ภาพรวมเรือสำราญ Sky Princess 

 
วันนี้เราจะขอแนะนำเรือสำราญลำใหม่ของสายเรือ Princess Cruises  นั่นก็คือ Sky Princess เรือสำราญครอบครัวลำนี้ มีน้ำหนักถึง 143,700 ตัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 3,668 - 4,402 คน ถือเป็นเรือน้องใหม่ที่น่าจับตามอง ของเหล่านักล่องเรือสำราญจากทั่วทุกมุมโลก โดยได้ฤกษ์เปิดตัวในปี 2019 และ มีเส้นทางล่องเรือในแถบ แคริบเบียน และ เมดิเตอร์เรเนียน เป็นหลักค่ะ จุดเด่นของเรือสำราญลำนี้ คือ มีห้องพักประเภท Sky Suites ที่มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัวที่มีความกว้างถึง 65 ตารางเมตรค่ะ เราสามารถนอนดูดาว หรือจะนอนชมภาพยนตร์กลางแจ้ง ผ่านระเบียงส่วนตัว ตามด้วยความบันเทิงที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบเต็มอิ่มกันทั้งครอบครัว ห้องสวีทนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 270 องศา พักได้สูงสุดถึง 5 ท่านเลยทีเดียวค่า ตั้งอยู่บนชั้น 18 บนเรือค่า
 
นอกจากนี้ยังมีโซนพื้นที่สาธารณะอย่างสระว่ายน้ำที่เรียกว่า Wakeview Pool อยู่ท้ายลำเรือ ให้แขกได้เพลิดเพลิน และสนุกสนาน ไปกับการเล่นน้ำคลายร้อนในระหว่างวัน และยังมีสระว่ายน้ำอีกสองแห่ง ที่เรียกว่า Deep Pool และ Retreat Pool พร้อมอ่างจากุชชี่ อีกสองแห่งบนเรืออีกด้วยค่า
 
 
 

เส้นทางล่องเรือสำราญ Sky Princess

 
- เรือสำราญ Sky Princess จะล่องในแถบ แคริบเบียน และ เมดิเตอร์เรเนียน เป็นต้น
 
- ระยะเวลาการเดินทางโดยส่วนใหญ่ ตั้งแต่ 7 คืนขึ้นไป
 
- เรือสำราญ Sky Princess ส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือ Fort Lauderdale, Barcelona, Rome/Civitavecchia และ Athens/Piraeus เป็นต้น
 
  
 

ขอต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญ Sky Princess

 

 
 
 

ไฮไลท์ 

 
เรือสำราญ Sky Princess นอกจากจะมีจุดเด่นในส่วนของห้องพักประเภท Sky Suites พร้อมกับระเบียงส่วนตัวที่มีความกว้างถึง 65 ตารางเมตร และสามารถนอนดูดาว หรือจะนอนชมภาพยนตร์กลางแจ้งผ่านระเบียงส่วนตัว ตามด้วยความบันเทิง ที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบเต็มอิ่มกันทั้งครอบครัว และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 270 องศา แล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่โดดเด่น นั่นก็คือ เส้นทางล่องเรือที่น่าสนใจค่ะ Sky Princess จะเริ่มทริปแรกในโซน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเดือน ตุลาคมปี 2019 โดยจะเป็นทริป 7 คืน เริ่มออกจาก เอเธนส์ (Piraeus) ไปยังบาร์เซโลนา และจากบาร์เซโลนาเรือจะล่องต่อไปยังกรุงโรม และกลับไปจบที่ บาร์เซโลนา โปรแกรมการล่องเรือมีทั้ง 7, 14, 21 หรือ 28 วัน ค่ะ
 
 Sky Princess จะออกเดินทางจากบาร์เซโลนา และจะแล่นเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก 2 สัปดาห์พร้อมกับหยุดแวะใน วาเลนเซีย มาลากา เซเวียร์ (กาดิซ) ลิสบอน และ เกาะมาเดรา ก่อนจะมาถึงที่ท่าเรือ ฟอร์ตลอเดอร์เดล ในช่วงต้นเดือน ธันวาคม เรือจะล่องในโซนแคริบเบียน มีโปรแกรมตั้งแต่ 3 คืนขึ้นไปค่า 
 
 
 

เชิญชมคลิปบรรยากาศในเรือกันค่า

 
 
 
  
 

ข้อมูลตัวเลข

 

 

  

 

ไลฟ์สไตล์ บนเรือ

 
เรือสำราญ Sky Princess จะมีกลุ่มนักเดินทางที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มนักเดินทางที่มากันเป็นแบบทั้งครอบครัว รวมถึงกลุ่มวัยเกษียรอายุ ที่มีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดพักผ่อน เรือลำนี้จะมีผู้โดยสารเด็กที่มาพักผ่อนพร้อมครอบครัวในช่วงฤดูกาลปิดเทอมค่ะ กลุ่มนักเดินทางจะเป็นชาวยุโรป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเส้นทางล่องเรือ เช่น ออกจาก เอเธนส์ บาร์เซโลนา หรือ กรุงโรม และอีกหนึ่งส่วนจะเป็นชาวอเมริกัน ที่เลือกล่องเรือในโซนแคริบเบียน โดยเน้นออกจากท่าเรือ ฟอร์ตลอเดอร์เดล เป็นหลักค่า ที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ล่องเรืออันสุดวิเศษ โดยเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกนั่นเองจ้า
 
 
 

ห้องพักบนเรือสำราญ

 
ห้องพักบนเรือสำราญมีตั้งแต่ห้อง Interior (ห้องไม่มีหน้าต่าง) ห้อง Balcony (ห้องมีระเบียง) และห้องสวีท ภายในห้องพักมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโทรทัศน์ ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น ชุดคลุมอาบน้ำ และห้องสวีทสุดหรูบางห้องจะมีอ่างอาบน้ำภายในตัว ขนาดของห้องพักจะมีความกว้างตั้งแต่ 15 ตารางเมตร ไปจนถึง 63 ตารางเมตร เป็นต้นค่ะ
 
เรือสำราญ Sky Princess ยังได้เพิ่มห้องสวีทขนาดใหญ่ คือ ห้องพักประเภท Sky Suites ที่มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัวที่มีความกว้างถึง 65 ตารางเมตรค่ะ เราสามารถนอนดูดาว หรือจะนอนชมภาพยนตร์กลางแจ้งผ่านระเบียงส่วนตัว ตามด้วยความบันเทิงที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะแบบเต็มอิ่ม กันทั้งครอบครัว ห้องสวีทนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 270 องศา พักได้สูงสุดถึง 5 ท่านเลยทีเดียวค่า ตั้งอยู่บนชั้น 18 บนเรือค่า
 
 
 

รูปแบบห้องพัก

 
Interior ห้องไม่มีหน้าต่าง
 

 
 
 
Balcony ห้องมีระเบียง
 

 
 
 
Deluxe Balcony ห้องมีระเบียงแบบดีลักซ์
 

 
 
 
Mini-Suite ห้องมินิสวีท
 

 
 
 
Suites ห้องสวีท
 

 
 
 
Sky Suites  ห้องสวีทขนาดใหญ่ คือ ห้องพักประเภท Sky Suites ที่มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัวที่มีความกว้างถึง 65 ตารางเมตรค่ะ 
 

 
 
 
  
 

กิจกรรมความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ 

 
สระว่ายน้ำสาธารณะบนเรือสำราญ Sky Princess ที่เลือกว่า Fountain Pool และ Retreat Pool แขกทุกท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการกระโดดเล่นน้ำคลายร้อนระหว่างวัน มีสระน้ำลึกสองสระ พร้อมเก้าอี้นอนอาบแดดเรียงรายกันเป็นระเบียบสวยงาม นอกจากนี้บริเวณท้ายลำเรือ ยังมีสระว่ายน้ำและบาร์ เรียกว่า Wakeview ที่สามารถเห็นทัศนียภาพของท้องทะเลได้อย่างงดงาม
 

 
 
 
SeaWalk สำหรับใครที่อยากจะชมทัศนยภาพอันงดงามของท้องทะเล แนะนำให้มาเดินที่ SeaWalk ซึ่งเป็นทางเดินกระจกที่ยื่นออกมาจากขอบเรือนั่นเองค่า Seawalk บนเรือลำนี้ถือเป็นที่แรกของโลก โดยมีความยาว 60 ฟุต และ สูง 128 ฟุต เหนือคลื่นทะเล และยื่นออกไปไกลกว่าขอบเรือ 28 ฟุต สัมผัสช่วงเวลา และ ประสบการณ์อันสุดพิเศษนี้ได้ด้วยตัวท่านเอง รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างน่นอนค่า
 

 
  
 
Princess Sky Theatre โรงละครขนาดใหญ่แห่งนี้ ตั้งอยู่ชั้น 6 และ 7 บนเรือค่ะ บนเวทีแห่งนี้เต็มไปด้วยโชว์การแสดงต่างๆ มากมาย มีทั้งละครบรอดเวย์ โชว์มายากล การแสดงตลก และ การแสดงดนตรีสด พร้อมแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์พิเศษสุดยิ่งใหญ่ตระการตา รวมทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของนักแสดง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่แขกทุกท่านจะเข้ามาเพลิดเพลินกับโชว์การแสดง ที่ทำให้ตลอดทั้งวันแห่งการล่องเรือไม่เป็นวันที่น่าเบื่ออย่างแน่นอนค่ะ
 

 
 
 
Vista Gaming Lounge ห้องนี้ตั้งอยู่บนชั้น 7 บริเวณท้ายลำเรือค่า มีพนักงานคอยให้บริการแขกทุกท่านที่มาใช้บริการห้องนี้ ภายในมีทั้งการแสดงตลก มายากล และเสียงเพลงเพาะๆ จากนักดนตรีคอยบรรเลงเพลงให้ฟังกันสดๆ บรรยากาศเหมาะมากันเป็นก๊วนเพื่อนฝูง นั่งเล่นไพ่ หรือเกมส์ต่างๆ บนโต๊ะกระดานสี่เหลี่ยม นอกจากนี้ภายในเลานจ์แห่งนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญในการฝึกสอนเต้นรำอีกด้วยค่า 
 

 
 
 
Sing on the Sea Karaoke สำหรับใครที่ชื่นชอบร้องเพลงคาราโอเกะ เป็นชีวิตจิตใจ แนะนำให้เข้าพักห้องสวีทที่มีทั้งหมด 6 ห้อง ภายในมีห้องคาราโอเกะแบบส่วนตัว และสามารถรองรับแขกผู้เข้าพักได้สูงสุด 6 คนต่อห้อง แนะนำว่าชวนเดอะแก้งค์มาร่วมร้องเพลงด้วยกัน หรือจะใช้เวลาร้องเพลงเพลินๆ ไปกับครอบครัว ก็สนุกไปอีกแบบค่า 
 

 
 
 
The Shops สำหรับขาช้อปปิ้งมากันได้ที่ชั้น 5 และ ชั้น 7 ค่า มีสินค้าปลอดภาษี และสินค้าแบรนด์เนม ทั้งกระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เครื่องประดับ และของที่ระลึกต่างๆ แบรนด์เนมชื่อดัง อาทิเช่น Prada, Gucci, Chanel, Ferragamo, Coach, Swarovski, Cartier, Bvlgari และ Chopard รวมถึงนาฬิกาสุดหรูจาก Omega และ Blancpain และอื่นๆ อีกมากมาย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเรือ Princess ถึงได้รับรางวัล "Best Onboard Shopping" จากนิตยสาร Porthole ปีแล้วปีเล่านั่นเองค่า
 

 
  
 
Casino สำหรับผู้ที่รักการเสี่ยงโชค ภายในมีทั้ง สล็อต แบล็คแจ็ค รูเล็ต ตู้เกมส์ และ อื่นๆ อีกมากมาย ขอให้ท่านแน่ใจว่า เตรียมงบติดตัวไว้มากพอสมควร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนแห่งการล่องเรือที่แสนยาวนาน สนุกสนานให้เต็มที่ในค่ำคืนแห่งวันเสี่ยงโชคอันตื่นเต้น และน่าลุ้น ไปพร้อมๆ กัน
 

 
  
 
The Piazza Atrium ศูนย์กลางความบันเทิงบนเรือ ที่จะมาสร้างสีสรรค์ สร้างความสุข และความสนุกสนานให้กับแขกทุกท่าน รอบๆ The Piazza Atrium จะเต็มไปด้วย ร้านอาหาร ชอปต่างๆ และเสน่ห์ของ The Piazza Atrium คือบันไดวนสีทองสวยงาม เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเป็นที่ซู๊ด และลิฟท์แก้วที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บนเรือได้อย่างรอบด้าน สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุดค่ะ พิกัดตั้งอยู่บนชั้น 5 บนเรือค่า
 

 
 
 
Movies Under the Stars ชวนคู่รักมาเพลิดเพลินไปกับการชมภาพยนตร์ ที่ฉายตลอดทั้งวัน และทั้งคืน จะทำให้วันล่องเรือเป็นวันที่ไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ ด้วยจอภาพยนตร์ขนาดยักษ์ตรงลานกลางแจ้งริมสระน้ำที่ฉายทั้ง ภาพยนตร์สนุกๆ สารคดี เกมส์กีฬาที่น่าตื่นเต้นต่างๆ อ้อ.. ที่สำคัญที่นี่เขามีบริการข้าวโพดคั่ว หรือป๊อปคอร์นให้ทานฟรีด้วยนะคะ 
 

 
  
 
Princess Fine Arts Gallery ชื่นชมผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ภาพศิลปะเหล่านี้เป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่น Thomas Kinkade, Peter Max และ Michael Godard ไฮไลท์ของที่นี่ คือ ท่านสามารถเข้าไปดูบรรยากาศการประมูลผลงานศิลปะ และการเสนอราคาที่น่าตื่นเต้น และลุ้นไปตามๆ กัน ทั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ค่ะ
 

 
 
 
สถานที่สุดฮิต หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ที่ International Cafe เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงค่ะ มีทั้งสแน็คทานเล่น ขนมปัง คุ๊กกี้ ชา กาแฟ สำหรับมื้อกลางวันจะมีทั้ง สลัด แซนวิท ให้ได้ทานกันจนอิ่มแปล้ เอาเป็นว่าตกดึกตอนกลางคืน หากใครที่ท้องร้องจ๊อกๆ ให้ลงมาที่ชั้น 5 โซน Piazza นะคะ
 

 
 
 
Gelato ร้านไอศกรีม Frosty & Savory สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ คำเดียวละลายในปาก รสชาติหอมหวานแสนอร่อย เป็นที่ถูกใจแก่เหล่าน้องๆ นู๋ๆ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ เค้กวาฟเฟิล สมูทตี้น้ำผลไม้ปั่น และยังมีไอศครีมที่ผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปราศจากแอลกอฮอล์ มีทั้งหมด 20 รสชาติให้เลือก อิอิ และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ Crespelle หรือเครปอิตาลีนั่นเองค่า โรยหน้าด้วยกล้วยหอม และราดด้วยช็อกโกแลต เป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ พิกัดมากันได้ที่ชั้น 5 บนเรือค่า 
 

 
  
 
Vines ตั้งอยู่บนชั้น 5 ค่ะ โซนนี้เหมาะสำหรับผุ้ที่ชื่นชอบไวน์ ภายในห้องตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยโต๊ะไม้สีทอง หน้าต่างเปิดรับแสงจากธรรมชาติ ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและสบายๆ ที่ Vines แห่งนี้มีไวน์นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลกที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ในช่วงก่อนมื้ออาหารค่ำ ที่นี่จะมี Tapas อาหารว่างสไตล์สเปน และ Sushi ซูชิสไตล์ญี่ปุ่น ให้ทานเล่นๆ พร้อมจิบไวน์เรียกน้ำย่อยไปพรางๆ ค่า
 

 
 
 
Crown Grill Bar บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 7 ค่ะ เป็นบาร์ขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศน่านั่งเป็นที่สุด ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา ด้วยเก้าอี้ไม้ และ โคมไฟที่มาพร้อมกับแสงสีทองนวล สวยงาม และอบอุ่น เป็นอีกหนึ่งโซนที่เหมาะกับ การมากับกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อจิบค็อกเทลเย็นๆ พร้อมพบปะพูดคุยสบายๆ ก่อนได้เวลาอาหารมื้อค่ำค่า
 

 
 
 
Lotus Spa วันแรกแห่งการล่องเรือสำราญ เราขอแนะนำให้มาที่สปาแห่งนี้ เพื่อผ่อนคลายสบายทั้งกายและใจเป็นที่ซู๊ดดด Lotus Spa ตั้งอยู่บนชั้น 5 บนเรือค่ะ แขกสามารถเลือกการนวดบำบัด หรือทำทรีทเม้นท์ รวมถึงดูแลผิวพรรณ ผิวน้ำ อีกทั้งยังมีบริการตัดผม ทำเล็บ ภายในยังมีทั้งห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำ และห้องน้ำส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แบบครบครัน รับรองว่าให้อารมณ์ที่ผ่อนคลาย และเป็นวันพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งวันนึงอย่างแน่นอน
 

 
 
 
Fitness ศูนย์ออกกำลังกายฟิตเนสแห่งนี้ จะตั้งอยู่ชั้น 17 บนเรือค่ะ ภายในมีอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ครบครัน ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องยกน้ำหนัก เครื่องปั่นจักรยาน พร้อมบรรยากาศวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลที่สวยงาม นอกจากนี้ภายในยังมีสตูดิโอสำหรับเต้นแอโรบิค ห้องพิลาทิส ห้องเรียนเต้น Zumba และอื่นๆ ทั้งนี้หากทำกิจกรรมที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการฝึกสอนหรือเทรนเนอร์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ ศูนย์ฟิตเนสจะเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าเป็นต้นไปค่า 
 

 
 
 
Sports Courts สนามกีฬาขนาดใหญ่บนเรือ ตั้งอยู่ชั้น 18 ค่า เอาใจสำหรับผู้ที่รักกีฬา แนะนำว่าให้ชวนเพื่อนๆ มากันได้ที่ชั้นดาดฟ้า กิจกรรมกีฬาในโซนนี้ มีทั้งบาสเกตบอล เทนนิส วอลเลย์บอล แบดมินตัน ฟุตบอล มินิกอล์ฟ และ ปิงปอง เป็นต้น
 

 
 
 

ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารพิเศษ 

 
Allegro Dining Room ห้องอาหารหลักแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 6 บนเรือค่ะ เปิดให้บริการทั้ง 3 มื้อ เช้า กลางวัน และมื้อค่ำ ภายในมีพนักงานเสิร์ฟที่คอยให้บริการอย่างดีเยี่ยม มื้อเช้าจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา  7.00 น. ถึง 9.00 น. มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11:30 น. ถึง 13.00 น.และสำหรับมื้อค่ำเปิดให้บริการสองรอบ รอบแรก 17.30 น. และ รอบสองเวลา 19.45 น. เมนูมีให้เลือกมากมายหลากหลายค่ะ มีทั้ง ซุป สลัด อาหารจานหลัก จำพวกเนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารตามสั่ง รวมทั้งมีเมนูของหวานตบท้ายอีกมากมาย 
 

 
 
 
Concerto Dining Room ห้องอาหารแห่งนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้นค่า ตั้งแต่เวลา 17.30 - 22.00 น. ให้บริการสองรอบ รอบแรกเวลา 17.30 และรอบสองเวลา 19.45 น. สำหรับเมนูอาหารจะเหมือนกับห้องอาหารหลักอย่าง Allegro Dining Room ค่ะ พิกัดมากันได้เลยที่ชั้น 6 บนเรือ
 

 
 
 
Alfredo's Pizzeria เอาใจสำหรับคนรักพิซซ่าโดยเฉพาะ อิอิ ห้องนี้จะเปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวัน และมื้อค่ำค่ะ เมนูที่โดนใจก็คงหนีไม่พ้น พิซซ่าชีสหนานุ่ม ตามมาด้วยพาสต้าสุดแสนอร่อย และสลัดทานตบท้าย แขกสามารถเพลิดเพลินไปกับการดูวิธีการทำพิซ่าของเหล่าเชฟได้ค่า Alfredo's Pizzeria เปิดให้บริการเวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. บรรยากาศสบายๆ มากันได้ที่ชั้น 6 บนเรือสำราญค่า
 

 
  
 
World Fresh Marketplace Buffet and Bistro ห้องอาหารนี้เรียกได้ว่าเป็น Horizon Court บนเรือเลยก็ว่าได้ค่ะ เป็นห้องอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ข้าวโอ๊ต, ซีเรียล, ขนมปังปิ้ง, ไข่ต้มสุก, แซนวิช, พาสต้า, ปลาแซลมอนรมควัน, ชีส, ผลไม้ และโยเกิร์ต ไข่ทอดและไข่เจียว สามารถสั่งทำได้ นอกจากนี้ยังมีอาหารเอเชียที่มีทั้งแกงจืด ซุปร้อนๆ และติ๋มซำอีกด้วย พิกัดมากันได้ที่ชั้น 16 บนเรือสำราญ เปิดให้บริการสำหรับมื้อเช้า ตั้งแต่เวลา 5.30 น. ถึง 11.30 น. มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 14.00 น.และมื้อค่ำเวลา 17.30 น. ถึง 23:00 น.
 

 
 
 
Sabatini’s Restaurant เป็นห้องอาหารอิตาเลียนค่ะ ให้บริการอาหารอิตาเลียน และอาหารทะเลแบบ 3 คอร์ส เปิดให้บริการในช่วงมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 23.00 น. และต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้นค่า อาหารรสชาติเลิศ ถูกรังสรรค์โดยเชฟชาวอิตาเลียน นั่นก็คือ Angelo Auriana เชฟที่มีชื่อเสียงจากห้องอาหาร The Factory Kitchen และ Officine Brera ท่านจะได้ลิ้มรสอาหารในเมนู พาสต้าที่มีรสชาติไม่ซ้ำใคร ปรุงด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ ด้วยกลิ่นอายของอาหารอิตาเลียนแท้ๆ และมีเมนูซีฟู้ดและอื่นๆ อีกมากมาย แนะนำให้ต้องไปลองสักครั้งค่า
 

 
 
 
Chef's Table Lumiere ห้องอาหารพิเศษที่ตั้งอยุ่บนชั้น 6 ค่ะ มีค่าใช้จ่ายประมาณ $115 ต่อท่าน ห้องอาหารแห่งนี้ต้องทำการจองล่วงหน้า และจำกัดแขกได้เพียง 12 ท่านต่อคืนเท่านั้น โดยมีเมนูอาหารค่ำที่ถูกรังสรรค์โดยสุดยอดเชฟ พร้อมจับคู่กับไวน์ หรือแชมเปญที่เข้ากันเป็นที่สุด บรรยากาศภายในหรูหรา ด้วยโต๊ะรูปวงรี พร้อมกับโคมแชนเดอเลียร์สีทองสวยงาม หากใครที่ชื่นชอบบรรยากาศการรับประทานอาหารที่เป็นส่วนตัวแบบนี้แนะนำให้มาที่ Chef's Table Lumiere จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนค่า
 

 
 
 
Ocean Terrace เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานอาหารทะเล เมนูแนะนำ อาทิเช่น หอยนางรม ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปูทะเล และ กุ้งล็อบสเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ร้านอาหารพิเศษแห่งนี้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่า 
 

 
 
 
Crown Grill ร้านอาหารพิเศษสำหรับผุ้ที่ชอบทานสเต็ก ต้องมาที่ Crown Grill ตั้งอยู่บนชั้น 7 ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นสเต็กที่ดีที่สุดในท้องทะเล มีทั้งเมนูเนื้ออย่างดี รวมถึงอาหารทะเลสดใหม่อย่าง กุ้ง และหอย บรรยากาศภายในห้องอาหารให้อารมณ์สุดคลาสสิค และอบอุ่น ที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.30 ถึง 21.30 น. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ