เที่ยวอิตาลี จุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย กระจายทั่วประเทศเลยค่ะ

 

คุณสามารถดูแผนที่ และรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี ได้ใน Google Maps โดยเนื้อหาในบทความนี้ ไม่ได้อธิบายครบทุกเมืองค่ะ

เส้นทางท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับสไตล์ที่เที่ยวที่ชอบ และจำนวนวันที่สะดวกเดินทาง วันนึงควรใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2-4 ชม. จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ

สนามบินหลักจากไทย จะอยู่ที่มิลาน โรม เวนิส และโบโลญญาค่ะ ระวังโจรขโมยของที่อิตาลีขั้นสุด.. โจรดุนะ.. พี่ไหวเหรอ.. 555 Have a Safe Trip ค่ะ


 


*******************




เที่ยวโรม Rome อิตาลี


ทริปเที่ยวโรม อิตาลี กรุงโรมเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลีจ้า มีคนอาศัยประมาณ 2.5 ล้านคนแน่ะ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยและน่าไปที่สุดอีกเมืองหนึ่งของอิตาลีเลยล่ะค่ะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม สถานที่เที่ยวต่างๆ คลุกเคล้าความคลาสสิคสไตล์ยุโรปที่คุณจะต้องหลงเลิฟฟฟ

โคลอสเซียม (Colosseum)


โคลอสเซียม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่โตแอนด์มโหฬารที่สุดในสมัยโบราณค่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.72 โดยจักรพรรดิเวสปาเซียน รูปทรงโค้งเป็นวงกลม ก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบ ยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น จุคนได้ถึงประมาณ 80,000 คนเลยทีเดียวว มีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังตอนฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบันเลยล่ะค่ะ งานที่สร้างในสมัยนั้นแต่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ น่านับถือฝีมือมากๆ โลยยย ปรบมือ!!!

shutterstock_120546637

DSC01860

 

มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon)


มหาวิหารแห่งนี้มีอายุกว่า 2,000 ปีค่ะ อู้วววว แค่ดูอายุก็รู้แล้วว่าขลัง แต่เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา (Marcus Vipsanius Agrippa) ใช้เป็นเทวสถานสำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณและเป็นคริสต์ศาสนสถานของโรมันคาทอลิกค่ะ

ต่อมาได้รับการสร้างใหม่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 และก็ยังคงใช้งานกันมาตลอดตั้งแต่สร้างครั้งแรก แต่สภาพยังดีเหมือนเดิมเลย นอกจากกาลเวลาจะไม่สามารถทำให้มหาวิหารแพนธีออนผุพังไปได้แล้ว ยังเป็นสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วยค่า แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะในการสรรค์สร้างของสถาปนิกสมัยโบราณจริงๆ

ความน่าทึ่งนี้เริ่มตั้งแต่เสาหินแกรนิตขนาดยักษ์ด้านหน้าเลยล่ะค่ะ ที่เรียงตัวเป็นแนวยาวเหมือนวิหารกรีก แต่ละเสาทำจากหินก้อนเดียวเลยนะคะ ไม่ได้เอามาต่อกัน ตัววิหารไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักเลยทั้งที่มีขนาดใหญ่โตมากกก มีหลังคาโดมและมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา ช่องนี้เรียกว่าช่อง โอคูลุส ซึ่งแปลว่าตาค่ะ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช่วยส่องแสงสว่างให้กษัตริย์ในอดีตในขณะที่เสด็จมาประกอบพิธีสำคัญๆ ภายในมหาวิหาร

shutterstock_204115126

shutterstock_289999613

shutterstock_289999616

 

น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain)


น้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโรมค่ะ มีความสูง 25.9 เมตร กว้าง 19.8 เมตร ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่ง จึงเป็นที่มาของชื่อเทรวี ที่มาจากคำว่าตรีวิอุม หมายถึงการพบกันของถนนสามสายนั่นเองจ้า

น้ำพุเทรวีขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม เป็นแบบสไตล์บารอค ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปาครีเมนต์ที่ 12 ได้มอบหมายให้ นิโคลา ซาลวี่ ออกแบบและก่อสร้างขึ้นในปี 1732 โดยใช้เวลาสร้างทั้งสิ้นรวม 30 ปี แถมยังมีเสน่ห์จนภาพยนตร์หลายเรื่องพากันมาถ่ายทำที่นี่เลยล่ะค่า

ตรงกลางน้ำพุมีรูปปั้นแกะสลักเทพเจ้าเนปจูนและไทรทันซึ่งเป็นเทพแห่งท้องทะเลตั้งอยู่อย่างอลังการ แสดงถึงการมีสุขภาพที่แข็งแรง ความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร และลักษณะของทะเลที่เงียบสงบและแปรปรวน ว่ากันว่าถ้าใครโยนเหรียญลงไปในน้ำแล้วอธิษฐานจะทำให้กลับมายังประเทศอิตาลีอีกครั้งด้วยน้า โดยการโยนที่ถูกต้องคือหันหลังให้กับน้ำพุ ใช้มือขวากำเหรียญเอาไว้พร้อมอธิษฐานในใจ แล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายของเราให้ลงบ่อน้ำพุ ก็จะสมหวังตามคำอธิษฐานแหละ >,< นี่จะมีใครไปโยนเหรียญที่น้ำพุพารากอนบ้างมั้ยน้อ 555

shutterstock_186828752

1146679_10152532514407203_70310958_n-1

 


 


*******************




นครรัฐวาติกัน State of the Vatican City


นครรัฐวาติกัน State of the Vatican City ตั้งอยู่ติดกับกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ คือมีสมเด็จพระสันตปาปา หรือโป๊ป เป็นประมุขสูงสุด วาติกัน จริงๆ แล้วก็เป็นเหมือนกับประเทศๆหนึ่ง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนด้วย เพราะไม่เพียงแต่เป็นดินแดนแห่งศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมงานศิลปะชั้นเลิศมากมาย พร้อมสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ผลงานออกแบบของไมเคิลแองเจโลก ที่เป็นศูนย์รวมใจหลักของคริสตชนและเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครรัฐ หรือโบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) โบสถ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในวังของโป๊ปด้วย โดยโบสถ์น้อยซิสทีนนี้เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดเรื่องจิตรกรรมฝาผนังสุดตระการตา รวมถึงภาพวาดบนเพดานฝีมือของไมเคิลแองเจโลด้วย

shutterstock_125398649

shutterstock_352086830

shutterstock_391413496

 


*******************




เที่ยวเวนิส Venice อิตาลี


เมืองเวนิส Venice หรือเมืองเวเนเซีย Venezia ตามภาษาอิตาเลียน เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนไทย และถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือนสักครั้งในชีวิต เวนิสเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวย และโรแมนติกมากที่สุดแห่งนึงของโลก เปรียบเสมือนห้องรับแขกของทวีปยุโรป ต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละ มากกว่า 30 ล้านคน โดยองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ปี 1987

แกรนด์คาแนล Grand Canal


แกรนด์คาแนล เป็นคลองที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวนิสในด้านการท่องเที่ยวจ้า มาที่นี่แล้วที่พลาดไม่ได้เลยคือการล่องเรือกอนโดล่า เพราะริมคลองมีทางเดินอยู่เพียงเล็กน้อย การสัญจรทางเรือจึงเป็นที่นิยมมากค่ะ และในสมัยก่อนนั้น เรือสินค้าขนาดใหญ่ต้องใช้คนพายหลายคน เมื่อสินค้ามาถึงยังเกาะเวนิสก็ต้องมีการแบ่งสินค้าและถ่ายเทไปแจกจ่ายค้าขายทั่วทั้งเกาะ แต่พื้นที่บางจุดถูกตัดขาดและไม่มีสะพานเชื่อมต่อ จึงต้องนำสินค้าขนใส่เรือแจวลำเล็กเรือกอนโดลา นั่นเองค่ะ

และในปัจจุบันเรือกอนโดลาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเวนิสไปเป็นที่เรียบร้อย ล่องเรือเพลินๆ กับคลองที่มีความยาวประมาณ 3,800 เมตร และมีความกว้างประมาณ 30-90 เมตร ที่นี่อากาศดี และบ้านเมืองสะอาดตามากค่ะ ชมบ้านเรือนสวยๆ สีสรรหลากหลาย แต่ยังคงรูปแบบเดิมอายุหลายร้อยปีไว้อย่างดี ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกเกือบทั้งหมดของเมือง ทั้งพระราชวังและโบสถ์และสถาปัตยกรรมที่งดงามเรียงรายอยู่ริมฝั่งคลอง รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอนนเลยค่า

shutterstock_245507851

shutterstock_185952380

shutterstock_311835425

 

 

หน้ากากเมืองเวนิส


เทศกาลคาร์นิวัลหน้ากากเมืองเวนิส เป็นงานคาร์นิวัลสวมหน้ากากที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีมาตั้งแต่ปี 1268 แต่การเฉลิมฉลองโดยมีสวมหน้ากากรวมถึงแต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างอลังการนั้น ดูเหมือนจะเพิ่งมีขึ้นในเกือบ 200 ปีให้หลัง เมื่อช่างทำหน้ากากหรือ mascareri ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1436 และจัดงานรื่นเริงสวมหน้ากากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเมืองทุกคนได้สนุกสนานรื่นเริงตามใจชอบ

ต่อมาในปี 1797 หลังจากการยึดครองของกองทัพของนโปเลียน กษัตริย์ฝรั่งเศส และต่อมาออสเตรีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกสั่งห้ามจัด

จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อกลุ่มของอดีตนักศึกษาอคาเดมี ออฟ ไฟน์ อาร์ต ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 เทศกาลหน้ากากเวนิสก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและกลายเป็นเทศกาลสำคัญของชาวเวนิส จนถึง ณ ปัจจุบันนี้

shutterstock_68712079

shutterstock_252136279

DSC02238

 

 

เกาะบูราโน่ Burano


เกาะเมืองลูกกวาดแห่งอิตาลี เป็นเกาะเล็กๆ น่ารัก คิ้วท์ๆ >,< ตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบเวนิสค่ะ มีคลองตัดผ่านใจกลางเมือง ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่แสนสงบ แต่ครึกครื้นไปด้วยสีสันของบ้านเรือนตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งตัวตึกและดอกไม้สีสันสดใส สร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยย

เนื่องจากมันเกาะไซส์มินิจึงใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วเกาะแล้วล่ะจ้า แต่ละที่ถึงแม้จะมีคลองตัดผ่านแต่ก็มีสะพานเล็กๆ ให้เดินข้ามลัดเลาะไปทุกซอกทุกซอยได้ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขนม ร้านอาหาร ไม่ขาดสาย ว้าวววๆๆๆ หนูช๊อบชอบ