิ

 

Sea View Pool  สระนี้เป็นสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นค่า บรรยากาศผ่อนคลาย เรียงรายไปด้วยเก้าอี้นอนอาบแดด บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว ภายในมีสระใหญ่ 1 สระ และมีอ่างน้ำวนอีก 2 แห่ง ไว้แช่ตัวคลายร้อนระหว่างวัน ถือเป็นอีกหนึ่งโซนยอดนิยมสำหรับแขกผู้เข้าพักได้มาเล่นน้ำให้หายร้อนกันที่นี่ค่า

 

The Retreat ถือเป็นสถานที่ที่อยากมามากที่สุด พิกัดจะอยู่ที่ชั้น 12 บนเรือสำราญค่า สำหรับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัว ที่นี่จะมีค่าใช้จ่ายรายวันที่ต้องจ่ายเพิ่ม สามารถสั่งอาหารกลางวัน และแชมเปญมาดื่มได้ พร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หากใครที่ไม่ชอบความวุ่นวาย และรักความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เลือกมาที่นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดค่ะ 

 

Club HAL คลับสำหรับเด็กๆ โดยส่วนใหญ่ผู้โดยสารเด็กมักจะมาล่องเรือกันในช่วงปิดเทอมพร้อมผู้ปกครอง เรือสำราญลำนี้จึงจัดโซน Club HAL เพื่อต้อนรับน้องๆ นู๋ๆ ได้มาสนุก และร่วมทำกิจกรรมในห้องนี้ โดยมีโปรแกรมสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3 - 17 ปี เปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง 4 โมงเย็น ที่นี่ยังมีบริการอาหารกลางวันสำหรับน้องๆ นู๋ๆ แต่หากใครที่ต้องการพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่า สถานที่จะมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน สำหรับเด็กอายุ 3-6  ปี และ 7-12 ปี ตามแต่พัฒนาการการเรียนรู้ระหว่างวัย กิจกรรมประจำวันสำหรับเด็ก ได้แก่ เกม "Funky Freeze Dance" และ Candyland "Ships Ahoy Pirate Treasure Hunt" รวมถึง  "Tweens at Club HAL สนุกกับการแข่งขัน Nukeball และ Xbox เช่นเดียวกับงานศิลปะและงานฝีมือมากมายเช่นการวาดภาพ ระบายสี ตามจิตนาการที่สร้างได้ของเด็กๆ ค่า

 

B.B. King's Blues Club สำหรับผู้ที่รักในเสียงเพลง บีบีคิงบลูคลับจะจัดคอนเสิร์ตบนเวทีเล็กๆ แต่คุณภาพของโชว์คับจอมาก ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์บนเรือสำราญที่ได้รับความนิยมจากผู้โดยสารมากที่สุด มาสนุกกันได้ในช่วงเย็นใครมาแล้วต้องทั้งร้อง และเต้น เอาให้มันส์สุดเหวี่ยงกันไปเลย 

 

โรงละครขนาดใหญ่บนเรือสำราญ เรียกว่า World Stage แขกจะได้พบกับความบันเทิง โชว์การแสดงต่างๆ ทั้งร้องเล่น เต้นรำกันแบบจุใจ และเต็มอิ่ม ณ โรงละครแห่งนี้ ตั้งอยู่ชั้น 1 และ 2 บนเรือสำราญภายในกว้างขวาง ไม่ว่าจะนั่งโซนไหนก็สามารถเห็นการแสดงบนเวทีได้อย่างชัดเจน บนเวทียังติดตั้งจอ LED ความละเอียดสูงถึง 270 กันเลยทีเดียว ที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวันค่า สามารถติดตามโปรแกรมการแสดงได้ในแต่ละวัน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถรับความบันเทิงได้พร้อมกันทั้งครอบครัวค่า

 

Crow's Nest ตั้งอยู่บนชั้น 12 เป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยที่สุดก็ว่าได้ค่า มุมผ่อนคลาย มานั่งพักผ่อน หยิบหนังสือสักเล่มมาอ่าน หรือจะนัดพบปะเพื่อนใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นที่สุดค่า ภายในโล่ง ปลอดโปร่ง มีเก้าอี้ตัวใหญ่ให้นั่งสบายๆ ชิวๆ ได้ตลอดทั้งวัน

 

Dive-In ตั้งอยู่ชั้น 9 บนเรือสำราญค่า อยู่ตรงบริเวณสระว่ายน้ำ เราจะเรียกว่าเป็นร้านอาหารริมสระ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา  11.30 น. ไปจนถึง 20.00 น. เมนูมีทั้ง เบอร์เกอร์ และ ฮอทดอกร้อนๆ เบคอนหอมตลบอบอวล มาพร้อมมันฝรั่งอบที่เข้ากันอย่างลงตัว หากใครเหนื่อยจากการเล่นน้ำ ก็มารับประทานอาหารกันต่อได้ที่นี่ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ตามใจฉันได้เลยค่า 

 

Explorations Cafe ร้านกาแฟที่มีบรรยากาศน่านั่ง ตั้งอยู่ภายในโซน Crow's Nest lounge แน่นอนว่าที่นี่เขามีกาแฟรสชาติเยี่ยม มาพร้อมกับคุ๊กกี้ แซนวิช และขนมอบกรอบ วางไว้ให้ทานเล่นๆ กรุบกริบๆ สามารถมานั่งอ่านหนังสือ ดูข่าวสารออนไลน์ได้ที่นี่ค่าพิกัดตามมากันได้ที่ชั้น 12 บนเรือสำราญค่า 

 

Explorer's Bar ตั้งอยู่บนชั้น 2 บนเรือสำราญ อยู่ด้นหลังเวที  Lincoln Center Stage  แขกสามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ หรือค็อกเทลมาจิบ พร้อมเพลิดเพลินไปกับรายการแสดงต่างๆ บนเวที รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะทำให้แขกมีความสุข จนไม่อยากกลับไปที่ห้องพักกันเลยค่า

 

เอาใจสำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มวิสกี้เป็นที่สุด สถานที่นี้เรียกว่า "Notes" ภายในมีวิสกี้หลากหลายถึง 129 ชนิด คอรักวิสกี้ต้องห้ามพลาด ที่นี่ยังมีวิสกี้ที่หายาก และมีราคาแพง บางขวดราคาสูงถึง 6000 เหรียญ เลยก็ว่าได้ อิอิ

 

Ocean Bar พิกัดมากันได้ที่ชั้น 2 บนเรือสำราญค่า เป็นบาร์ที่เงียบสงบ สามารถมาหาเครื่องดื่มเย็นๆ จิบได้ หลังจากเสร็จสิ้นจากการรับประทานอาหารค่ำ อีกหนึ่งสถานที่แห่งการพักผ่อน เติมเต็มให้อีกหนึ่งวันเป็นวันที่พิเศษสุดในตลอดทริปการล่องเรือสำราญ

 

New York Deli & Pizza สำหรับคนที่ชอบทานพิซซ่าต้องมากันที่โซนนี้เท่านั้น ตั้งอยู่บนชั้น 10 ค่ะ เปิดให้บริการอาหารเช้าเวลา 6:30 โมงเช้า - 10:30 โมงเช้า สำหรับมื้อกลางวันจนถึงมื้อค่ำเปิดให้บริการเวลา  11:30-20.30 น.  หากใครหิวในรอบดึกก็มากันได้ที่ New York Pizza เปิดให้บริการตั้งแต่ 21.00 น.จนถึง ตี1 กันเลยทีเดียวค่า เหมาะมากที่จะมากับแก้งค์เพื่อนๆ สั่งพิซซ่าต้องถาดใหญ่และแบ่งปันกันทานได้หลายๆ คน อิอิ 

 

Grand Dutch Cafe อีกหนึ่งสถานที่สุดหรู แขกสามารถมานั่งดื่มเบียร์ หรือกาแฟได้ที่นี่ ที่สำคัญ ที่นี่ยังให้บริการอาหารของชาวดัตซ์อีกด้วยค่า หากใครไม่เคยลองทานอาจจะรู้สึกรสชาติแปลกๆ เมนูอย่างเช่น ปลากระพงดอง เป็นต้น หากใครอยากรู้ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง แนะนำให้มาที่ Grand Dutch Cafe พิกัดตั้งอยู่ที่ชั้น 3 บนเรือสำราญ เปิดให้บริการตั้งแต่ 7:30 โมงเช้าไปจนถึง 22.00 น.

 

Neptune Lounge เลานจ์สุดหรูบนเรือสำราญลำนี้ เป็นสถานที่ๆ โล่งปลอดโปร่ง เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อน พร้อมได้รับการบริการจากพนักงานที่เป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ภายในมีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ไว้รับชมข่าวสาร เพลิดเพลินกับอินเตอร์เน็ตไร้สาย สบายไปกับเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ ที่นี่ยังมีอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัล และกาแฟในยามเช้า เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. ไปจนถึง 2 ทุ่มค่า ว่าแล้วก็อยากจะหยิบหนังสือมาอ่านสักเล่ม พร้อมสั่งคาปูชิโน่ร้อนๆ มาดื่ม ฟินเฟอร์ๆๆ

 

หากใครชอบกินไอศครีมเจลาโต้ แนะนำให้มาที่ Gelato ตั้งอยู่บนชั้น 9 เปิดให้บริการในเวลาตั้งแต่ 11:30 น. ถึง 23:00 น. ค่า ราคาจะอยู่ที่ 2 เหรียญ เป็นโซนสุดโปรดของน้องๆ นู๋ๆ ที่เลิฟไอศครีมนั่นเองจ้า

 

Sea View Bar ตั้งอยู่บนชั้น 9 ค่า เพลิดเพลินไปกับการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ และชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ สถานที่แห่งนี้ หากนั่งอยู่บริเวณด้านนอกสามารถสูบบุหรี่ได้นะคะ นอกจากนี้ยังมีบาร์สุดชิคที่ตั้งอยู่ชั้น 9 บนเรือสำราญ ที่นี่เรียกว่า Lido Bar ค่ะ เก้าอี้เรียงรายเป็นวงกลม สามารถมาหาเครื่องดื่มเย็นๆ หรือจะสั่งเป็นค็อกเทลสักแก้มมาจิบก็ทำได้ อีกหนึ่งสถานที่เหมาะสำหรับการแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ พูดคุย เฮฮา สังสรรค์กันได้ตลอดทั้งวันแบบไม่มีวันเบื่อแน่นอนค่า

 

Panorama Bar ตั้งอยู่บนชั้น 10 บนเรือสำราญ เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีบรรยากาศในการชมวิมทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมสั่งเครื่องดื่มอย่าง เบียร์ ไวน์ แชมเปญ ค็อกเทลหลากหลายประเภท บรรยากาศในช่วงค่ำๆ จะมีนักดนตรีมาเล่นเพลงเพราะๆ ให้เราได้ฟังกัน ที่นี่เปิดให้บริการจนถึงเวลา ตี 1 ค่า โซนนี้ยังสามารถมองเห็นวิว Lido Deck จุดที่สามารถชมภาพยนต์ตรงลานกลางแจ้งนั่นเองค่า

 

สำหรับใครที่ต้องการดูดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก็มากันได้ที่ Beauty Salon บริการตัดผม แต่งหน้า ทำเล็บ ครบครันเป็นที่สุด ก้าวเท้าออกจากห้องนี้ไป อาจจะสวยเลิศ จนเพื่อนๆ ต้องตกตะลึง อิอิ พิกัดมากันได้ที่ ชั้น 9 บนเรือสำราญค่า และ สำหรับผู้ที่รักการทำสปาเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำให้มากันได้ที่ The Greenhouse Spa ตั้งอยู่ตรงชั้น 9 บนเรือสำราญใกล้กับโซนฟิตเนสคลับ บริการมีทั้ง ทรีทเม้นท์ พอกตัวด้วยสมุนไพร นวดตัวด้วยหินร้อนจากธรรมชาติ ซาวน่า รวมไปถึงบริการ Spa Hydro Pool ที่จะทำให้ตัวเบา สบายๆ ในบริการสปาที่กล่าวมาทั้งหมดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาจะตามรายการที่ผู้โดยสารเลือกค่า 

 

สนุกสนานกับเพื่อนๆ หรือจะเพลิดเพลินกันในแบบแพ็คทีมมาเป็นครอบครัว มากันได้ที่ชั้นดาดฟ้าโซน Sports Courts มีกีฬาหลายชนิดให้เลือกเล่นเป็นทีมเวิร์ค ทั้ง ปิงปอง บาสเกตบอล เป็นต้น อิอิ แดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น เรื่องเกมส์การแข่งขันถือเป็นเรื่องใหญ่ อิอิ ต้องท้ากันสะหน่อยว่าทีมไหนจะชนะ ระหว่าง ทีมคุณพ่อ ทีมคุณแม่ หรือจะเป็นทีมคุณเพื่อน พร้อมแล้วไปเล่นกันเล๊ยยยย พิกัดตั้งอยู่ชั้น 11 บนเรือสำราญจ้า

 

Fitness Center ผู้ที่รักการออกกำลังกายต้องห้ามพลาด ภายในมีอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ครบครัน ทั้งลู่วิ่ง เครื่องยกน้ำหนัก เครื่องปั่นจักรยานไฟฟ้า อื่นๆ หากใครที่หลงรักการเล่นโยคะ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้เทรนเนอร์ จะมีค่าธรรมเนียมที่ 12 เหรียญขึ้นไปค่ะ ฟิตเนสเซ็นเตอร์แห่งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่มค่า พิกัดมากันได้ที่ชั้น 9 บนเรือสำราญ 

 

หากใครที่เป็นนักสะสม ภาพวาดและผลงานด้านศิลปะ และกำลังมองหาภาพผลงานศิลปะที่โดนใจเอากลับไปไว้ที่บ้าน แนะนำให้มาได้ที่ Art Gallery ที่นี่มีผลงานชิ้นเอก ของศิลปินชื่อดังมากมายค่า รับรองว่าจะเจอภาพที่ใช่ แล้วต้องได้ควักกระเป๋าตังค์เป็นแน่ๆ ค่า อิอิ 

 

Shop สถานที่ช้อปปิ้งบนเรือสำราญ ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนให้หน่อยค่ะ มากันได้ที่ช้ัน 3 และชั้น 4 ภายในมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลาย มากมายให้เลือก มีทั้ง นาฬิกา น้ำหอม เสื้อผ้า แว่นตา เครื่องประดับ รวมไปถึงเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์ ของที่ระลึกต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมายค่า

 

Ship Service ศูนย์บริการลูกค้าบนเรือสำราญลำนี้จะอยู่ที่ชั้น 1 ค่ะ หากใครต้องการความช่วยเหลือ หรือคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่บนเรือ สามารถสอบถามได้ที่ Guest Services ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ท่านจะได้รับบริการจากเจ้าหน้าที่ที่มีความเชียวชาญ และใส่ใจในความต้องการของผู้โดยสารเป็นอันดับสำคัญค่า 

 

 

 

Beth: 2018-05-23