ถ้าพูดถึงอิสราเอล หลายๆ คนคงนึกการแย่งชิงดินแดนหรือสงครามใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้ว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีอะไรมากกว่านั้น ทั้งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งหนึ่งของโลก นับว่าเป็นประเทศหัวกะทิในด้านการพัฒนาเลยทีเดียว และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย ขอบอกว่าเลอค่า และศักดิ์สิทธิ์มากๆ รับรองว่าภาพอิสราเอลที่เราคุ้นเคยจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนค่า

เที่ยวกรุงเยรูซาเลม (Old City)

เที่ยวเยรูซาเลม เมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอิสราเอล และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นเมืองต้นกำเนิดของศาสนาคริสต์ ได้มีเหตุการณ์ที่สำคัญหลายอย่างของพระเยซูเกิดขึ้นที่นี่ และยังถือเป็นดินแดนสำคัญสำหรับชาวมุสลิม ที่เชื่อว่าเป็นเมืองที่นบีมุฮัมมัดถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ด้วยค่ะ กรุงเยรูซาเลมจึงมีความสำคัญมากสำหรับชาวอิสราเอล และคนทั่วโลก โดยคำว่าเยรูซาเล็ม แปลว่า มรดกแห่งสันติภาพ

ถึงแม้จะมีความขัดแย้งเกี่ยวพันกับ 3 ศาสนา คือ ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามมาเนิ่นนาน ทั้งในเรื่องการเมือง ศาสนา ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ และความคิด ทำให้เป็นเมืองที่ถูกยื้อแย่งกันมายาวนานที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันชาวเมืองก็ยังอยู่ด้วยกันได้ ภายในเมืองมีสถานที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และศาสนาหลายแห่ง ใครได้มาเยือนห้ามพลาดเลยนะคะ เช่น

ดมแห่งศิลา หรือ โดมสีทอง (Dome of the Rock) เป็นศาสนสถานที่สำคัญของศาสนาอิสลาม สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.687 – 691 ตั้งอยู่กลางเมือง สวยงามและยิ่งใหญ่มากๆ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างของอิสลามที่เก่าที่สุดในโลก และโดดเด่นที่สุดในกรุงเยรูซาเลมอีกด้วยค่า

 

กำแพงร้องไห้ (Wailling Wall) กำแพงสูงใหญ่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดของชาวยิวและคริสต์ศาสนิกชน เป็นสัญลักษณ์ของการได้หวนกลับมาสู่อิสราเอล และเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษของตนที่ต้องอพยพไปจากดินแดนนี้ค่ะ

ชาวยิวจะพากันมาสวดภาวนา ระบายความทุกข์ใจ และร้องไห้ที่กำแพงเป็นประจำ โดยตามซอกกำแพงจะเต็มไปด้วยกระดาษที่เขียนคำอธิษฐานถึงพระเจ้า เหมือนกับว่าที่ตรงนี้สามารถสื่อสารกับพระเจ้าได้ชัดที่สุด โดยชาวยิวเองมีความเชื่อว่า ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน แต่ในชีวิตต้องเดินทางมาเยี่ยมกำแพงแห่งนี้ให้ได้สักครั้งก่อนสิ้นลมค่ะ

 

Via Dolorosa ถนนศักดิ์สิทธิ์เส้นเล็กๆ ที่เป็นทางเดินของพระเยซู ระหว่างทางนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย โดยมีทั้งหมด 14 จุด เช่น จุดที่พระเยซูถูกบังคับให้แบกไม้กางเขน จุดที่พระเยซูหกล้ม และจุดที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน จะมีสัญลักษณ์บอกตลอดทางค่ะ

หญิงปุ๊กตอนเด็กๆ โตมาในโรงเรียนคริสต์ที่ได้ยินเรื่องราวของศาสนาคริสต์มาโดยตลอด พอได้มาสัมผัสสถานที่จริง ก็ทำให้รู้สึกขนลุก และรู้สึกถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ การได้มาเดินตามรอยพระเจ้า ทีละนิดๆ ช่างเป็นความรู้สึกที่ประทับใจมากค่ะ

 

เที่ยวทะเลสาบเดดซี (Dead sea)

ทะเลสาบเดดซี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกที่สุดยอด และน่าประทับใจมากอีกด้วยค่าาา

เพราะนอกจากจะถูกบันทึกไว้ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดของโลก ด้วยความลึกถึง 400 เมตรแล้ว น้ำทะเลของที่นี่ยังมีความเค็มมากกว่าทะเลทั่วไปถึง 6 เท่า! ใครเคยลองชิมคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เค็มจนขมปาก 555 ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในน้ำเลยค่ะ และความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างๆ นี้เอง ทำให้เกิดความหนาแน่นมากจนเกิดเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่ ก็คืออออ สามารถนอนลอยตัวในน้ำได้!! ว้าววววววว ตัวหนักแค่ไหนก็ไม่จม ลอยตุ๊บป่องๆ ได้อย่างสบายเลยค่าาา >,<

เราพิสูจน์มาแล้วว่าตัวคนลอย แต่ว่ากล้องจม 555 เอากล้องถ่ายรูปหรือไอโฟนลงไป อย่าทดลองลอยนะคะ เกลือเกาะ พังงงง แล้วก็อย่าให้น้ำเข้าตาเด็ดขาด แสบมากก โดนมาแล้ว แต่ถ้าโดนปุ๊บ ให้หลับตา และล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ตาก็จะแดงๆ หน่อย เอาจริงๆ เล่นน้ำได้แป้บเดียวค่ะ แค่สัมผัส ก็คันยิกๆ แสบๆ ไปหมด ทั้งผิวและหนังศรีษะ

และยังมีแร่ธาตุบางชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคได้ ทั้งโรคสะเก็ดเงิน โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคอื่นๆ แถมนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังนิยมมาทำสปาเพื่อสุขภาพ และพอกโคลนที่อุดมด้วยสารอาหารมากมาย ทำให้ผิวรู้สึกนุ่ม ผ่อนคลาย มีโรงแรมสปาระดับ 4 ดาวหลายแห่ง ใช้โคลนจากทะเลเดดซีแห่งนี้ด้วยนะคะ หากใครที่ต้องการได้ของที่ระลึกฟรี ก็ไม่ต้องล้างชุดค่ะ ได้เกลือฟรีเป็นกระบุงเลย ฮี่ๆ

รอบๆ จะมีโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าท้องถิ่นที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากธรรมชาติ ราคาก็ไม่แพงอีกด้วยย ถูกและดีแบบนี้ซื้อฝากก็ได้ ใช้เองก็ดี แฮปปี้กันถ้วนหน้าค่า อิอิ

 

เที่ยวเมืองไฮฟา (Haifa)

ไฮฟา เมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญและงดงามที่สุดในแถบตะวันออกกลางเลยค่า มีท่าเรือที่ใช้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เป็นจุดศูนย์กลางของศาสนาบาไฮต์ และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความไฮเทคระดับโลกด้วยนะคะ เพราะเป็นศูนย์กลางพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และเทคโนโลยี บริษัทชั้นนำหลายแห่งของโลกจึงมาตั้งฐานทัพที่นี่ค่ะ ทั้ง Google, Yahoo, Microsoft, IBM, Volvo และอีกมากมาย อู้หูวววว สุดยอดไปเลยยย

ในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเขาก็ไม่ธรรมดานะจ๊าา ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ สวนบาไฮการ์เดน (Baha’i Garden) ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนที่สวยงามอลังการมากกกก ตกแต่งได้อย่างสมบูรณ์และลงตัวฝุดๆ บรรยากาศนี่แบบว่าเหมือนสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง มีสวนระเบียงดอกไม้ที่ยื่นออกมา 19 ชั้น ลดหลั่นลงมาตามลาดเขาเป็นขั้นบันไดทั้งหมด 1,700 ขั้น ความยาวเกือบ 1.6 กิโลเมตร! อื้อหืออ มีใครให้มากกว่านี้ไหมคะ? 5555 มองลงไปจะเห็นวิวของเมืองไฮฟา และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแบบเต็มๆ สวยเว่อร์ อากาศก็ดี เงียบสงบไม่วุ่นวาย ดีต่อใจ~ >3<

 

 

เที่ยวป้อมปราสาทมาซาด้า (Masada Fortress)

มาซาด้า เป็นป้อมปราการโบราณกลางทะเลทรายยูเดีย ที่มีอายุกว่า 2000 ปี อยู่บนยอดเขาสูงประมาณ 120 เมตร เหนือทะเลสาบเดดซี ด้วยความสูงนี้การเดินทางมันก็จะเสียวหน่อยๆ ค่า >,< เพราะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป ระหว่างทางก็ชมทัศนียภาพมุมสูงของภูเขาไปด้วย เมื่อถึงยอดเขา เราจะเห็นป้อมมาซาด้าตั้งโดดเด่นอยู่ ถือเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของอิสราเอล และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2001 อีกด้วยค่า ซึ่งเป็นประติมากรรมการออกแบบที่งดงามและชาญฉลาดมากกก เป็นการสลักจากผาหินบนยอดเขาสูงที่มั่นคง ต้องขนอิฐและหินขึ้นไป ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี!

แต่เดิมได้เป็นพระราชวังฤดูหนาวอันหรูหราของกษัตริย์เฮโรดมหาราชค่ะ มีทั้งโรงอาบน้ำ ซาวน่า บ่อน้ำร้อน-น้ำเย็น ต่อมาได้เป็นป้อมหลบภัยของชาวยิวที่ต่อต้านการรุกรานและกดขี่ข่มเหงของทหารโรมัน ชาวยิวเริ่มทนไม่ได้จึงก่อกบฏขึ้น แล้ววีรกรรมการต่อสู้ป้องกันก็เกิดขึ้นค่ะ ถึงจะไม่สามารถสู้กับทหารโรมันได้ แต่นักรบชาวยิวก็ปักหลักสู้อย่างถวายชีวิต

ปัจจุบันได้ถูกทางการอิสราเอลรักษาไว้เป็นอย่างดีในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความกล้าหาญ โดยทหารเกณฑ์ทุกคนจะต้องเข้าประจำการ และสาบานตนที่ป้อมปราสาทนี้ว่า “มาซาด้าจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อไป”

 

เที่ยวเมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv)

เทลอาวีฟ เมืองท่าที่เจริญที่สุด แบบที่หลายคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คืออิสราเอลหรอเนี่ยยยยย *0*  เพราะที่นี่เจริญมากกกกกค่ะ เรื่องเทคโนโลยีของที่นี่เขาเจริญรุดหน้าได้รวดเร็วมากๆ เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและมั่งคั่งที่สุดในอิสราเอล มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ติดชายหาดฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ล้อมรอบด้วยร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ห้างสุดหรู และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งหาด Tel Aviv Promenade, สวนสัตว์ Ramat Gan Safari, สวนสนุก Luna Park, พิพิธภัณฑ์ Tel Aviv Museum of Art, สวนสาธารณะ Habima Square มีสิ่งก่อสร้างที่ทันสมัยเกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นเทลอาวีฟ สำนักงานและศูนย์กลางการพัฒนาวิจัยหลายแห่ง ถือเป็นการรวมกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยค่า

ใครที่ได้มาเยือนต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก คึกคักทั้งกลางวันกลางคืน จนได้ฉายาว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ และได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2003 อีกด้วยค่ะ