ภาพรวมเรือสำราญ Seabourn

เรือสำราญสุดหรูของสายเรือ Seabourn ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในเรือที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในโลก โดยได้รับรางวัลคุณภาพมากมาย อาทิเช่น
 

• 2016: Best Luxury Cruise Line
• 2016: Best Cabins
• 2017: Best Luxury Cruise Line
• 2017: Best Enrichment

 
เรือแต่ละลำของสายเรือ Seabourn เป็นเรือขนาดเล็ก สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียง 450-600 ท่านเท่านั้น จุดเด่นคือ สามารถลัดเลาะไปในเส้นทางที่หลากหลาย ที่เรือลำใหญ่บางลำไม่สามารถเข้าถึง และที่สำคัญ เรือจิ๋วสุดหรูของสายเรือ Seabourn ยังมีเส้นทางล่องเรือรอบโลก สามารถตอบโจทย์กลุ่มนักเดินทางที่หลากหลาย และเดินทางมาท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกนั่นเองค่า 

นอกจากนี้ภายในเรือแต่ละลำของ Seabourn ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมไปถึงมี 5 ร้านอาหารพิเศษ ให้เลือก อาทิ The Grill by Thomas Keller และ Sushi มาพร้อมกับบรรยากาศบนเรือที่ไม่รู้สึกแออัด โดยมีพื้นที่สาธารณะอย่างสระว่ายน้ำอีก 2 สระ และ 6 สระน้ำวน ยังมีโซน Seabourn Square ทั้ง เลานจ์ ห้องสมุด คอมพิวเตอร์ รวมไปถึง คอฟฟี่บาร์ อีกด้วย รวมไปถึงสปา และ ห้องฟิตเนส แบบเต็มรูปแบบ และร้านเสริมสวย และยังมีห้องรับรองอีก 7 แห่งภายในเรือ เปิดประสบการณ์ไปพร้อมๆ กัน กับ Seabourn จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอนค่า

เอกลักษณ์

"เล็กแต่หรู" น่าจะเป็นคำจำกัดความของ เรือ Seabourn ได้เป็นอย่างดี และเอกลักษณ์อีกประการของสายเรือ Seabourn นั้นนอกจากจะมีความหรูหรา และสวยงาม ยังมีเส้นทางล่องเรือที่หลากหลาย และสามารถแล่นไปในสถานที่ที่สวยงามอันถูกซ่อนอยู่ในจุดที่เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังมีการบริการจากพนักงานอย่างมืออาชีพ ที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจแก่แขกผู้เข้าพักได้อย่างดีเยี่ยม

ห้องพักที่กว้างขวาง และเป็นห้องสวีททั้งหมด ทุกห้องมีระเบียงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีบาร์เปิดตลอด และมีไวท์ชั้นดีให้แขกทุกท่าน เสิร์ฟคู่กับอาหารใน มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ

อีกหนึ่งไฮไลท์คงหนีไม่พ้น Caviar in Surf ในขณะที่แขกพักผ่อนริมชายหาด จะมีบริการ เสิร์ฟ คาเวียร์และแชมเปญ ท่ามกลางน้ำทะเลใสๆ ผุ้เข้าพักจะได้รับประสบการณ์ที่เป็นความสุขแบบสุดๆ ไปเลย 



 

ผู้โดยสาร

เรือสำราญของสายเรือ Seabourn ส่วนใหญ่จะดึงดูดผู้โดยสารท่ีเป็นชาวอเมริกันค่ะ และจะมีกลุ่มนักเดินทางจากประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย, เกรทบริทเทน และแอฟริกาใต้ โดยกลุ่มนักเดินทางเหล่านี้สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลักค่า และพวกเขามักจะมีประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวรอบโลก มีความเชี่ยวชาญในด้านการท่องเที่ยว และเคยมีประสบการณ์ล่องเรือสำราญมาก่อน ถือว่าเป็นกลุ่มที่มองหาวันหยุดพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ เน้นพักหรู อยู่สบาย เป็นที่สุดค่า

 

เรือสำราญที่ให้บริการในปัจจุบัน และเรือที่จะให้บริการในอนาคต

เส้นทางล่องเรือของ Seabourn 

เรือทั้ง 5 ลำ ของ Seabourn จะพาผู้โดยสารเดินทางไปในที่ต่างๆ รอบโลก สลับหมุนเวียนกันไป รายการเดินทางส่วนมากจะเป็นการเดินทางหลายๆ คืน มากกว่า 10 คืนขึ้นไป และการเดินทางข้ามทวีป การเดินทางที่ใช้เวลานานๆ เช่น มากกว่า 30 วัน และ World Cruise (เดินทางมากกว่า 3 ทวีป) ของเรือ Seabourn นั้นก็เป็นที่นิยมอย่างสูงค่ะ

แต่รายการที่สร้างชื่อเสียงให้ Seabourn จะเป็นรายการทางด้าน ทะเลแคริบเบียน ทางยุโรปตอนใต้ และทะเลกรีซ อลาสก้า และ South Pacofic หรือ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ค่ะ

และเนื่องจาก Seabourn เป็นเรือขนาดเล็ก ข้อได้เปรียบคือสามารถลัดเลาะเข้าไปจอดในเมืองสวยๆ ขนาดเล็ก หรือเมืองสำคัญที่เรือใหญ่ไม่สามารถเข้าจอดได้ เพราะต้องใช้ท่าเรือขนาดใหญ่รองรับ ตัวอย่างเช่น หากมีเรือเข้ามาในประเทศไทย ส่วนมากจะต้องไปจอดที่ท่าเรือแหลมฉบัง แล้วเดินทางเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพฯ ทำให้ใช้เวลาในการเดินทาง แต่เรือ Seabourn นี่สามารถเข้ามาจอดที่ท่าเรือคลองเตยได้เลยค่า
 

เส้นทางแนะนำ
 

เแคริบเบียน
แคริบเบียนถือเป็นบ้านของ Seabourn โดยแท้ เรือของ Seabourn จะพาคุณลัดเลาะเข้าทะเล เมืองเล็กเมืองน้อยของเหล่าประเทศในหมู่เกาะแคริบเบียนอย่างที่สายเรืออื่นๆ ไม่สามารถทำได้ รายการมีหลากหลายมาก แต่หากการต่อเที่ยวบินเป็นสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงด้วย เราแนะนำรายการที่เริ่มต้นจากเมืองท่าใหญ่ คือไมอามี ที่ฟลอริด้าค่ะ

• ทริป 11 คืน ออกจากท่าเรือ Miami, Florida (USA) 11-Day Gems of The Leeward Island
  Ship: Sojourn
  Miami, Florida (USA), San Juan (Puerto Rico), Gustavia (Saint Barthelemy), Terre-De-Haut, Iles Des Saintes (Guadeloupe), St, Johns (Antigua And Barbuda), Carambola (Saint Kitts), Great Harbour, Jost Van Dyke (British Virgin Islands), Miami, Florida (USA)

Saint Kitts



 

เส้นออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์

เส้นทางเมดิเตอร์เรเนียน 

เส้นทางอลาสก้า 

เส้นทางเอเชีย