สวัสดีมิตรรักแฟนเพจทุกท่านค่า เนื่องจากว่า มีหลายคนสงสัยว่า จะไปเที่ยวเมืองหนาว ทั้งแบบหนาวมากหนาวกลางหนาวนิดหน่อย ตั้งแต่อุณหภูมิ 20 องศา ถึงติดลบ 10 องศา จะแต่งตัวยังไงดีนะ มากไปก็กลัวกระเป๋าไม่พอใส่ชุด น้อยไปก็กลัวหนาวเอาไม่อยู่ ปวดหูหน้าชาปากสั่นหนักมาก ดังนั้นวันนี้หญิงปุ๊กเอลซ่าแสนใจดี ขอนำเสนอเคล็ดลับการแต่งตัวไปเที่ยวเมืองหนาวแบบนำไปใช้ได้จริง ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันค่า รับรองว่าเอาอยู่
ส่วนอุปกรณ์ แต่งองค์ทรงเครื่องสวยๆ ที่เรานำมาใช้ประกอบเป็นตัวอย่าง เป็นของ The North Face นะจ้ะ แบรนด์อเมริกา สินค้าเยี่ยม มาตรฐานสูง กันหนาวได้จริง ไม่ต้องมาลุ้น เป็นผู้นำด้านเสื้อเดินทาง ฝ่าความหนาว หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า เอ้าท์เล็ท และสนามบิน ทั้งหมด 45 สาขาทั่วไทย ค้นหาช้อปและแผนที่ได้ที่  The North Face Thailand
อ้อๆ... แล้วก็เรามีแถมปิดท้ายเป็น รีวิวเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่ประเทศญี่ปุ่นของปีที่แล้ว ที่กำลังจะจัดขึ้นอีกเร็วๆ นี้ในวันที่ 6-12 ก.พ. 2017  ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับโลก ที่คนไทยภาคภูมิใจ เพราะเราไปแกะสลักหิมะที่นู่นทีไร ได้แชมป์ทู๊กกกที เก่งมากกกเลยค่ะ นี่ขนาดบ้านเราไม่มีหิมะนะเนี่ย ขอคารวะ ปรบมือรัวววว..
#Thenorthfacethailand
 

15°C - 20°C

เอาหละเริ่มกันเลยดีกว่า เบาๆ ก่อนที่อุณหภูมิ 15-20 องศา ก็ชิลๆ เน้อะ ใส่เสื้อแขนยาว หรือแบบคอเต่าเก๋ๆ กางกางขายาว หรือยีนส์เท่ห์ๆ คู่กับรองเท้าผ้าใบใส่สบาย ถ้าจะหวานๆ ก็ใส่เลกกิ้ง กับบูทสั้น ส่วนคนขี้หนาวมาแบบจัดเต็ม ใส่เสื้อคลุมคาดิแกน สเวตเตอร์ หรือเสื้อหนังเพิ่มชั้นนึงค่ะ 




 

10°C - 15°C

ระดับต่อมา อากาศเย็นๆ กำลังดี สบายๆ ใส่เสื้อแขนยาว ตามด้วยเสื้อคลุมมีฮู้ด หรือแจ็คเกตน่ารักๆ ก็เอาอยู่ค่ะ หรือถ้ามาเต็ม ก็เสื้อฟรีซ (Fleece) ทับด้วยเสื้อโค้ทแบบเซเลป ดุจดั่งกำลังจะไปเดินแฟชั่นวีค ซึ่งเสื้อโค้ทยาวๆ เนี่ย จะช่วยกันหนาวได้ดีขึ้น อาจจะยาวลงมาถึงใต้เอว หรือถึงเข่า แต่อย่าให้ยาวถึงข้อเท้านะคะ เดี๋ยวคนอื่นดูออกว่าเราเตี้ย 555 นอกจากนี้งานพร๊อพต้องมี เดี๋ยวเซลฟี่ไม่สวย พันผ้าพันคอแบบเก๋ๆ ที่ทำได้เป็นสิบๆ แบบ ลองไปฝึกพันกันดู แล้วจะสดชื่น สุดท้ายจบด้วยถุงเท้าหนา กันเท้าเย็นจ้า

 

 

5°C - 10°C

ขั้นถัดไป อุณหภูมิเลขตัวเดียว คือว่าหนาวแล้วหละ อุปกรณ์ไม่พร้อมมีสั่นค่ะ หลายๆ คนเจออากาศประมาณนี้ แล้วเสื้อไม่พร้อม ทำให้เข็ด ไม่กล้าไปเมืองหนาวๆ อีก ฉะนั้นจำไว้ว่า ชุดต้องพร้อม แล้วชีวิตจะดี๊ดี ปกติหญิงปุ๊กเป็นคนไม่ขี้หนาวมาก ชอบแบบว่า ไม่ต้องลองจอห์น ก็จะใส่เป็นโค้ทหนาๆ หรือเสื้อกันหนาวหนาๆ นุ่มๆ ตัวเดียวไปเลย แล้วใส่เลกกิ้ง และบูทยาวเอา

ส่วนแบบจัดเต็ม สำหรับคนขี้หนาว คือเสื้อ Base Layers (ลองจอห์น) ด้านใน ไว้ช่วยรักษาระดับความอบอุ่นในร่างกาย ต้องใส่ให้พอดีตัว ให้กระชับ ไม่ให้ลมผ่านเข้าไปนะคะ ตามมาด้วยเสื้อแขนยาวแบบหนา หรือเสื้อฟรีซ (Fleece) แล้วแต่ชอบ แล้วก็ปิดท้ายด้วยโค้ทสวยๆ ค่า หาแบบที่ทำจากขนสัตว์ก็ใช้ได้ ส่วนคอก็ใช้ผ้าพันคอทำจากขนสัตว์เช่นกัน หรือถ้าใส่เฟอร์ ก็จะดูไฮโซโบว์ใหญ่ค่ะ

ส่วนครึ่งล่างของเรา ขาชักจะหนาวแล้วนะ ต้องใส่กางเกงหนาๆ มีแบบชนิดกันหนาว กันลมได้ 80% หรือใส่เลกกิ้งสองชั้น หรือเป็นเลกกิ้งชั้นใน และยีนส์ชั้นนอก ส่วนพร๊อพ ผ้าพันคอต้องมี คอต้องอุ่นไว้ก่อน แล้วก็เลือกหมวกไหมพรม ที่ยาวลงมาปิดหู จำเป็นมากกกก ไม่งั้นจะหนาวจนปวดหู หูแข็งไปหมด ยิ่งเราหูกางๆ นี่ โต้ลมมากมายค่าา 555



เสื้อคลุม The North Face เดี๋ยวนี้ออกแบบมาให้ดูวัยรุ่น ทันสมัยมากขึ้น ขนสีเทาปุกปุย อบอุ่น ชอบมาก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตา ฮาาา ไม่เชื่อลองไปจับผ้าดูที่ร้าน นิ่มมากๆ ซิปมีความเท่ห์ เอียงขวา ตามสไตล์เด็กแนว แล้วก็รองเท้าเป็นบูทยาว มีขนข้างใน และพับข้อได้ค่ะ



หูเราค่อนข้างบอบบาง ควรใช้หมวกที่ปิดลงมาถึงหู กันหูหนาว



Base Layer (ลองจอห์น) ใช้แบบมีซิปหรือไม่มีซิบผ้าก็ได้ แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน ซึ่งผ้าชนิดนี้ผลิตมาจากเทคโนโลยี ที่เรียกว่า FlashDry ระบายความชื้นได้ดี ไม่สะสมเหงื่อ ไม่ทำให้มีกลิ่นอับชื้น สำหรับใส่ไว้ข้างในชั้นในสุด

และใช้หมวกไหมพรม ทรงปิดหู รับรองว่าหูคุณจะได้รับการปกป้องขั้นสูงสุด อาจมีเปียถักห้อยไว้ให้ดูเก๋ๆ ด้วยค่ะ ส่วนผ้าพันคอควรเตรียมไปทั้งแบบบางและแบบหนา สลับใส่กันในอาคารและนอกอาคาร


 

0°C - 5°C

อิอิ ตอนนี้เราดำเนินมาถึงจุดเยือกแข็งแล้วนะคะ อาจจะมีโอกาสได้เจอหิมะบ้างนิดหน่อย ตัวเราเริ่มจะบวมเป็นแหนมป้าย่นละ 555 ใส่หลายๆ ชั้นเพื่อป้องกันความหนาว ข้อสำคัญคือใส่ให้พอเหมาะพอดี น้อยไปก็หนาว มากไปก็หนาวค่ะ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเวลาเราใส่หลายๆ ชั้นเกินความจำเป็น เหงื่อจะออกค่า แล้วพอเหงื่อออก น้ำเกาะอยู่บนผิวหนัง เวลาเจอลมเย็นๆ เข้าไปสมทบ หนาวไปอี๊ก ฉะนั้นต้องเดินสายกลาง ใส่ให้พอดีๆ ไม่พอก็เติม เกินไปต้องถอด เยอะๆ ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป

ส่วนคนที่ขี้หนาว แบบจัดเต็ม ก็ใส่ 4 ชั้นนะคะ เริ่มด้วยลองจอห์น (Base Layer) เสื้อฟรีซ (Fleece) เสื้อขนห่าน (Down) หรือใยสังเคราะห์ (ThermoBall) และเสื้อกันน้ำกันลม (Shell)  ถ้าเราไปเที่ยวแบบธรรมชาติที่ต้องเจอลมแรงๆ อาจจะทำให้หนาวกว่าปกติก็ควรมีเสื้อกันน้ำกันลมติดไว้สักตัว ซึ่งผ้าของเสื้อรุ่นนี้ จะผลิตมาจากเทคโนโลยี Gore-Tex และ Dryvent ค่ะ

แล้วก็อาจใส่ที่ปิดหูกันหนาวโดยเฉพาะเพิ่มเติม เพื่อป้องกันหู มีหลายแบบหลายลาย แล้วแต่ชอบ ส่วนหน้า บางคนขอผ้าปิดหน้าเสริมทัพด้วย เพราะหน้าเราจะโดนลมตีจนเย็นชา ตบซ้ายตบขวาก็ไม่รู้สึก มีปากชา เปลี่ยนสีเป็นสีเขียวบ้างประปราย แถมมีลอกแตกเป็นขุยๆ เลือดซิบๆ อีก แนะนำให้เตรียมครีมมอยเจอไรเซอร์ Jergen เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังด้วยจ้ะ ของเค้าดีจริงๆ หญิงปุ๊กใช้แบบ Extra Dry เลยนะ ผิวดี ไม่มีเป็นขุยเลย ส่วนลิปมันต้องติดตัวไว้ตลอด แห้งทาแห้งทา แล้วก็มีน้ำตาเทียมสำหรับคนที่ตาแห้งง่าย หรือใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ


 


ชุดสีชมพู เป็นเสื้อใยสังเคราะห์ (ThermoBall) ถูกพัฒนามาทดแทนขนห่าน ที่ให้ความอบอุ่นเทียบเท่าขนห่าน 600 (Fill down) สามารถรักษาความอบอุ่นได้ดี ไม่ต้องเอาไปซักแห้ง และราคาไม่แพงเท่าขนห่าน หญิงปุ๊ก ชอบตรงที่ใส่แล้วไม่อ้วน มียางยืดให้รูดตรงเอว มีกระเป๋าด้านข้างให้เอามือเข้าไปซุกได้ คุ้มค่ามาก เหมาะสำหรับอุณหภูมิเลขตัวเดียวค่ะ



เรื่องถุงมือก็สำคัญมาก นิ้วอันผอมเพรียวของเราอาจหนาวจนเจ็บ ทรม๊านทรมานจนอยากจะซุกมือไว้ในเสื้อตลอดไป ไม่อยากจะเอาออกมาโชว์ใคร แต่ไม่ได้ค่ะ เราต้องใช้ถือของ ถ่ายรูป เล่นโซเชียล ต้องทำให้มันอบอุ่น และใช้งานได้ ด้วยการซื้อถุงมือที่เป็นแบบเปิดปิดนิ้วได้ หรือแบบเต็มนิ้ว ที่มีระบบสัมผัสทัชสกรีนได้ หรือเรียกว่า ETIP ทำให้กดมือถือสะดวก เล่นเฟซได้ ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก

แล้วที่อยากจะเน้นอีกอย่าง คือเรื่องของรองเท้าจ้ะ ควรใส่แบบเกาะถนน ไม่ลื่น เผื่อเจอน้ำแข็ง หรือหิมะ หรือฝนตกพรำๆ ถ้าเราล้มที เรื่องใหญ่เลยนะคะ ค่าพยาบาลที่เมืองนอกมันแพง ขอร้องอย่าล้ม 555 ไม่ช่ายละ จริงๆ พอล้มขึ้นมา ขากะเผลก เอวเคล็ด กระดูกหัก ก็พาลจะทำให้หมดสนุกไปเลย แล้วคือในอากาศหนาว จะเจ็บมากกว่าปกติ ต้องระวังให้มากๆ หญิงปุ๊กเคยล้มหลายครั้ง มันช่างเจ็บลึก แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะเราเตี้ย ล้มเตี้ยๆ โอเค้ แต่มีเพื่อนที่ตัวสูงใหญ่หน่อย ล้มทีคือกระดูกแตก ต้องเข้าเฝือก เสียหายหลายแสนเลยค่ะ รองเท้าสำคัญมากจริงๆ และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก คือใช้รองเท้าที่มีขนข้างใน จะช่วยรักษาความอบอุ่นให้เท้าได้เป็นอย่างดี หนาวมากๆ เท้าชา เหน็บกิน ตะคริวกินได้ค่ะ หรือใส่ถุงเท้าหนาๆ ที่เป็นขนสัตว์ wool ถุงเท้าไหมพรม แทนก็ได้
รองเท้าแบบมีขนด้านใน ทำให้เท้าอุ่น เดินสบายได้ทั้งวัน กันน้ำได้ระดับนึง มีความเป็นแฟชั่น น่ารัก cute cute เดินใส่เล่นในเมืองได้

 

 

-10°C - 0°C

และมาขั้นสุดท้ายที่อุณหภูมิติดลบ ชุดก็ต้องจัดเต็มขั้นสุด กันหนาวตายค่ะ 555 ต้องเอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้ อย่าประมาทเป็นอันขาด หญิงปุ๊กเคยทั้งหน้ามืด ดาวขึ้น ปากสั่นขนลุกซู่ มือแข็งจนไร้ความรู้สึก และเท้าเย็นจนตะคริวกิน ทรมานไปทั้งร่าง หนาวเข้ากระดูก เพราะชุดไม่พร้อมนี่แหละ พูดถึงสมัยที่เริ่มเดินทางใหม่ๆ นะคะ ก็เราไม่รู้อ่ะเน้อะ เลยจัดเบาเกิ๊น แถมไปที่ธรรมชาติสุดๆ ขึ้นไปบนยอดเขานู่น หาชุดเติมไม่ได้ พระเจ้าจอร์จ เข็ดมาก ฉะนั้นระดับนี้ ควรจัดชุดสกี เหลือๆ ไว้ให้อุ่นใจดีกว่าค่ะ เอาแบบลงไปนอนกลิ้งบนหิมะแล้ว ยังโอเค สบายตัวหายห่วง
ขั้นเต็มนี้ เราจะใส่กัน 4 ชั้น ได้แก่ ลองจอห์น (Base Layer) เสื้อฟรีซ (Fleece) เสื้อขนห่าน(Down) หรือใยสังเคราะห์ (ThermoBall) และเสื้อกันน้ำกันลม (Shell) หรือชุดสกี หรือถ้าเป็นสายแฟชั่น หรูหรา แนะนำให้ใส่เฟอร์ มันอุ่นมากกกก มันเอาอยู่ มันสบายมาก แต่ราคาก็ทำเอาใจสั่น หนาวไปทั้งตัว อยู่ที่หลักหมื่นหลักแสนค่ะ มีงบค่อยจัด




ลองจอห์น (Base Layer) มีหน้าที่รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ใส่ไว้แนบตัว นุ่มๆ ผ้าสร้างมาจากเทคโนโลยี Flash Dry คุณสมบัติที่ดี คือต้องสามารถระบายความชื้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันเหงื่อสะสม ที่อาจทำให้มีกลิ่นเหม็นอับ ตัวนึงใส่ซ้ำได้หลายวัน แต่อย่านาน เดี๋ยวเต่าเรียกแม่ค่ะ อิอิ

เสื้อฟรีซ (Fleece) หรือใส่เสื้อคอเต่า แขนยาว จริงๆ เป็นเสื้ออะไรก็ได้ที่ชอบ ที่ถอดโค้ทออกมาแล้วยังดูดีค่ะ



เสื้อขนห่าน (Down) ลักษณะเสื้อเป็นปล้องๆ เมื่อใส่ขนเข้าไปข้างใน ทำให้คงความอบอุ่นจากร่างกายเราไว้ได้นาน จะมีลักษณะเบากว่า บางกว่า  เสื้อขนเป็ด ในระดับความอุ่นเดียวกัน คนที่อยากให้ใส่เสื้อกันหนาวหลายๆ ชั้นแล้วยังดูตัวผอมบาง มักจะเลือกใช้ขนห่านแทนขนเป็ด เป็นการลงทุนเพิ่มนิดนึง แลกกับความงาม และความเบาสบายจ้ะ โดยเวลาที่เราจะซื้อ ต้องดูค่า Fill Power ที่ใช้ระบุความหนาของขนที่ใส่ในเสื้อ เช่น 550, 600, 700, 800, 900 ยิ่งค่ามาก ยิ่งดียิ่งอุ่น แต่ราคาก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย ค่า 550 เหมาะสำหรับอากาศเย็น 600 เย็นมาก 800 หนาวมากค่ะ
ข้อมูลสำคัญอีกอย่างคือ ขนห่านและขนเป็ด ไม่สามารถเปียกน้ำได้ พอเปียกปุ๊บ มันจะไม่ฟู และไม่สามารถเก็บความร้อนได้เลยค่ะ เวลาใส่อย่าให้เปียก วิธีง่ายๆ คือใส่เสื้อแจ็คเก็ต แบบกันน้ำกันลม (Shell) ทับอีกทีนึง

เสื้อใยสังเคราะห์ เช่น รุ่น THERMOBALL ของ The North Face ที่ทำเลียนแบบเส้นใยขนห่านธรรมชาติ ให้ความอบอุ่นเทียบเท่าขนห่าน 600 (Fill Down) สามารถเปียกได้ และแห้งไว ไม่ทำให้ความสามารถในการเก็บความร้อนลดลง ดูแลรักษาง่าย และราคาถูกกว่าพอสมควร หากว่าเราไม่ได้ไปที่อุณหภูมิติดลบ ก็ใส่แบบใยสังเคราะห์ได้จ้ะ
เวลาดูแลรักษาต้องส่งซักแห้งเท่านั้น ควรเลือกร้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ด้วยค่ะ หรือหากต้องการซักเอง เราจะซักกับน้ำยาซักผ้าปกติ  เลี่ยงการใช้น้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของน้ำยาปรับผ้านุ่ม ส่วนตอนตากแดดแนะนำให้ตากในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเท อย่าให้โดนแดดตรงๆ นะคะ

เสื้อกันหนาวตัวนอก (Shell) หรือชุดสกี คุณสมบัติเด่นคือ กันน้ำและลม เพื่อให้สามารถเก็บความอบอุ่นให้อยู่กับตัวได้นานๆ ต้องไม่กลัวเปียก ไม่กลัวลม ไม่กลัวหิมะ  พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ลงไปกลิ้งกับหิมะได้ ตัวอุ่น ตัวแห้ง สู้หนาวได้สุดยอดเลยค่ะ แนะนำให้ซื้อเผื่อไซส์ปกติ ให้ใหญ่เพิ่มไว้ไซส์นึง เพราะเวลาที่เราต้องใส่เสื้อหลายๆ ชั้นเข้าไป มันจะติดรักแร้ ติดไหล่ ทำให้ขยับไม่ได้ จนรู้สึกอึดอัดค่ะ


ถุงมือ ติดลบเยอะๆ ให้ใช้แบบเล่นสกี หนาเป็นเครือกล้วย หยิบจับอะไรลำบากนิดนึง แต่รับรองว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์เลยค่ะ หรือใช้เป็นถุงมือหนังบุผ้า wool ข้างใน ที่หนังทำหน้าที่ช่วยกันลม wool ช่วยรักษาความอบอุ่นได้ค่ะ

รองเท้า ควรใช้แบบที่เดินบนหิมะได้ มีดอกเยอะๆ ลึกๆ กันน้ำ 100% มีขน หรือมีเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความร้อนไว้ที่เท้า ก็จะทำให้เท้าเราแห้ง และอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา เดินสบาย ไม่รัดเท้า ไม่ทำให้เจ็บเท้า หากเราใส่รองเท้าปกติ เดินบนหิมะแล้วจะลื่นไถล ยิ่งบนพื้นลาดเอียงด้วยแล้ว ทรงตัวลำบากมากค่ะ แล้วเวลาหิมะตก ถ้าไม่กันน้ำ เท้าเราจะเปียก เย็นชื้นแช่แข็งเลยทีเดียว แล้วถ้าไม่มีระบบรักษาความร้อน ความเย็นจากพื้นจะสามารถทะลุทะลวงขึ้นมาถึงฝ่าเท้า หรือลมเข้ามาเต็มๆ เท้าก็เย็นเจี๊ยบได้เหมือนกัน เท้าชาแล้วต้องฝืนเดิน คือเจ็บมากมาย สรุป.. ไปเมืองหิมะ ต้องใส่รองเท้าหิมะโดยเฉพาะค่ะ
นอกจากนี้ บางคนที่กลัวลื่นจริงๆ โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ ควรซื้อ สไปร์ ที่กันลื่น Shoe Spikes มาสวมกับรองเท้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจค่ะ

 

เรื่องสุขภาพก็ต้องเทคแทร์ อย่าลืมพกยาแก้ไข้หวัด ยาแก้แพ้อากาศแบบไม่ทำให้ง่วง เช่น Xyzal ไปด้วย ถ้ารู้สึกคัดจมูก น้ำมูกไหล ก็กินกันไว้ก่อนเลย เพราะป่วยแล้วจะหูอื้อ ขึ้นที่สูงหรือขึ้นเครื่องบินลำบาก ปวดหู จื้ดในหูได้ และที่สำคัญต้องมีฉลากภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วยนะคะ เผื่อตม.ขอตรวจ
นอกจากนี้ควรพกแว่นกันแดด เพราะบางวันมีแดด ที่ส่องมาสะท้อนกับหิมะ ทำให้ทุกอย่างดูขาวโอโม่ แสบตา แล้วก็พกครีมกันแดดทาหน้าด้วย ถึงแม้จะหนาว แต่ถ้าแดดมาแรง ผิวก็เกรียมได้ง่ายๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว กลับมามีงงตอนส่องกระจก หน้าไหม้ได้ไงน้า และสุดท้ายควรพกถุงร้อนเผื่อต้องการความร้อนฉุกเฉิน หนาวหนักมากเมื่อไหร่ ก็เอามาบีบ จับ ลูบ คลำให้หายหนาวได้ทันทีเลยค่ะ



เมื่อชุดพร้อมแล้ว เรามาแพลนเที่ยวกันเลยดีมั้ยคะ 555 ต้นเดือนหน้ามีเทศกาลใหญ่ที่ซัปโปโร หรือใครจะไปเล่นสกีก็ได้ เดือนกุมภาพันธ์นี้ หิมะนุ่ม และดีที่สุดในรอบปีเลยหละ เชิญชมรีวิว 9 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโร SAPPORO ประเทศญี่ปุ่นกันได้เลยจ้า https://goo.gl/ohIu8S
มีไฮไลท์เป็นเทศกาลหิมะซัปโปโร Sapporo Snow Festival ประเทศญี่ปุ่น ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2017, เทศกาลแสงเทียนแห่งโอตารุ Otaru Snow Light Path Festival จัดขึ้นวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2017 เวลา 17.00-21.00 น., ชมเพนกวินแคทวอร์ค ที่สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า Asahiyama Zoo และเที่ยวโรงงานช็อคโกแลตอิชิยะชิโรอิโคอิบิโตะ Shiroi Koibito Park ที่ตกแต่งได้น่ารักคิกขุมากเลยค่ะ

 


หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวเมืองหนาวกันนะคะ และอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันด้วยน้า ใครกดไลค์เพจหญิงปุ๊ก พาเที่ยวก็จะยิ่งน่าร๊ากกกที่ซู้ดดด ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกันน๊าาาค้าาา... 555