เที่ยวเมืองแห่งเทพนิยาย นูเรมเบิร์ก, Nuremberg เยอรมัน

เมืองนูเรมเบิร์ก
คิดว่าใครที่ได้มาเยือนนูเรมเบิร์ก อีกหนึ่งเมืองจากแคว้นบาวาเรียที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของแคว้น ก็คงอดที่จะตกหลุมรักเมืองนี้มิได้ แน่นอนว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันค่ะ เพราะครั้งแรกที่ย่างเท้าเข้ามาในเมืองแห่งนี้ ก็รู้สึกราวกับได้ก้าวเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยายยังไงยังงั้น กับความสวยงามน่าตื่นตะลึงของขุนเขา พระราชวัง บ้านเรือนสไตล์โรมัน ทางเดินแบบยุคกลาง โบสถ์โบราณแสนสวย
วิหารเซนต์ ลอเรนซ์ (St. Lorenz kirche)
นอกจากนูแรมเบิร์กจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างของที่นี่ก็มีเอกลักษณ์ที่สวยงามไม่เป็นสองรองใครเช่นกันค่ะ ไม่เว้นแม้กระทั่งทางเดินหินแบบยุคกลางที่ทอดยาวไปยังอาคารต่างๆ โดยที่แรกที่เราขอไปชื่นชมให้เห็นกับตานั้นคือ วิหารเซนต์ ลอเรนซ์ที่ตัวโบสถ์แต่ดั้งเดิมเนี่ยถูกทำลายไปตั้งแต่ช่วงสครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว แต่ที่เห็นปัจจุบันนี้คือเวอร์ชั่นบูรณะขึ้นมาใหม่ค่ะ การเข้าไปชมภายในโบสถ์ไม่เสียค่าเข้าชมนะ เมื่อเข้าไปแล้ว เราก็จะเห็นการตกแต่งในลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางที่ให้ความขลังและความสง่างาม แล้วพอออกมาจากโบสถ์แล้ว ข้างโบสถ์มีน้ำพุแห่งความดีงาม (Tugendbrunnen) บนสุดประดับด้วยรูปปั้นเทพีแห่งความยุติธรรม มือซ้ายถือตาชั่ง มือขวาถือดาบ ปิดตา เหมือนที่เราเห็นบ่อยๆ ตามจตุรัสต่างๆ ในยุโรป แต่ที่เพิ่มเติมคือ ที่ฐานน้ำพุด้านล่าง มีรูปปั้นเทพีอีก 7 องค์ ที่มีน้ำพุพ่นออกมาจากหน้าอก

นอกจากนี้ทางด้านตะวันตกของจตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ น้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain สูง 19 เมตร สีทองอร่าม ซึ่งประกอบไปด้วยรูปปั้นของเจ้าอิเล็คเตอร์ 40 องค์ นักบุญ ชาวยิว และรูปประดับอื่นๆ ถือได้ว่าเป็นน้ำพุที่อลังการมากที่สุดในเยอรมนี นักท่องเที่ยวที่มานี่ส่วนใหญ่ก็จะมาขอพรกัน วิธีการก็คือ ให้หมุนแหวนทองตรงน้ำพุเป็นจำนวน 3 รอบ โดยระหว่างที่หมุนแหวนก็ให้อธิษฐานสิ่งที่ต้องการไปด้วยค่ะ แล้วเราก็จะสมหวังกับสิ่งที่ขอ โอม.. เพี้ยง..!!!

ขอบคุณภาพจาก http://www.all-free-photos.com/images/villes-allemagne/PI44021-hr.jpg
คฤหาสถ์ขุนนางนัสเซา (Nassau House)
หนึ่งในตัวอย่างบ้านขุนนางชั้นสูง สมัยยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ด้านนอกตกแต่งดูเป็นเหมือนป้อมปราการค่ะ

เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ


จนถึง Heilig-Geist-Spital โรงพยาบาลเก่าแก่ของเมืองเก่าอยู่ติดแม่น้ำ Pegnitz

อีกมุมนึง สะพานเก่า Hangman's Bridge ข้ามแม่น้ำ Pegnitz

เดินผ่านไป เจอน้ำพุ

และไอติม วะฮะฮะฮ่า เรื่องกินเรื่องใหญ่


ตลาดคริสท์คินเดิล (Hauptmarkt)
เดินไปตาม Koning Strasse เรื่อยๆ ผ่านมิวเซียม ผ่านรูปปั้น จากนั้นก็จะเจอแยกแล้วเลี้ยวขวาก็จะพบกับ Hauptmarkt อยู่เบื้องหน้าแล้วล่ะค่ะ ซึ่งที่นี่ถือเป็นตลาดอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงในระดับโลกเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาสที่นี่จะเต็มไปด้วยข้าวของเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสวางขายมากมาย ดูละลานตาไปหมด แต่แม้ว่าเราจะไม่ได้มาช่วงเทศกาล ก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่จะไม่มีอะไรให้เที่ยวนะคะ เพราะนอกจากจะมีสินค้าทางการเกษตรอย่าง ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะดอกไม้ชนิดต่างๆ มาวางขายให้เราได้ใช้เวลาเดินแบบชิลล์ๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์สำคัญอีกแห่งของเมืองอย่าง Frauenkirche





โบสถ์เฟราเอน (Frauenkirche)
โบสถ์ Frauenkirche หรือโบสถ์แม่พระ เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึงสิบปี ที่นี่มีจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากก็คือ บริเวณยอดแหลมของโบสถ์ที่เป็นหอนาฬิกานั่นเองค่ะ โดยความพิเศษของมันก็คือ เมื่อเวลาเที่ยงตรงปุ๊บ เหล่าตุ๊กตาก็จะออกมาเต้นระบำให้เราชม นอกจากนั้นก็ยังมีหุ่นจักรพรรดิ และบริวารมาเล่นดนตรีขับกล่อมอยู่ข้างๆ อีกด้วย เราไปทันเห็นตุ๊กตาเต้นระบำพอดีเลยค่ะ



นอกจากนี้ยังมีบ้านของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ Albrecht Durer จิตกรและนักคณิตศาสตร์ที่โด่งดัง ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของ Northern Renaissance เป็น timber-frame house เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานของท่านค่ะ
