เมื่อใจมันเรียกร้องอยากไปเที่ยว ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมลุย หลายคนมีข้อสงสัยที่ว่า ไปเที่ยวอิตาลี ไปช่วงไหนดี เที่ยวไหนดี ทำอะไรดี แต่งตัวยังไง วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้วค่ะ อ่านจบก็แพ็คกระเป๋าเตรียมตัวเที่ยวเลยนะคะ อิอิ

shutterstock_541541140

 

ข้อมูลทั่วไป

เมืองหลวง: โรม(Rome)

จำนวนประชากร: ราว 59.83 ล้านคน

ขนาดพื้นที่: ราว 301,338 ตร.กม.

ภาษาราชการ: อิตาลี

สกุลเงิน: ยูโร (1 ยูโรแลกได้ด้วยเงินประมาณ 37.99809 บาทไทย)

โซนเวลา: ฤดูร้อนจะช้ากว่าไทย 5 ช.ม. แต่ฤดูหนาวจะช้ากว่า 6 ช.ม.

shutterstock_282675509

ไปช่วงไหนดี

ฤดูกาลและสภาพอากาศ

อิตาลีถือว่าเป็นประเทศที่มีอากาศโดยรวมค่อนข้างอบอุ่น แจ่มใส ส่วนมากมักจะมีแดด แต่จริงๆแล้วก็มีสภาพอากาศที่หลากหลายเหมือนกับประเทศอื่นๆในแถบยุโรป โดยอิตาลีจะมีทั้งหมด 4 ฤดูกาลดังนี้

  1. ฤดูใบไม้ผลิ  อยู่ในช่วง 21 มี.ย. ถึง 20 มิ.ย. โดยช่วงนี้อาจจะเจอกับฝนมากหน่อย
  2. ฤดูร้อน  อยู่ในช่วง 21 มิ.ย. ถึง 20 ก.ย. เป็นช่วงที่แดดกำลังแรงจัดจ้าน
  3. ฤดูใบไม้ร่วง  อยู่ในช่วง 21 ก.ย. ถึง 20 ธ.ค. ฤดูใบไม้ร่วงจัดเป็นฤดูแห่งพืชผล เพราะพืชพรรณต่างๆ จะเริ่มออกผลอร่อยๆสวยๆมาให้เราได้เก็บกินกันแล้ว
  4. ฤดูหนาว อยู่ในช่วง 21 ธ.ค. ถึง  20 มี.ค. ช่วงนี้กลางวันจะสั้นกว่างกลางคืน เพราะพระอาทิตย์จะตกดินเร็ว ตั้งแต่ประมาณช่วง 4 โมง หรือ 5 โมง

italy italy1

http://www.holiday-weather.com

การเดินทางไปกรุงโรม

จะเดินทางไปได้ยังไง?

อิตาลีใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 11 ช.ม. กว่าๆ ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อตั๋วได้จากหลายสายๆการบิน ทั้งเอมิเรตส์แอร์ไลน์, อียิปต์แอร์, คาเธย์แปซิฟิก, สิงคโปร์แอร์ไลน์ ฯลฯ

เครื่องบินจะไปลงจอดที่ไหน และจะเดินทางออกจากสนามบินได้ยังไง?

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่คิดจะไปเที่ยวอิตาลี ก็ต้องมุ่งหน้าไปที่โรมเมืองหลวงอยู่แล้ว และถ้าหากว่าไปที่โรม เครื่องก็จะไปลงจอดที่สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน ...สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ส่วนเมื่อไปถึงแล้ว การจะเดินทางออกจากสนามบินเข้าตัวเมืองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีรถบัสและรถไฟเชื่อมระหว่างเส้นทางอยู่เต็มไปหมด หรือถ้าอยากเร็วหน่อยก็เรียกแท็กซี่ก็ได้ แต่จะแพงกว่าสองอย่างแรก

แล้วเวลาจะเที่ยวในเมือง จะมีรถอะไรให้นั่งบ้าง?

  1. รถไฟใต้ดิน  มีสาย A กับสาย B ทั้งสองสายเปิดให้บริการทุกวัน โดยสาย A จะเปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงสามทุ่มครึ่ง ส่วนสาย B จะเปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงห้าทุ่มครึ่ง แต่ถ้าเป็นคืนวันเสาร์ทั้งสองสายจะวิ่งจนถึงตีหนึ่งครึ่ง
  2. ยานพาหนะขนส่งมวลชน ต้องใช้ตั๋วที่เรียกว่า BIT โดยจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.50 ยูโร หรือประมาณเกือบๆ 60 บาท ซึ่งตั๋วนี้สามารถใช้ได้กับยานพาหนะขนส่งมวลชนทุกประเภท
  3. รถบัส โดยทั่วไปแล้วรถบัสของอิตาลีจะวิ่งทุกวันตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเที่ยงคืน แต่จะมีรถบัสอีกประเภทที่จะวิ่งแต่ตอนกลางคืนโดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ซึ่งอย่างหลังสังเกตได้ไม่ยาก เพียงแค่มองหาตัว N ที่อยู่หน้าหมายเลขรถบัส
  4. รถราง วิ่งทุกวันตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเที่ยงคืน

เที่ยวอะไรดี

10 สุดยอดเมืองท่องเที่ยวในอิตาลี

ทำอะไรดี

ทานอาหารอิตาเลียนอร่อยๆ หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับอาหารอิตาเลียนดีอยู่แล้ว เพราะจริงๆในเมืองไทยก็มีร้านที่สามารถหากินได้ง่ายๆ แต่ถ้าจะไปเที่ยวอิตาลีแล้วทั้งที เราก็ลองมาทบทวนกันสักนิดดีกว่าว่า อิตาลีเขามีเมนูอะไรเด็ดๆบ้าง...

1. พิซซ่า อันนี้คงไม่มีใครไม่เคยกินอย่างแน่นอน ตอนอยู่บ้านเวลามีปาร์ตี้ทีก็สั่งมากินกันเป็นถาดๆ แต่จะมีสักกี่คนที่เคยกินพิซซ่าอย่างที่เป็นต้นตำรับแท้ๆของอิตาลีจริงๆ? พิซซ่าของอิตาลีนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแน่นอน หลักๆเลยคือถ้าเป็นปรกติทั่วไปอย่างที่เรากินกันก็มักจะมีขอบหนาเตอะ ใส่ของโรยหน้าแปลกๆมาเพียบ แถมยังมีหลายไซส์อีก แต่ถ้าเป็นของอิตาลี ขอบพิซซ่าจะบาง และใช้แค่แป้ง, ยีสต์ กับน้ำเป็นส่วนผสมหลัก ของโรยหน้าก็เน้นชีส และอย่างอื่นอีกแค่ไม่กี่อย่าง และจะมีอยู่เพียงขนาดเดียวคือประมาณไม่เกิน 12 นิ้ว

shutterstock_247163782

2. Mozzarella Cheese สำหรับสาวกชีสคงไม่อยากจะพลาด เพราะนี่คือชีสต้นตำรับสุดอร่อยที่มีถิ่นกำเนิดมาจากตอนใต้ของอิตาลี ผลิตมาจากนมควาย นำไปแช่ กวนในน้ำร้อน เนื้อชีสจึงนุ่มๆหนืดๆ กลิ่นไม่ฉุนshutterstock_220558516

3.  สปาเก็ตตี้ หรือพาสต้า ประเภทคล้ายๆเส้นก๋วยเตี๋ยวของบ้านเรา แต่พาสต้าของอิตาลีจะมาเป็นแป้งแข็งๆ อย่างที่เราเห็นบรรจุอยู่ในถุงตามซูเปอร์มาร์เก็ต โดยต้องเอาไปต้มให้อ่อนนุ่มเสียก่อนถึงจะกินได้ ส่วนรูปทรงนั้นก็มีหลากหลายแบบมาก ทั้งรูปโบว์ รูปเกลียว รูปหลอดยาว รูปหลอดโค้ง หรือเป็นเส้นสปาเก็ตตี้ยาวๆ ส่วนวิธีการกินนั้น คนอิตาลีจะปรุงซอสแยกเอาไว้ในหม้อ จากนั้นจึงนำมาราดลงบนเส้นพาสต้าแล้วกิน ส่วนประเภทของซอสนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่หลักๆที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก็จะมีคาโบนาร่า, อัลเฟรโด้, โบโลญเนส แล้วก็มารินารา

shutterstock_413580649 (1)

4. Gnocchi เป็นอีกหนึ่งเมนูน่าสนใจ ลักษณะมักเป็นมันฝรั่งชิ้นเล็กๆและนิยมราดด้วยซอสมะเขือเทศ

shutterstock_413582140

5. Espresso, Cappucino รู้หรือไม่ว่ากาแฟสองประเภทนี้ที่เราดื่มกันบ่อยๆ เป็นที่นิยมกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น มีต้นกำเนิดมาจากอิตาลี ซึ่งความแตกต่างของมันก็คือความเข้มข้นในรสชาติ เอสเปรสโซ่จะเป็นกาแฟรสเข้มข้นพิเศษ ไม่ผสมน้ำตาลหรือนม แต่ถ้าคาปูชิโน่จะมีผสมนมและฟองนมด้วย

shutterstock_517083931

6. Tiramisu เมนูขนมหวานแสนอร่อย ทำขึ้นโดยเอาแผ่นขนมปังกรอบไปจุ่มลงกาแฟ จากนั้นก็เอาไปซ้อนกันเป็นชั้นๆ และแต่ละชั้นก็จะมีไข่ น้ำตาล และเนย

shutterstock_196316597

7. เจลาโต้ ไอศกรีมรสเลิศของอิตาลี ซึ่งมันจะต่างจากไอศกรีมทั่วไปอย่างที่เราเคยกินกัน ตรงที่เจลาโต้จะรสชาติเข้มข้นกว่ามาก เช่นถ้าเป็นไอศกรีมรสสตอร์วเบอร์รี่ ของทั่วไปจะรสจางๆและมักเป็นสังเคราะห์ แต่เจลาโต้จะนำผลไม้จริงๆมาใช้ ทำให้ได้รสชาติแบบของจริง นอกจากนี้เจลาโต้ยังไขมันเนยน้อยกว่า ทำให้เนื้อละลายง่ายกว่า

shutterstock_65737003

8. น้ำมันมะกอก อาจไม่ใช่ของที่จะเอามากินได้โดยตรงเหมือน 7 อย่างแรก ต้องนำไปใช้ปรุงอาหารก่อน อย่างไรก็ตามอิตาลีถือเป็นแหล่งผลิตที่ดีที่สุด

shutterstock_253044214

9. ไวน์ ยังไงก็พลาดเครื่องดื่มชั้นเลิศอันนี้ไม่ได้แน่นอน ซึ่งอิตาลีมีประวัติการผลิตไวน์มาช้านานแล้ว ตั้งแต่เมื่อในอดีตที่เน้นใช้องุ่นจากแคว้นต่างๆในประเทศเป็นวัตถุดิบ แต่ต่อมาก็นำเอาของจากประเทศอื่นเข้ามาใช้ผลิตด้วย ซึ่งยี่ห้อไวน์ของอิตาลีที่ดังๆก็เช่น Divici, Vitiano, Masseto, Ornellaia เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแบ่งเกรดไวน์ออกเป็น 4 ระดับ และเกรดย่อยๆอีกยิบย่อยมากมายด้วย

shutterstock_218626861

ข้อมูลที่น่าสนใจ

  1. รถสปอร์ตสุดหรูยี่ห้อเฟอรารี่นั้นผลิตขึ้นที่อิตาลี และนอกจากนี้...ในงานแข่งรถ Formula One ที่ดังกระฉ่อนไปทั่ว เฟอรารี่ยังมีการส่งทีมสิงห์ควันดำลงแข่ง และมักได้รับชัยชนะกลับมาเป็นประจำด้วยshutterstock_506920045

 

2. กาลิเลโอ กาลิเลอิ เป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวอิตาลี เขาคือผู้ประดิษฐ์กล้องส่องทางไกลตัวแรกขึ้นของโลก และยังไปพิสูจน์ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงที่หอเอนเมืองปิซ่าด้วย โดยการทิ้งลูกบอลสองลูกที่หนักไม่เท่ากันลงไป จากระดับความสูงที่เท่ากัน ผลปรากฏคือตกถึงพื้นพร้อมกัน

shutterstock_81843337

 

3. ภาพโมนาลิซ่าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นผลงานของลิโอนาโด ดาวินชี จิตรกร, นักคณิตศาสตร์ และนักประดิษฐ์ชาวอิตาลี ผลงานของลิโอนาโดยังมีอีกมาก เช่นภาพวาด The Last Supper (การเสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู), ภาพสเก็ตช์ทหารสามหมวกเกราะ, ภาพการศึกษาตัวอ่อนมนุษย์ หรือแม้แต่ภาพเหมือนของตัวเอง

shutterstock_375216646

 

4. ไมเคิลแองเจโล ศิลปินนักวาดและนักปั้นชื่อก้องโลกก็เป็นชาวอิตาลี โดยผลงานที่เด่นๆของเขาก็เช่น รูปสลักเปลือยเดวิด, ภาพวาดดำเนิดอดัมส์, รูปปั้นมาดอนน่าและลูก, ภาพการตัดสินครั้งสุดท้าย เป็นต้น

shutterstock_86764693

 

5. ละครแนวโศกนาฏกรรมเรื่อง Romeo and Juliet ของเช็คสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ตามท้องเรื่องแล้วคือเป็นตำนานความรักของชายหนุ่มชื่อโรมิโอ และหญิงสาวชื่อจูเลียต ที่เกิดขึ้นในเมืองเวโรนา ซึ่งจุดกระแทกใจอยู่ตรงที่ครอบครอบของทั้งสองไม่ถูกกัน ทำให้ทั้งคู่ต้องแอบรักกันอย่างลับๆ

shutterstock_481261876

 

6. ใครยังจำพิน็อคคิโอได้บ้าง? หุ่นไม้เด็ก ตัวน้อยๆ น่ารักๆในการ์ตูนของดิสนีย์ รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วพิน็อคคิโอเป็นนวนิยายที่ถูกเขียนขึ้นมาโดยคาร์โล โคลโลด นักเขียนมือฉมังชาวอิตาลี

shutterstock_373466617

 

แต่งตัวยังไง

ไปเที่ยวเมืองนอกหน้าหนาว แต่งตัวยังไงดีนะ