เที่ยวโรม Rome อิตาลี
ทริปเที่ยวโรม อิตาลี กรุงโรมเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลีจ้า มีคนอาศัยประมาณ 2.5 ล้านคนแน่ะ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยและน่าไปที่สุดอีกเมืองหนึ่งของอิตาลีเลยล่ะค่ะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม สถานที่เที่ยวต่างๆ คลุกเคล้าความคลาสสิคสไตล์ยุโรปที่คุณจะต้องหลงเลิฟฟฟ
โคลอสเซียม Colosseum
โคลอสเซียม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่โตแอนด์มโหฬารที่สุดในสมัยโบราณค่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.72 โดยจักรพรรดิเวสปาเซียน รูปทรงโค้งเป็นวงกลม ก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบ ยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น จุคนได้ถึงประมาณ 80,000 คนเลยทีเดียวว มีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังตอนฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบันเลยล่ะค่ะ งานที่สร้างในสมัยนั้นแต่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ น่านับถือฝีมือมากๆ โลยยย ปรบมือ!!!
ที่นี่เคยเป็นฉากในเกมการต่อสู้ที่ดุเดือดของกลาดิเอเตอร์หรือนักสู้ในโรมันด้วยนะคะ ในชั้นใต้ดินเป็นห้องสำหรับขังนักโทษที่รอประหารและสิงโตที่หิวโซมาสู้กัน ถ้านักโทษคนไหนเอาชนะฆ่าสิงโตได้ก็ได้รอดชีวิต แถมยังให้นักโทษและทาสมาประลองฝีมือกันเอง ถ้าสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตายก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมยกย่องกันเป็นอย่างมาก ในปีนึงนักโทษและทาสต้องเสียชีวิตเป็นร้อยๆ คน กิจกรรมนี้เค้าบอกว่าเพื่อความสุขของผู้ชมที่เข้ามาชมค่ะ…. เอ่ออ… หนูคนนึงที่ทนดูม่ายล่ายยยย ToT
และเมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมลง โคลอสเซียมก็ถูกข้าศึกทำลายหลายครั้ง ในปัจจุบันเหลือแต่ซากโครงสร้างไว้ให้ชมกัน แต่ก็ยังคงลักษณะเมืองที่โอ่อ่าและรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณได้จนถึงทุกวันนี้ค่า
มหาวิหารแพนธีออน Pantheon
มหาวิหารแห่งนี้มีอายุกว่า 2,000 ปีค่ะ อู้วววว แค่ดูอายุก็รู้แล้วว่าขลัง แต่เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา (Marcus Vipsanius Agrippa) ใช้เป็นเทวสถานสำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณและเป็นคริสต์ศาสนสถานของโรมันคาทอลิกค่ะ
ต่อมาได้รับการสร้างใหม่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 และก็ยังคงใช้งานกันมาตลอดตั้งแต่สร้างครั้งแรก แต่สภาพยังดีเหมือนเดิมเลย นอกจากกาลเวลาจะไม่สามารถทำให้มหาวิหารแพนธีออนผุพังไปได้แล้ว ยังเป็นสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วยค่า แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะในการสรรค์สร้างของสถาปนิกสมัยโบราณจริงๆ
ความน่าทึ่งนี้เริ่มตั้งแต่เสาหินแกรนิตขนาดยักษ์ด้านหน้าเลยล่ะค่ะ ที่เรียงตัวเป็นแนวยาวเหมือนวิหารกรีก แต่ละเสาทำจากหินก้อนเดียวเลยนะคะ ไม่ได้เอามาต่อกัน ตัววิหารไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักเลยทั้งที่มีขนาดใหญ่โตมากกก มีหลังคาโดมและมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา ช่องนี้เรียกว่าช่อง โอคูลุส ซึ่งแปลว่าตาค่ะ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช่วยส่องแสงสว่างให้กษัตริย์ในอดีตในขณะที่เสด็จมาประกอบพิธีสำคัญๆ ภายในมหาวิหาร
สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ การออกแบบอาคารที่มีความกว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุตเท่ากันเป๊ะ ประตูทางเข้าโลหะสีทองบรอนซ์ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตัน และมหาวิหารแพนธีออนยังเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ และบุคคลในราชวงศ์และคนสำคัญของอิตาลี เช่น พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 และศพของ ราฟาเอล จิตรกรชาวอิตาลีที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วยค่ะ
น้ำพุเทรวี Trevi Fountain
น้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโรมค่ะ มีความสูง 25.9 เมตร กว้าง 19.8 เมตร ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง จึงเป็นที่มาของชื่อเทรวี ที่มาจากคำว่าตรีวิอุม หมายถึงการพบกันของถนนสามสายนั่นเองจ้า
น้ำพุเทรวีขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม เป็นแบบสไตล์บารอค ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปาครีเมนต์ที่ 12 ได้มอบหมายให้ นิโคลา ซาลวี่ ออกแบบและก่อสร้างขึ้นในปี 1732 โดยใช้เวลาสร้างทั้งสิ้นรวม 30 ปี แถมยังมีเสน่ห์จนภาพยนตร์หลายเรื่องพากันมาถ่ายทำที่นี่เลยล่ะค่า
ตรงกลางน้ำพุมีรูปปั้นแกะสลักเทพเจ้าเนปจูนและไทรทันซึ่งเป็นเทพแห่งท้องทะเลตั้งอยู่อย่างอลังการ แสดงถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง ความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร และลักษณะของทะเลที่เงียบสงบและแปรปรวน ว่ากันว่าถ้าใครโยนเหรียญลงไปในน้ำแล้วอธิษฐานจะทำให้กลับมายังประเทศอิตาลีอีกครั้งด้วยน้า โดยการโยนที่ถูกต้องคือหันหลังให้กับน้ำพุ ใช้มือขวากำเหรียญเอาไว้พร้อมอธิษฐานในใจ แล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายของเราให้ลงบ่อน้ำพุ ก็จะสมหวังตามคำอธิษฐานแหละ >,< นี่จะมีใครไปโยนเหรียญที่น้ำพุพารากอนบ้างมั้ยน้อ 555
แต่บริเวณนี้ต้องระวังกระเป๋านะคะ โจรชุกกว่ายุงอีกนะจ้ะ
บันไดสเปน Spanish Steps
บันไดแสนสวยที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรปค่า มีทั้งหมด 138 ขั้น เป็นบันไดเชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1723-1725 จากเงินมรดกของนักการทูตฝรั่งเศส เอเตียน เกฟฟิเยร์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีชื่อ ฟรานเชสโก เดอซองตีส์และอเลสซานโดร สเปจจิ ที่เรียกว่าบันไดสเปนก็เพราะว่าสถานทูตประเทศสเปนเคยอยู่แถวนี้มาก่อนเลยยืมชื่อมาใช้เรียกซะเลย :P
บันไดสเปนเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมานั่งพักผ่อนหรือนัดพบปะกัน นี่ที่ต่อตรงกับถนน Via Condotti ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเมือง ร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโรมก็อยู่ที่นี่ด้วยนะจ๊า
อ๊ะๆ ที่สำคัญ กฏของที่นี่ในการมานั่งที่บันไดคือ ห้ามทานไอศครีมนะคะ เนื่องจากบันไดสเปนเคยเป็นฉากที่ถ่ายทำในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Roman Holiday ที่พระเอกนางเอกมานั่งทานไอศรีมกัน ทำให้ผู้คนแห่มาเลียนแบบอยากตามรอยพระนางกันเต็มไปหม้ดดด ทำให้บันไดเปรอะเปื้อนจนต้องออกกฎหมายห้ามนั่นเองค่า