เที่ยวพระราชวังเครมลิน Kremlin, Moscow รัสเซีย
ใครมาที่ได้มาเมืองมอสโก พลาดไม่ได้เลยนะคะ เพราะพระราชวังเครมลิน ศูนย์กลางที่สำคัญของเมืองหลวง และเป็นหัวใจของรัสเซีย ทั้งยังได้มีการรวบรวมสถาปัตยกรรมที่สวยงามไว้รวมกันอยู่มากมาย จัดเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของมอสโกเลยล่ะค่ะ
"เครมลิน" ในภาษารัสเซียนั้น มีความหมายแปลว่าป้อมปราการ ซึ่งภายนั้นก็จะประกอบไปด้วยพระราชวัง วิหารสำคัญๆ และที่ทำการของรัฐบาลต่างๆ
เมื่อเราไปถึงเครมลิน เราจะสังเกตุเห็นได้ชัดเลย จะเห็นเป็นกำแพงขนาดใหญ่สีแดงยาวววววมากกกก ประมาณ 2.25 กม. มีป้อมกระจายอยู่ 20 แห่ง แต่ละป้อมก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันนะ เรื่องความสูงและการตกแต่ง
เราก็หาป้ายที่ซื้อตั๋ว แล้วเดินไปซื้อตั๋วกันก่อน ซึ่งถ้าหากเรามีกระเป๋าสัมภาระ แบบลากๆ แบบนี้ เราต้องเอาไปฝากก่อนที่ห้องฝากของใต้บันได ก่อนประตูทางเข้านะคะ เค้าไม่ให้เอาเข้า
เวลาเปิดปิดของที่นี่คือ 10:00-18:00 ปิดวันพฤหัสบดี
ราคาตั๋ว 700 RUB เด็กอายุต่ำกว่า 16 เข้าฟรี
ตั๋วสามารถซื้อออนไลน์ หรือที่เคาน์่เตอร์จำหน่ายตั๋ว เปิด 9:30-16:30
เมื่อพร้อมแล้ว เราก็เดินขึ้นบันไดไปยังประตูทางเข้าฝั่ง Trinity Tower ในความรู้สึกของหญิงปุ๊ก รู้สึกว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยในประเทศรัสเซีย เข้มงวดมาก มีทหารยืนเฝ้าทุกที่ จะเข้าออกสถานที่ไหน ก็ผ่านเครื่องเอกซเรย์ ตรวจกระเป๋าตลอด ยิ่งเราไปกันช่วงหน้าหนาว ที่ใส่ชุดสิบแปดชั้น โค้ท ผ้าพันคอ ถุงมือ กล้อง นั่นนี่ๆ เวลาจะตรวจที ก็ถอดจ้า ถอดหมดตัว แล้วก็หอบเอามาใส่ใหม่อีกครั้ง เหมือนเช็คอินเข้าออกสนามบินทั้งวัน อารมณ์ประมาณนั้นเลย 555 ถอดเข้าถอดออก ชีวิตปลอดภัยแต่เหนื่อยจัง
เมื่อเดินเข้าไปถึงด้านในทางซ้ายมือ เราจะพบกับอาคารคลังแสงโบราณ The Arsenal เป็นอาคารสีเหลืองอ๋อย พร้อมกระบอกปืนหลายอันตั้งอยู่ด้านหน้า เราไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปบริเวณนี้นะคะ มีทหารยืนอยู่ด้านหน้าด้วย
ด้านขวามือเป็น The State Kremline Palace เข้าไม่ได้
แล้วเวลาเดินภายในเครมลินนี้นะคะ เราจะถูกกำหนดให้เดินไปตามทางที่เค้าจัดไว้ให้ มีลูกศรบอก อย่าเดินออกนอกเส้นทางเด็ดขาด ทหารจะส่งสายตาดุ และเป่านกหวีดปี๊ดๆ ให้เรารีบกลับเข้าเส้นทางที่ถูกต้องในทันที
เดินไปได้สักพักเราจะถึงจุดถ่ายรูปสำคัญ ได้แก่ ปืนใหญ่กระบอกโต๊โต
ซึ่งเรียกกันว่า ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Tsar Cannon) สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 ว่ากันว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยาว 5.34 เมตร หนัก 40 ตัน แต่ยังไม่เคยถูกใช้ในสงครามมาก่อน
เดินถัดไปนิดเดียว จะเป็น ระฆังของพระเจ้าซาร์ (The Tsar Bell) เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก (อีกแล้ว) สูง 6.14 เมตร มีรัศมี 6.6 เมตร หนัก 200 ตัน ไม่ใช่แค่ขนาดใหญ่อย่างเดียวนะคะ ลวดลายบนตัวระฆังยังสวยงามอีกด้วย แต่เนื่องจากการหล่อยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นภายในเครมลินซะก่อน ทำให้ระฆังร้าวและแตกออกมา จึงนำระฆังใบนี้มาตั้งที่พื้นพร้อมกับชิ้นส่วนที่แตกออก ถ้าระฆังใบนี้หล่อเสร็จสมบูรณ์ ก็จะได้นำไปแขวนไว้ที่ "หอระฆังอีวาน" ซึ่งเป็นหอระฆังขนาดใหญ่และสูงที่สุดในเครมลินค่ะ
เดินเลี้ยวไปทางขวาอีกหน่อย จะเจอจัตุรัสวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารหรือโบสถ์ 3 หลังที่สำคัญ นั่นก็คือ โบสถ์อันนันซิเอชั่น (Cathedral of the Annunciation) โบสถ์อาร์คาเกล (Cathedral of St. Michael the Archangel) และโบสถ์ที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในเครมลินก็คือ Cathedral of The Dormition หรือรู้จักกันในชื่อโบสถ์อัสสัมชัน (Assumption) สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระแม่มารีย์ ผู้ให้กำเนิดพระเยซู และยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่างๆด้วยค่ะ
และมาเยี่ยมชมสิ่งที่สวยงาม และมีคุณค่าทั้งด้านราคาและด้านประวัติศาสตร์กันที่ พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ (Kremlin Armoury Chamber) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ ทั้งเครื่องทรง มงกุฎ บัลลังค์ และเครื่องใช้ต่างๆ มากกว่า 2.7 ล้านชิ้น สวยงามละลานตาไปหมดเลยล่ะค่าาา และพิพิธภัณฑ์พระคลังเพชร (State Diamond Fund) ที่รวบรวมเพชรและอัญมณีอันล้ำค่าต่างๆ ของโลกไว้ ข้อควรระวัง! คือระวังแสบตานะคะท่านผู้ชมมมม 55555
เค้าไม่ให้ถ่ายรูปข้างใน แต่ชมภาพที่ได้เว็บไซด์ทางการ http://www.kreml.ru/en-Us/visit-to-kremlin/what-to-see/oruzheynaya-palata-zaly/
บรรยากาศคือ เค้าจะจัดแสดงสมบัติแบ่งเป็นโซนๆ แบ่งตามศตวรรษ และก็ค่อยๆ เดินชมไปทีละโซน โซนที่หญิงปุ๊กทึ่ง คือ เรื่องเกี่ยวกับพระนางแคทเธอรีน มหาราชินี แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นสตรีที่เรืองอำนาจที่สุดในรัสเซีย โด่งดังมากที่สุดและครองราชย์ยาวนานที่สุด ถึง 34 ปี ในยุคของพระองค์มีการฟื้นฟูรัสเซียให้แข็งแกร่ง และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ ทรงปฏิรูป และบูรณะวังหลายแห่ง อุปถัมภ์วงการศิลปะ วรรณกรรม และการศึกษา และได้พระราชนิพนธ์ผลงานไว้มากมาย เราจะเห็นหลักฐานได้จากสมบัติต่างๆ ที่ถูกจัดแสดงไว้ มีความปราณีต และสง่ามากจริงๆ
ส่วนเรื่องราวความรักของพระองค์ก็เข้มข้นมาก ทรงมีคู่รักถึง 55 คน เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ และรักษาราชบัลลังก์ไว้ อันนี้จริงก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าพระนางทรงมีส่วนรู้เห็นในการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ที่สาม พระสวามีของพระนางเอง หลังการครองราชย์ได้เพียงแค่ 6 เดือน เพื่อเป็นการเปิดทางให้พระนางขึ้นมาครองราชย์ แม้มิได้สืบเชื้อสายโดยตรงจากพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย
มีการจัดแสดงชุดของพระนางแคทเธอรีน ตั้งแต่สมัยยังยาวๆ ชุดทรงสุ่ม เอวเล็กนิดเดียว เมื่ออายุมากขึ้นๆ ขนาดของเสื้อผ้าก็ใหญ่ขึ้นๆ ตามไปด้วย ช่วงนี้เป็นยุคที่เค้าชอบคนอ้วน 555 ถือว่าแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่เหมือนพระนางแคทเธอรีน อยากให้เทรนด์อวบอ้วนกลับมาฮิตอีกบ้าง
พวกของประดับของรัสเซีย เว่อร์วังอลังการหมดเลย ขนาดม้าของกษัตริย์ ยังใส่มงที่หัว ใส่ที่ห้อยคอ ใส่ชุดผ้าหลุยส์ ใส่ปลอกขา ให้จินตนาการถึงเอาผ้าม่านหลุยส์อย่างดี มาประดับตกแต่งให้ม้า ช่างดูเป็นม้าที่เลอค่ายิ่งนัก
นอกจากนี้โซนที่ชอบมากๆ อีกโซนนึงคือ โซนรถม้า มีเป็นสิบคัน ดุจดังรถฟักทองจากการ์ตูนเรื่องซินเดอเรลล่ายังไงหยั่งงั้นเลยค่ะ ทองงงงงงทั้งนั้น แล้วก็มีลวดลายที่ละเอียด เลอค่า วงล้อใหญ่ สูงท่วมหัวเลยนะ มันเลิศมาก
หลังจากที่เราเดินชมความงามของเครมลินเรียบร้อย เราก็เดินออกมานอกกำแพง และได้พบกับ ต้นไม้นอนค่ะ แหม่.. เท่ห์จริงๆ นอนกันราบเลย แปลกตาดี
เราก็เดินเลาะกำแพงด้านนอกไปเรื่อยๆ เพื่อเดินไปยังจตุรัสแดงนะคะ อากาศดีมากๆ เย็นสดชื่น สูดอากาศดีๆ เข้าไปเต็มปอดเลย เดินเล่นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับถ้ำจำลองอนุสรณ์ในสงครามนโปเลียน สุสานทหารนิรนามในสงครามโลกครั้งที่สอง โชคดีไปช่วงทหารรักษาการณ์เปลี่ยนเวรยามพอดีด้วยค่ะ
นอกจากนี้ก็จะมีสุสานลินิน ซึ่งเลนิน คือบุคคลที่สำคัญของชาวรัสเซีย ถือได้ว่าเป็นคนสร้างชาติรัสเซียให้เกิดความเป็นปึกแผ่น เป็นปูชนียบุคคลที่ควรค่าแก่การบูชาของชาวรัสเซีย สามารถเข้าไปชมได้ทุกวันยกเว้นวันพฤหัส ภายในบรรจุศพของเลนินที่นำมาเก็บไว้ในสภาพสมบูรณ์ มีท่าทางนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบและศักดิ์สิทธิ์ ห้ามถ่ายรูปและส่งเสียงดังเด็ดขาด