เรือสำราญ Royal Caribbean Cruise ภายใต้การจัดการของบริษัท Royal Caribbean International

ภายใต้คอนเซ็ปที่ว่า First at Sea Experience รอยัล แคริบเบียน ครูซ นำเสนอรูปแบบของความสนุกสนาน มีกิจกรรมให้ได้ทำตลอดทาง รวมไปถึงนวัตกรรมใหม่ครั่งแรกบนเรือสำราญ เช่น Bionic Bar, North Star, Ripcord BY iFLY, FlowRider เป็นต้น เรือสำราญรอยัลแคริเบียน ตระกูล Quantum Class ได้ชื่อว่าเป็นเรือสำราญที่ทันสมัยที่สุดในโลก Ovation of the Seas เป็นเรือที่ใหม่และทันสมัยที่สุดในปี 2016 และ Symphony of the Seas ตระกูล Oasis Class ปี 2018 ด้วยขนาดระวางขับน้ำ 230,000 ตัน และส่วนบริการทั้งหมด 16 ชั้น ก็จะถูกจดบันทึกไว้ว่าเป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2018 ค่ะ
 
  

 
 

 

เอกลักษณ์

รอยัล แคริบเบียน ครูซ มีเอกลักษณ์ค่อนข้างชัดเจนคือนำเสนอความสนุกสนานและความบันเทิงตลอดการเดินทาง กิจกรรมบนเรือมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนหน้าผาจำลอง มินิกอล์ฟ สนามบาสเก็ตบอล สวนน้ำ สระจากุซซี่ และในแต่ละลำก็จะมีเครื่องเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่นเรือในกลุ่ม Quantum Class (ขนาดกลาง) ก็จะมีเครื่องเล่นอย่าง North Star, FlowRider และ Ripcord BY IFly
 
และใน Oasis Class (ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) ก็จะมีเครื่องเล่นโหนสลิงสูง 82 ฟุต Zip Line ที่ทุกๆท่านไม่ควรพลาด รวมไปถึงร้านอาหารพิเศษ Jamie’s Italian by Jamie Oliver เชฟระดับโลกจากเกาะอังกฤษ หรือห้องอาหาร 150 Central Park ที่รังสรรค์อาหารโดยเชฟ Michael Schwartz ในทุกๆเส้นทางของ Oasis Class ให้ทุกท่านได้เลือกชิม


 
 
และที่เกาะส่วนตัว Coco Cay สวนสนุก Them Park ขนาดใหญ่กลางมหาสมุทรในประเทศ Bahamas และชายหาดส่วนตัวที่ชื่อว่า Labadee ที่ประเทศ Haiti ในแถบหมู่เกาะคาริบเบียน ท่านจะได้พบกับหาดทรายสีขาวตัดกับทะเลสีฟ้า กิจกรรมทางน้ำที่รับรองเฉพาะแขกของ รอยัล แคริเบียน ครูซ เท่านั่น
 


 
 

ผู้โดยสาร

เรือสำราญทุกลำของ Royal Caribbean International จะเหมาะสำหรับการเดินทางเป็นครอบครัว หรือผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน ความบันเทิง ผจญภัย ผู้โดยสารจะมีทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือแม้แต่คู่รัก ฮันนีมูน เนื่องจากเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สามารถตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ผู้เดินทางส่วนใหญ่เป็นคนยุโรป หรืออเมริกัน แต่ถ้าเป็นเส้นทางที่ออกจากจีน หรือฮ่องกง ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน แม้จะมีผู้โดยสารหลากหลายเชื้อชาติ เรือสำราญก็จัดให้มีส่วนบริการและสิ่งจำเป็นครอบคลุมอย่างทั่วถึง จำนวนวันเดินทางไม่มากเกินไป เริ่มต้นที่ 3 ถึง 7 วัน บรรยากาศบนเรือเหมาะกับการเล่นกิจกรรม กีฬา อาบแดด ว่ายน้ำ และการสังสรรค์ตามบาร์ต่างๆ ความสะดวกสบายสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ท่ามกลางการตกแต่งภายในตัวเรือที่หรูหราและทันสมัย การแสดงโชว์ตระการตาจากทีมงานระดับบอร์ดเวย์ และความใส่ใจในการบริการของเจ้าหน้าที่ที่จะทำให้คุณประทับใจ
 
 

ไลฟ์สไตล์

 


 

เรือสำราญที่ให้บริการในปัจจุบันและในอนาคต

ปัจจุบัน (2020) Royal Caribbean Cruise Line มีเรือให้บริการ 28 ลำในทุกๆเส้นทางรอบโลก ลำล่าสุดคือ Wonder of the Seas ที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่และใหม่ที่สุดในโลกนั้น วางแผนล่องในโซนเอเซีย โดยประจำการที่ท่าเรือเมืองเซี่งไฮ้ ประเทศจีน เป็นท่าเรือเริ่มต้นหลัก
 
ส่วนลำใหม่ที่ชื่อ Odyssey of the Seas ซึ่งเป็นเรือขนาดกลางในกลุ่ม Quantum Class จะเริ่มให้บริการทริปแรกในปี ค.ศ.2021 ในเส้นทางล่องแคริบเบียน 7 คืน ประจำการที่ท่าเรือหลักเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สลับกับโซนยุโรปในรายการล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 7 คืน เริ่มต้นที่เมืองบาร์เซโลนา ของประเทศสเปน (พฤษภาคม - กันยายน)
 
 

รายชื่อเรือสำราญทั้งหมดของ Royal Caribbean International (2020)


 

 
 
 

 

 

 
ขอบคุณเครดิตภาพจาก https://cruiseweb.com/cruise-lines/royal-caribbean-international
 
 

เรือสำราญแนะนำ

Wonder of the Seas: เรือใหญ่สุดและใหม่สุดที่เข้ามาล่องในโซนเอเซีย กำหนดจะเปิดตัวที่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ (กรุณาเช็คสถาณะการณ์ Covid-19) 
Symphony of the Seas: เรือจากตระกูลใหญ่สุดในโลก (2018) เป็นตัวหลักในเส้นทางล่องทะเลแคริบเบียน
Harmony of the Seas: อีกลำจากตระกูลเรือใหญ่สุดในโลก (2016) เป็นตัวหลักในเส้นทางล่องทะเลเมดิเตอร์เรียนในยุโรป
Odyssey of the Seas: เรือไฮเทครุ่นใหม่ เปิดตัวในเส้นทางยุโรป เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก (2021)
Ovation of the Seas: เรือไฮเทคลำแรกที่เข้าไปให้บริการในเส้นทางอลาสก้าแทนเรือรุ่นเก่าๆ
Spectrum of the Seas: เรือไฮเทครุ่นใหม่ที่เป็นตัวแทนประจำการในโซนเอเซีย
 
 

เส้นทางแนะนำ

สายเรือ Royal Caribbean International เป็นพระเอกเสมอในเส้นทางแถบแคริบเบียน และบาฮามาส มีเรือวิ่งประจำในโซนนี้ตลอดทั้งปีรวมถึง 13 ลำ โดยเริ่มต้นการเดินทางจากสหรัฐอเมริกาที่เมืองท่า Miami, Fort Lauderdale, Port Canaveral ที่รัฐ Florida โดยผ่านสถานที่สวยงามในแถบหมู่เกาะแคริบเบียนมากมาย เช่น Jamaica, St. Thomas และที่ Cozumel (Mexica) San Juan (Porto Rico), Nassau (Bahamas) และชายหาดส่วนตัว Labadee (Haiti) เป็นต้น และในเกือบทุกรายการจะแวะเข้าจอดที่เกาะส่วนตัว Coco Cay ให้ผู้โดยสารได้สนุกสุดเหวี่ยงกับสวนสนุกกลางมหาสมุทรสุดฟินนนนค่า 
นอกจากนี้ยังมีเรือออกเดินทางจาก Cape Liberty ที่เมือง New Jersey รัฐ New York โดยแต่ละเส้นทางใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ 4 - 8 วัน ในช่วงฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคม ด้วยค่ะ
 
ในโซนยุโรป เส้นทางหลักคือล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้งตะวันตกและตะวันออกตลอดช่วงฤดูร้อน พฤษภาคม - กันยายน ค่ะ รวมทั้งแถบทะเลบอลติก และประเทศรัสเซียซึ่งเรือจะจอดค้างคืนที่เมือง St. Petersburge ด้วยค่ะ 
 
 
เส้นทางเด่นๆ ของ Royal Caribbean Cruise ได้แก่
America: 7 Nights Eastern Caribbean Cruise
Ship: Symphony of the Seas
Port of Departure: Port of Miami
 


 

America: 7 Nights Western Caribbean Cruise
Ship: Symphony of the Seas
Port of Departure: Port of Miami

 

7 Nights Bahamas Caribbean Cruise
Ship: Allure of the Seas
Port of Departure: Port Canaveral

 
 
 
Europe: 7 Nights Western Mediterranean Cruise
Ship: Harmony of the Seas
Port of Departure: Barcelona (Spain), Civitavecchia, Rome (Italy)
 

 
 
Europe: 7 Night Eastern Mediterranean Cruise
Ship: Odyssey of the Seas, Rhapsody of the Seas
Port of Departure: Rome (Italy), Venice (Italy)
 

 



 
Europe: 7 Nights Baltic & Russia Cruise
Ship: Jewel of the Seas
Port of Departure: Copenhagen (Denmark), Stockholm (Sweden)
 



 
 
Alaska: 7 Nights Alaska Cruise
Ship: Ovation of the Seas
Port of Departure: Seattle (USA)
 
 
 
ตรวจสอบรายการล่องเรือของ Royal Caribbean Cruise ทั้งหมด ที่นี่
 

 

บริการที่รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายของท่านแล้ว

1. ห้องพัก
ห้องพักบนเรือมี 4 ประเภทหลัก ได้แก่ ห้องไม่มีหน้าต่าง ห้องมีหน้าต่าง ห้องมีระเบียง และห้องสวีท มีความกว้างตั้งแต่ 16 ตารางเมตร ไปจนถึง 107 ตารางเมตร
ภายในห้องจะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ พื้นที่นั่งเล่นพร้อมโซฟา โทรศัพท์ ทีวี ไดร์เป่าผม พร้อมพนักงานทำความสะอาดและจัดที่นอนประจำห้อง บริการทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  วิธีเลือกห้องพักสำราญอย่างไรให้ถูกใจ 
หมายเหตุ: เครื่องดื่มที่วางอยู่ในห้อง เช่น น้ำอัดลมกระป๋องหรือน้ำดื่มบรรจุขวดจะมีค่าใช้จ่าย


2. อาหาร
Royal Caribbean Cruise จะให้บริการอาหารมื้อหลัก เช้า กลางวัน และอาหารค่ำ ครบอย่างน้อยสามมื้อต่อวัน นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารรองท้องระหว่างมื้อ อาหารหรือขนมทานเล่น และอาหารรอบดึก โดยภายในเรือแต่ละลำจะมีภัตตาคารหรูมากมากมายให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการได้เกือบตลอดทั้งวัน
 

3. โชว์และการแสดง
บนเรือทุกลำจะมีห้องโชว์หลัก The Royal Theater นำเสนอการแสดงวันละสองรอบ และในเรือขนาดใหญ่จะมีห้องการแสดงเพิ่มตามขนาดของเรือ เช่น Ice Skating Theater บนเรือ Quantum Class ขึ้นไป และเพิ่มเติม Aquatheater ในเรือตระกูล Oasis Class
นอกจากนี้ยังมีการแสดงละครเวที รวมถึงการแสดงดนตรีสดต่างๆ ให้แขกผู้เข้าพักได้มีความสุข เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกันกระหึ่มไปทั่วทั้งเรือค่า ที่สำคัญในช่วงยามเย็นที่นี่เปรียบเสมือนไนท์คลับของผู้ใหญ่ ที่มีทั้งฟลอร์เต้นรำสุดอลังการ พร้อมเครื่องดื่ม และความบันเทิงมากมายสุดคับคั่งตระการตา นัดผองเพื่อนมารวมตัวกันได้เลยค่า
 

4. กิจกรรมความสนุกสนาน
เครื่องเล่น สนามกีฬา สระน้ำ ห้องเกมส์สำหรับเด็กๆ และวัยรุ่น

 

บริการที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

บนเรือยังมีบริการอีกหลายอย่างที่หากท่านต้องการใช้บริการจะต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ ตัวอย่าง เช่น...

• การซื้อสินค้าและบริการบนเรือ
• การซื้อทัวร์ชายฝั่ง (Shore and Land Excursion)
• การสั่งเครื่องดื่มในบาร์ ไนท์คลับ เลาจน์
• ห้องอาหารพิเศษ (Specialty Restaurant)
• แพ็คเกจเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ (Beverage Package)
• บริการอินเตอร์เน็ต ทั้งในส่วนของ Business Center และ Wi-Fi
• การเล่น Casino บนเรือ
• บริการเสริมความงามและสปาที่ VITALITY^® at Sea Spa
• อาหาร ขนม และสิ่งของสั่งพิเศษสำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษ
• บริการทางการแพทย์
• บริการซักรีด
• เช่าสูท หรือทักซิโด้
• บริการรถรับ - ส่งระหว่างท่าเรือ สนามบิน และในเมือง

 








 




 






 



 
 
 
ขอบคุณที่กรุณาติดตามการแนะนำเรือสำราญของ 'หญิงปุ๊กพาเที่ยว' ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการล่องเรือสำราญกับทริปในฝันของคุณๆ นะค้าาาาา


 
Update: 2020/11/12