ภาพรวมเรือสำราญ Oceania Insignia

 

วันนี้เรามีเรือสำราญระดับพรีเมียมอีกหนึ่งลำของสายเรือ Oceania Cruise มาให้เหล่านักเดินทางได้ทำความรู้จักกันค่ะ เรือลำนี้มีชื่อว่า Oceania Insignia  ถือเป็นเรือขนาดกลาง ถูกสร้างขึ้นในปี ค. 1998 และได้ถูกปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2014 เรือลำนี้สามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 684 คนค่ะ เรือสำราญลำนี้จะเน้นเส้นทางที่สวยงามหลากหลาย และเน้น "อาหารที่ดีที่สุด" เปรียบเสมือนยกเอาภัตตาคารระดับโลกมาไว้บนเรือสำราญนั่นเองค่า  

นอกจากนี้ เจ้าเรือสำราญลำนี้ยังมีรางวัลการันตีอีกมากมายงั้นเราลองมาไล่ดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

1. รางวัล Best for service ประจำปี 2015, 2017 และ ปี 2018

2. รางวัล Best for public room ประจำปี 2015-2018

3. รางวัล Best for dining ประจำปี 2017 และ ปี 2018

4. รางวัล Best Overall ประจำปี 2018

5. รางวัล Best for Embarkation ประจำปี 2015 

6. รางวัล Best for fitness & Recreation ประจำปี 2015 และ ปี 2018

7. รางวัล  Best for Entertainment ประจำปี 2015

8. รางวัล Best for Value ประจำปี 2018

9. รางวัล Best for Shore Excursions ประจำปี 2018

 

เส้นทางล่องเรือสำราญ Oceania Insignia 

- เรือสำราญ Oceania Insignia มีเส้นทางล่องเรือรอบโลก

- ระยะเวลาการเดินทางโดยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ 10 วันขึ้นไป 

- เรือสำราญ Oceania Insignia  ส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือ New York, Montreal, Miami, Los Angeles, Sydney/Australia, Tokyo และ Singapore  เป็นต้น

 

ขอต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญ Oceania Insignia

 

ไฮไลท์

ท้องฟ้าสดใส บรรยากาศเป็นใจ ล่องเรือชิวๆ สบายใจ กับเรือสำราญ Oceania Insignia เรือลำนี้เป็นเรือระดับ “พรีเมียม”  ใส่ใจในเรื่องของการบริการอันยอดเยี่ยม และมีความเป็นมืออาชีพค่ะ  พร้อมการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเอง นักเดินทางทุกท่านจะได้รับการบริการที่เป็นมิตร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ร้านอาหาร กิจกรรมความบันเทิง และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ สปา (Canyon Ranch Spa), คาสิโน, ฟิตเนสคลับพร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกาย เลาจน์ บาร์ โรงละคร กิจกรรมโชว์การแสดงต่างๆ เป็นต้น

เรือสำราญทุกลำของสายเรือ Oceania Cruises จะมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหาร เรือลำนี้จะเน้นอาหารเป็นพิเศษ จากการได้สัมภาษณ์ประสบการณ์ของผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่ากว่า 50% ที่กลับมาใช้บริการซ้ำ  สิ่งที่เป็นไฮไลท์พระเอก ที่ทำให้ผู้โดยสารติดใจมากที่สุดนั่นก็คือ “อาหารที่ดีที่สุด” หากใครที่กำลังมองหา สุดยอดของสุดยอดความอร่อยของรสชาติอาหารบนเรือสำราญ ภายในจะมีร้านอาหารทั้งหมด 5 แห่ง แต่ละร้านจะมีเมนูที่หลากหลาย เขาว่ากันว่า รสชาติอร่อยเกินจะบรรยาย อาหารรสเลิศเหล่านี้ได้ผ่านการรังสรรค์โดยเชฟสุดยอดฝีมืออย่าง  Jacques Pépin  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ถึงเปรียบเสมือนยกเอาภัตตาคารอาหารระดับโลกมาไว้บนเรือสำราญลำนี้ค่า 

 

เชิญชมคลิปบรรยากาศในเรือกันค่า

 

ข้อมูลตัวเลข

 

ไลฟสไตล์บนเรือ

 

เรือสำราญลำนี้เหมาะมากสำหรับกลุ่มนักเดินทางที่เป็นวัยเกษียณ ที่มากันเป็นคู่รัก เน้นมาพักผ่อน ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ และรักความเงียบสงบ กลุ่มนักเดินทางส่วนใหญ่จะสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นหลัก กว่า 85-90% เลยทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเส้นทางด้วย กลุ่มนักเดินทางส่วนใหญ่จะเป็นชาวแคนาเดียน และชาวอังกฤษ ถือเป็นเรือสำราญที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยผู้คนที่ผสมผสาน และมีวัฒนธรรมที่หลากหลายค่ะ เราจะพบนักเดินทางที่เป็นวัยหนุ่มสาวบนเรือลำนี้ในเส้นทางที่ล่องแถบแคริบเบียนค่า ว่าแล้วก็อยากแพ็คกระเป๋าเดินทางแล้วกระโดดขึ้นเรือ Oceania Insignia ไปเล๊ยยยยย

 

ห้องพักบนเรือสำราญ

รูปแบบห้องพักโดยทั่วไป เรือสำราญของ Oceania จะแบ่งระดับห้องพัก R Class และ O Class  ดังนี้ค่ะ

R Class

R Class Interior Stateroom: ห้องประมาณ 14.8 ตรม.
R Class Deluxe Ocean View Stateroom: ห้องประมาณ 15.3 ตรม.
R Class Veranda/Concierge Stateroom:  ห้องประมาณ 20 ตรม.
R Class Penthouse Suite: ห้องประมาณ 29.9 ตรม. มีอ่างอาบน้ำภายในห้อง
R Class Vista Suite: ห้องประมาณ 73.02 ตรม.
R Class Owner’s Suite: ห้องประมาณ 92.90 ตรม. 

O Class 

O Class Interior Stateroom: ห้องประมาณ 16.16 ตรม.
O Class Deluxe Ocean view Stateroom: ห้องประมาณ 22.48ตรม. มีอ่างอาบน้ำภายในห้อง
O Class Veranda /Concierge Stateroom: ห้องประมาณ 26.19ตรม. มีอ่างอาบน้ำภายในห้อง
O Class Penthouse Suite:  ห้องประมาณ 39ตรม. มีอ่างอาบน้ำภายในห้อง
O Class Oceania Suite: ห้องประมาณ 92.90ตรม. มีอ่างอาบน้ำภายในห้อง
O Class Vista Suite: ห้องประมาณ 139.35 ตรม.  พร้อมอ่างจากุชชี   
O Class Owner’s Suite: ห้องประมาณ 185.80 ตรม. พร้อมอ่างจากุชชี   

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก อาทิเช่น ตู้เย็นมินิบาร์พร้อมเครื่องดื่มฟรี, เตียงนอนนุ่มๆ จาก Prestige Tranquillity พร้อมผ้าปูเตียงทำจากเนื้อผ้าลินินอย่างนี้ ทีวีจอแบนพร้อมเครื่องเล่นดีวีดี และที่สำคัญสุด ภายในห้องน้ำมีผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Bvlgari อีกด้วยค่ะ ว่าแล้วเราลองมาชมภาพห้องตัวอย่างของแต่ละแบบกันได้เลยค่า

 

Inside Stateroom

 

Ocean View Stateroom

 

Deluxe Ocean View Stateroom

 

Veranda Stateroom

 

Concierge Level Veranda

 

Penthouse Suite

 

Vista Suite

 

Owner's Suite

  

 

ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารพิเศษ

 

เรือลำนี้ จะให้ความสำคัญเรื่องอาหารเป็นที่สุด อาหารต้องดีที่สุด นักเดินทางสามารถทานอาหารร้านพิเศษได้ฟรี ทริปละ 1 ครั้ง รวมอยู่ในค่าห้องพักเรียบร้อยแล้วค่ะ โดยต้องทำการจองโต๊ะล่วงหน้า และใส่ชุดสุภาพ สำหรับมื้อดินเนอร์ อาจใส่สูทหรือชุดราตรีได้ ไม่อนุญาตให้ใส่ยีนส์หรือรองเท้าแตะนะคะ เอาเป็นว่าลองไปชมคลิปวิดีโอเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลย 

 

ห้องรับประทานอาหารหลักสุดหรูหราโอ่อ่าตระการตา เรียกได้ว่า เป็นห้องอาหารสไตล์ยุโรปสุดหรูระดับ 5 ดาว “ The Grand Dining Room “ ภายในนั้นมีการตกแต่งที่สวยงามด้วยผ้าม่านแทรกสลับด้วยโทนสีทอง พร้อมเครื่องเงิน จาน ช้อน ซ้อมอย่างดีที่ถูกจัดวางอย่างสวยงามพร้อมผ้าปูโต๊ะสีขาวให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้าน สบายตา พร้อมกับบรรยากาศน่ารื่นรมย์ The Grand Dinning Room ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 สามารถรองรับแขกได้ถึง 352 ที่นั่ง นำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลาย ครบทั้ง 3 มื้อ เช้า กลางวัน และมื้อค่ำ จุดเด่นของที่นี่ จะมีเมนูอาหารที่หลากหลาย มื้อเช้าเป็นอาหารสไตล์ยุโรปแบบคอนติเนนตัล  ที่มีทั้ง ขนมปัง ชา กาแฟ ผลไม้สด โยเกิร์ต ธัญพืชแบบซีเรียล และชีสหั่นทานคู่กับขนมปัง หรือหากท่านใดที่ชอบอาหารคลีนเพื่อสุขภาพก็มีอีกหนึ่งทางเลือกนั่นก็คือเมนูจาก Canyon Ranch Spa นั่นเองค่า

Sample Grand Dining Room Dinner Menu 
Sample Grand Dining Room Lunch Menu - The Bistro 
Sample Grand Dining Room Breakfast Menu 
Sample Grand Dining Room Vegan Menu 
Sample Grand Dining Room Dessert Menu 
Sample Grand Dining Room Wine List

 

 

อีกหนึ่งห้องอาหารพิเศษที่ใครได้ขึ้นเรือสำราญลำนี้ต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ Polo Grill ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ ห้องอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 10 รองรับแขกได้เพียง 90 ที่นั่นเท่านั้นค่ะ สำหรับผู้ที่รักการทานสเต็ก ที่นี่เขามีเป็นสเต็กเฮ้าส์สุดแสนจะอร่อย มีหลากหลายเมนูให้เลือกสั่ง หรือ หากใครที่ชอบทานอาหารทะเล ที่นี่เขาก็มีเมนูซีฟู้ดที่สดใหม่ อาทิเช่น เมนูเรียกน้ำย่อย อย่างหอยนางรม ซุปหอย ล็อบสเตอร์ซุป และอื่นๆ อาหารจานหลัก เช่น สเต็กเนื้อ หรือเนื้อแกะอย่างดี อีกทั้งยังมีซี่โครงย่างสุดแสนอร่อย ไม่เอาดีกว่าค่ะ เปลี่ยนเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ก็ยังทัน แฮ่ๆๆ ว่าแล้วลองไปดูเมนูกันเลยค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง เพราะที่นี่เขามีอาหารที่หลากหลาย เยอะมากๆ บอกได้คำเดียวว่า กินทั้งวันก็ไม่เบื่อจริงๆ 

Sample Polo Grill Dinner Menu 
Sample Polo Grill Dessert Menu 
Sample Polo Grill Wine List 
Sample Polo Grill Scotch & Whiskey List

สำหรับห้องอาหาร Polo Grill ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้นนะคะ

 

 

 

หากใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในรสชาติของอาหารอิตาเลียน แนะนำให้มาที่นี่ "Toscana" ห้องอาหารสุดพิเศษสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่สามารถรองรับแขกได้เพียง 90 ที่นั่งเท่านั้น ตั้งอยู่ชั้น 10 เช่นกันค่ะ หากใครจะมาที่นี่ต้องทำการจองลองที่นั่งล่วงหน้าด้วยนะคะ วันนี้เรามีเมนูคร่าวๆ มานำเสนอตามลิงค์ข้างล่างค่ะ 

Sample Toscana Dinner Menu 
Sample Toscana Dessert Menu 
Sample Toscana Olive Oil Menu 
Sample Toscana Wine List

 

หากใครที่ชื่นชอบการทานอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ จะมี 2 มื้อ คือ มื้อกลางวันและมื้อค่ำสามารถเลือกมาได้ที่ห้องอาหาร Terrace Café ที่นั่งมีทั้งโซนด้านใน และด้านนอก ใครที่ชอบบรรยากาศกลางแจ้งก็เลือกที่นั่งบริเวณโซนด้านนอกได้เลยบรรยากาศสดชื่นไปอีกแบบค่ะ ลองดูเมนูคร่าวๆ สิคะ มีทั้งเป็ดย่าง กุ้งล็อบสเตอร์ เมนูปิ้งย่าง พิซซ่า และอื่นๆ อีกมากมาย Terrace Café จะเปิดให้บริการทั้งวัน และไม่ต้องทำการจองล่วงหน้าค่า 

Sample Terrace Café Lunch Buffet Menu 
Sample Terrace Café Dinner Buffet Menu 
Sample Terrace Café Wine List

 

 

สถานที่ชิวๆ ที่สุดบนเรือเห็นจะหนีไม่พ้น "Waves Grill" ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 9 ตรงสระว่ายน้ำค่ะ เปิดให้บริการช่วงเลางวันและช่วงยามบ่ายมีที่นั่งเพียง 80 ที่เท่านั้น มีเมนูหลากหลาย มากมายให้เลือก ทั้ง สลัดบาร์ ผลไม้ เบอร์เกอร์ แซนวิส หรือแม้กระทั่ง ล็อบสเตอร์ เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งและใส้กรอก หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ปั่น เบียร์ ชา กาแฟ อื่นๆ อีกมากมาย ว่าแล้วลองไปดูเมนูด้านล่างได้เลยค่า อิอิ

Sample Waves Menu 
Sample Waves Bar Menu 

 

เพลิดเพลินไปกับการจิบชายามบ่าย Afternoon Tea อีกหนึ่งโซนของผู้ที่รักการจิบชา พร้อมกับแซนวิสและขนมหวานหลากหลายชนิดพร้อมพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 บนเรือสำราญค่ะ จะเปิดให้บริการในช่วงเวลา 4 โมงเย็น และ 5 โมงเย็น และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องทำการจองที่นั่งล่วงหน้าค่า 

 

 

อีกหนึ่งแห่งที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักเดินทางล่องเรือสำราญ นั่นก็คือ " Baristas " มุมสบายๆ สุดชิว ที่แขกสามารถมานั่งพักเพื่อจิบกาแฟรสชาติดี Baristas ตั้งอยู่บริเวณช้ัน 5 บนเรือสำราญค่ะ พร้อมเปิดให้บริการทุกวันไปตลอดจนถึงช่วงเย็น ลองดูเมนูก่อนใครได้ที่นี่เลย

Sample Baristas Menu

 

บนเรือสำราญ Oceania Cruise จะมีบริการ รูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง หากใครที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำกิจกรรมบนเรือและไม่อยากออกจากห้องพัก ก็สามารถสั่งเมนูอาหารและเครื่องดื่ม มารับประทานได้ที่ห้อง ทั้ง 3 มื้อ เช้า กลางวัน และมื้อค่ำค่ะ สามารถนั่งทานตรงริมระเบียงห้องพักพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์อันสวยงามของท้องทะเลได้อย่างสบายใจค่า

 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ

สำหรับผู้ที่รักการอ่านต้องไม่พลาด Library ห้องสมุดอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่รักการอ่าน ต้องการมีมุมสงบส่วนตัว ห้องสมุดที่นี่มีหนังสือและนิตยสารให้เลือกอ่านมากกว่า 2000 เล่ม รวมถึงหนังสือวรรณคดีสุดคลาสสิคที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งก็มีค่ะ หนอนหนังสืออย่างเรา สามารถมาขลุกอยู่ที่นี่ทั้งวันแบบไม่เบื่อกันเลยทีเดียว

 

Boutiques สำหรับผู้ที่รักการช็อปปิ้ง บนเรือลำนี้มีสินค้าแบรนด์เนมมากมาย สามารถเลือกซื้อของได้อย่างสบายใจ มีทั้งน้ำหอม เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า และของที่ละลึก อื่นๆ อีกมากมายค่ะ

 

อีกหนึ่งโซนสำคัญที่พลาดไม่ได้ นั่นคือ "Canyon Ranch SpaClub" ผ่อนคลายไปกับการให้บริการสปา นวดบำบัด บำรุงและขัดผิว พร้อมร้านเสริมสวยซาลอนที่จะดูแลความงามตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า นอกจากนี้ยังมีการรักษาเฉพาะจุดโดยการฝังเข็ม โปรแกรมทรีตเม้นท์ของที่นี่มีมากมาย สามารถไปติดต่อเจ้าหน้าที่หากจะใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์ของ Canyon Ranch SpaClub เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 1 ทุ่ม  

View Canyon Ranch® Spa Guide to Services 

View Canyon Ranch® Spa Menu of Services 

 

 

กิจกรรมสำหรับนักเสี่ยงโชคจะต้องแวะมาที่ "Casinos At Sea" คาสิโนจะตั้งอยู่ชั้น 5 บนเรือสำราญค่ะ สามารถติดตามโปรแกรมที่น่าสนใจ สิทธิประโยชน์ และเงื่อนไขได้ที่นี่ค่ะ View Casino At Sea Program Details 

 

นอกจากนี้ ยังมีโรงละคร Theater ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 Theater แห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมความบันเทิงหลักๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการชมละครบรอดเวย์ หรือโชว์การแสดงต่างๆ เช่น การแสดงตลกแนวคอมเมดี้ และบางคืนก็มีการแสดงของนักมายากลอีกด้วยค่ะ การแสดงเหล่านี้จะสลับหมุนเวียนกันไป และจะถูกจัดขึ้นในทุกค่ำคืนของการล่องเรือสำราญ

 

Pool & Sports Deck ตลอดทริปการเดินทางล่องเรือสำราญ แขกทุกท่านสามารถมาเพลิดเพลิน และรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า หรือยามเย็นของวัน ได้ที่สระว่ายน้ำแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 9 เชิญมาพักผ่อนริมสระหรือแช่ตัวในอ่างน้ำวนสองแห่ง หรือจะเป็นนั่งอาบแดดพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้สบายใจฉ่ำก็ทำได้ค่ะ ช่างเป็นอีกหนึ่งโซนที่ทำให้สบายกายและผ่อนคลายไปตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 9 เช่นเดียวกันค่ะ สำหรับผู้ที่รักในการออกกำลังกายสามารถเข้ามาใช้บริการได้ในระหว่างวันได้ ทั้งนี้เรือสำราญลำนี้จะไม่ค่อยมีกิจกรรมกรรมพิเศษสำหรับเด็กสักเท่าไหร่ แต่จะมีกิจกรรมที่เด็กจะร่วมสนุกกับผู้ใหญ่ได้ ทั้ง สระว่ายน้ำ เล่นปิงปอง หรือกิจกรรมพัตกอร์ฟบนชั้นดาดฟ้าชั้น 11 ก็เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวันค่ะ

 

 

 

บนเรือสำราญ Oceania มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่พักผ่อนเพื่อความบันเทิงอีกมากมาย อีกหนึ่งไฮไลท์ทีเป็นจุดรวมตัวของเหล่านักสังสรรค์และนักดื่มทั้งหลายจะต้องแวะเวียนกันมา พบปะพูดคุยกัน แน่นอนว่าจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากโซน Bars & Lounges นั่นเองค่า อาทิเช่น Martini testing, Horizons, Grand Bar, Louge และ Waves Bar ค่า

เมนูคลิกที่นี่ 

Sample Bar Menu 

Sample Martinis Bar Menu 

View Beverage Packages

 

 

 

 

Horizons ตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 บนเรือสำราญ บาร์ที่หรูหราพร้อมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่สวยงามเกินจะบรรยาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพบปะเพื่อนฝูง นั่งหัวเราะ และจิบค็อกเทลเบาๆ พร้อมเสียงเพลงเบาๆ คลอเคลีย สถานที่นี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายค่ะ เพราะด้วยการตกแต่ที่ใช้โทนสีเบาๆ ด้วย โทนสีเทา สีฟ้า และสีน้ำตาล เป็นสไตล์การตกแต่งแบบร่วมสมัยที่สวยงาม เรียบหรู ได้อย่างลงตัว (ขอบอกเลยว่า ต้องมาให้ได้นะคะ)

 

หากใครที่ต้องการใช้บริการอินเตอร์เน็ต สามารถมาได้ที่ชั้น 9 เรียกว่า Oceania @ Seas Internet Center ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จะมีพนักงานคอยให้บริการและคำแนะนำค่ะ เช่น ใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย ส่งอีเมล์ โทรออก หรือรับสายเรียกเข้า แต่จะมีเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ

 

 

Beth: 2018-07-01