หญิงปุ๊ก พาเที่ยว วิลาวัลย์ แก้วเขียวบริสุทธิ์ บริจาคเลือดครั้งแรกในชีวิต รวมถึงบริจาคอวัยวะ และดวงตา สภากาชาดไทย

ข้อมูลการบริจาคโลหิต กับสภากาชาดไทย www.redcross.or.th/donate/blood

อัพเดท: หลังๆ บริจาคโลหิตไม่ได้ เพราะเลือดจาง ได้แต่ยาธาตุเหล็กมาทาน

 

20 มีนาคม 2016

ปุ๊กมุ่งมั่นไปบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะ บริจาคดวงตา ให้สภากาชาดไทย หลังจากดูซีรีย์เกาหลี Descendants of the Sun ที่พระเอกเป็นทหาร นางเอกเป็นหมอ เห็นเค้าได้ช่วยชีวิตคนเจ็บ คนใกล้จะตายให้รอดชีวิต โคตรเท่ห์อ่ะ เอามั่ง 555



1. บริจาคเลือดครั้งแรก ตื่นเต้นนิดหน่อย เข้าไปก็กรอกข้อมูล วัดความดัน และตรวจเลือด ตอนตรวจเลือด นางพยาบาลบอกว่า เลือดดี จมดี ทิ้งดิ่งดี เข้มข้นดี แหม่.. หน้าตาก็ดูดี มีสง่าราศี พักผ่อนเพียงพอ ทานอาหารมาแล้ว เยี่ยม.. พิเศษให้เลย บริจาคถุงใหญ่เลยมั้ยหละ (เด๋วๆๆ มาครั้งแรก เอาถุงเล็กหยั่งเชิงก่อนมั้ยคะ ไม่ต้องจัดพิเศษให้หนูหรอกค่า เกรงใจ 555) และก็นั่งขำกัน..

แอนโทรมาถามว่า ทำไรอยู่ ปุ๊กตอบว่า อ๋อ มาบริจาคเลือด ดูหนังเกาหลีละอิน อยากบริจาค แอนบอก เพี้ยนละ 555 ป่านนี้พระเอกปลื้ม นางเอกดีใจละ ที่ได้เปงแรงบันดาลใจ ฮาาา นั่งหัวเราะคนเดียว ต้องรีบวาง เตรียมตัวขึ้นเขียง

พยาบาลที่มาเจาะเลือด บอกว่า รอแป้บนึงนะคะ พอดีวันนี้มีลาหยุด 2 คนแหน่ะ คนที่เค้าเจาะประจำๆ ไปเข้าห้องน้ำอยู่ (ค่ะ แล้วใช้เวลากี่นาทีเหรอคะ) ก็ไม่เกิน 15 นาทีค่ะ นี่รีบเหรอ เด๋วพี่เจาะให้เลยมั้ย (เอ้ยๆๆ หนูไม่รีบ รอคนที่เจาะประจำๆ ดีกว่าค่ะ หนูไม่รีบจริงๆ นะ 555)

พอนางพยาบาลมือเจาะมา เจาะก็ไม่เจ็บนะ สายรัดแขนเจ็บกว่านิดนึง แล้วก็ปวดชิ้งฉ่องมาก เค้าบอกให้ดื่มน้ำ 3-4 แก้วก่อนบริจาค นี่จัดไป 6-7 แก้ว รอเสร็จค่อยไปเข้าห้องน้ำ

ใช้เวลาบริจาคเลือดไป 7.42 นาที เร็วเหมือนกัน เลือดวิ่งดี นอนร้องเพลงจบไป 2 เพลง ได้ยาธาตุเหล็กมา 1 ถุง (ปกติเป็นคนไม่ชอบกินยา แงบๆ) นางพยาบาลบอกอีกสามเดือนเจอกันใหม่นะคะ สวัสดีขอบคุณนางพยาบาล

ปุ๊กเดินออกไป เห็นชานมไข่มุก เลยซื้อมา 3 แก้ว เดินกลับเอาไปให้พี่ๆ นางพยาบาล แลทำงานเหนื่อย จริงๆ เลิกงาน 6 โมงเย็น แต่ 6 โมงกว่าแล้ว ยังมีคนนั่งรอ ต่อคิวบริจาคอยู่อีกประมาณ 10 คนแหน่ะ ทั้งที่เค้าปิดรับคิวไปตั้งแต่บ่าย 4 กว่าแล้ว

2. บริจาคอวัยวะ หัวใจ ตับ ไต ปอด ก็กรอกเอกสาร เซ็นต์ยินยอมแค่นั้น รอเค้าบันทึกและส่งบัตรมาให้ที่บ้าน

ถ้าเราเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แบบสมองตาย อายุไม่เกิน 60 ปี หรือแล้วแต่แพทย์วินิจฉัย อวัยวะของเรา สามารถเอาไปช่วยเหลือคนอื่นได้ 2-7 คน และจากสถิติประเทศไทย มีผู้บริจาคอวัยวะ 2 คนต่อปี ต่อประชากร 1 ล้านคน หรือคร่าวๆ ร้อยกว่าคนต่อปีเท่านั้นเอง แต่มีผู้ขอรับบริจาคเยอะ ค่อนข้างขาดแคลน มักตายก่อนได้รับบริจาคอวัยวะ อย่างไต รอกันเกิน 4 ปีกว่าจะได้ ระหว่างนั้นก็เข้าออกรพ. ไปฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

3. บริจาคดวงตา สำหรับคนที่มองไม่เห็น คนเป็นต้อ ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ก็ขาดแคลนอยู่เหมือนกันค่ะ

จบการบริจาค

คิดว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สวยที่สุดในชีวิต กิ้วๆๆๆ

ถ้าตายเร็ว อย่างน้อย ร่างกายก็ยังมีประโยชน์
ถ้าตายช้า อายุยืน ตัวเราก็น่าจะสร้างประโยชน์ให้คนอื่นได้ระดับนึง

ตายเร็ว ตายช้า ก็ Win-Win เน้อะ