เพื่อนๆคิดว่าโรงแรมที่ดี เทพ และสุดยอดที่สุดในโลกในปี 2015 ตั้งอยู่ที่ไหนคะ
แล้วคิดว่าโรงแรมที่ดี และสุดยอดที่สุดในโลกนี้ หน้าตามันเป็นแบบไหน
ทำไมถึงได้ครอบครองแชมป์เป็นอันดับหนึ่งของโลกได้

และโชคดีมากเลยค่ะ หญิงปุ๊กเคยได้มีโอกาสไปพักที่โรงแรงแห่งนี้แล้ว เมื่อวันแม่ ปี 2013
ทำให้มีภาพความสวยงาม และประสบการณ์ที่น่าประทับใจ มาฝากให้ทุกท่านได้ชมกันค่า

รางวัลนี้เกิดจาก เว็บไซด์ TripAdvisor ได้ทำการจัดอันดับโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก
โดยวัดจากการโหวตของนักท่องเที่ยวนับล้านคนทั่วโลก

ในปี 2015 โรงแรมที่ได้อันดับหนึ่งงงงง!! ได้แก่ แตน ตะตะแต้นแตนแต่น แต่นแตนแต้นนน..
โรงแรม... Gili Lankanfushi มัลดีฟส์ ค่าา เย้! วี๊ดดดดวิ่ววว จุดพลุร้อยดอก บึ้มๆๆๆ



เครดิตภาพจากโรงแรม http://www.gili-lankanfushi.com

ชื่อรางวัลอย่างเป็นทางการจ้า

2015 TripAdvisor Travelers Choice Awards ----- No. 1 Top 25 Hotels in the World

นอกจากนี้ก็ยังได้รับรางวัลอื่นๆ พ่วงด้วย ได้แก่
No. 1 Top 25 Hotels in Asia
No. 1 Top 25 Hotels in Maldives
No. 4 Top 25 Luxury Hotels in the World
No. 3 Top 25 Luxury Hotels in Asia
No. 1 Top 10 Luxury Hotels in Maldives
No. 16 Top 25 Top 25 Hotel for Best Service in Asia
No. 2 Top 10 Hotel for Best Service in Maldives
No. 13 Top 25 Hotels for Romance in Asia
No. 2 Top 10 Hotels for Romance in Maldives

โอ้โห.. แค่ลิสรายการรางวัลที่ได้รับ ก็ขนลุกซู่แล้ววค่า
สงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าที่นี่ดียังไง ทำไมถึงได้คว้าตำแหน่งดีที่สุดในโลกมาครอบครอง
เรียนเชิญทุกท่านเกาะกระทู้ ติดตามชมกันได้เลยจ้า

เช็คราคาค่าที่พักที่แน่นอนได้ที่เว็บของโรงแรมเลยจ้ะ ราคา

ค่าใช้จ่ายหลักๆ

จะมีค่าที่พัก ห้องแบบ Crusoe Residence ประมาณ $2,500 รวมมื้อเช้า
ค่าอาหาร มื้อเช้าคนละ $59 (ถ้าไม่รวมอยู่ในค่าห้อง) มื้อเที่ยง $71 มื้อเย็น $106
และค่าเรือสปีดโบ๊ทไปกลับ คนละ $200 (ราคาทั้งหมดรวมค่าบริการและภาษีแล้ว)

ข้อมูลโดยสังเขป

โรงแรม Gili Lankanfushi เป็นโรงแรมในฝัน เหมือนเป็นสวรรค์กลางทะเล ตั้งอยู่ที่มัลดีฟส์
บรรยากาศจริง ฟินกว่าในรูปมากมาย ธีมของที่นี่ คือ หรู แต่เรียบง่าย
บ้านพักทุกหลังของที่นี่ตั้งอยู่กลางทะเล สามารถเดินลงจากบันไดหน้าบ้านพักลงไปสัมผัสกับน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว
และแหวกว่ายอยู่กับฝูงปลา พร้อมๆกับชมปะการังที่อยู่รอบๆบ้านพักได้เลยค่ะ เลิศมากๆ
ด้านการตกแต่งภายในตัววิลล่าเองก็สวยงาม เน้นธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม มองเห็นน้ำทะเล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายค่ะ
บริเวณชายหาดสะอาด สวยงาม เรื่องอาหารก็อร่อยมาก นอกจากนี้การให้บริการก็ดีเลิศ ประทับใจสุดๆ
ให้คะแนนเต็มเลยยจ้าไม่รู้จะติอะไร 55555 ขอชื่นชม และรู้สึกโชคดี ดีใจที่ได้ไปเยือนครั้งนึงในชีวิตเล้ยย



การเดินทาง
หญิงปุ๊กเริ่มต้นด้วยการย้ายมาจากโรงแรม Angsana Velavaru, Maldives
ที่หญิงปุ๊กไปพักมาในคืนก่อนหน้า เพื่อมายังโรงแรม Gili Lankanfushi ค่ะ

หลังจากหญิงปุ๊กขึ้นเครื่องบินน้ำกลับมายังสนามบินมัลดีฟส์
ก็ได้พบกับพนักงานจากโรงแรม Gili Lankanfushi มาคอยต้อนรับ และเข็นกระเป๋าไปขึ้นสปี๊ดโบ๊ทให้ค่ะ
เรารอแขกท่านอื่นๆกันสักครู่นึง เมื่อครบทีมแล้ว ก็เดินไปลงเรือที่จอดรออยู่

เรือสปีดโบ๊ท ลักษณะภายนอกเป็นสีขาว ตัดกับน้ำทะเลสีเขียว ดูสวยสะอาดตามากเลยค่ะ
ส่วนภายในก็สวยงาม สะอาด ตกแต่งด้วยเบาะและมีหมอนอิงสีเขียวไว้ให้เอนหลัง
เมื่อเรือแล่นสู่ท้องทะเล เจ้าหน้าที่ก็อธิบายเรื่องความปลอดภัย ให้ใส่เสื้อชูชีพที่ดูไม่ค่อยเหมือนเสื้อชูชีพ555
ลักษณะคล้ายๆ หมอนรองคอ แต่ยาวถึงเอว ห้อยต่องแต่ง ใส่คล้องคอไว้
หญิงปุ๊กแอบคิดในใจว่า ดูเหมือนไม่น่าจะรับน้ำหนักเราไหวเลยนะ แต่นั่นแหละ ระดับนี้ ปลอดภัยแน่นอนจ้า



หลังจากนั้น เค้าก็แจกน้ำดื่ม แล้วก็แจกถุงยังชีพ เอ้ย! ถุงวิเศษให้ค่ะ 5555
มีข้อความพิเศษเขียนไว้ว่า No News No Shoes แปลว่า ไม่มีข่าว ไม่ใส่รองเท้า

เค้าสนับสนุนให้เราเอ็นจอย ใช้ชีวิตดื่มด่ำอยู่กับธรรมชาติในโรงแรมอย่างเต็มที่
ไม่อยากให้เราเสพข่าวสารจากโลกภายนอกแล้วก็ไม่อยากให้ใส่รองเท้าด้วย
เพราะเราสามารถเดินเท้าเปล่าไปได้ทั่วทุกที่ในโรงแรม เหมือนกับเดินเล่นอยู่ที่บ้านของตัวเองเลย
เท้าเราจะได้สัมผัสกับผืนทราย และพื้นไม้ตลอดเวลา เรียกว่าติดดินสุดๆ สัมผัสกับธรรมชาติทุกย่างก้าว

หากว่าเราอยากถอดตามคอนเซปเค้า เราก็ถอดรองเท้าใส่ถุงไว้ พนักงานจะหิ้วไปส่งให้พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง
แต่ถ้าเราไม่อยากถอด ก็ไม่เป็นไรจ้า ใส่ได้เหมือนกัน หญิงปุ๊กก็ไม่ได้ถอด ไม่ค่อยสะดวกเดินเท้าเปล่า จั๊กจี้เท้า
เผลอแป้บเดียว นั่งเรือไปแค่ 20 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้วจ้า ใกล้สนามบินมาเล่มากเลย

เมื่อเรือจอดเทียบท่า ก็มีบัทเลอร์มาต้อนรับอย่างอบอุ่น และแยกย้ายกันพาแขกไปเข้าบ้านพักของตัวเอง
ซึ่งบ้านพักของหญิงปุ๊กอยู่กลางทะเลจ้า ไม่มีทางเดินเชื่อมต่อ ต้องนั่งเรือส่วนตัวเข้าบ้านเท่านั้น
บ้านพักแบบนี้ เรียกว่าเป็นแบบ Crusoe Residence มีทั้งหมดแค่ 7 หลัง
ความรู้สึก คือแบบว่าส่วนตั๊วส่วนตัวจริงๆ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทะเล มิกลัวคลื่นลมใดๆ ทั้งสิ้น
ที่หญิงปุ๊กเลือกบ้านพักหลังนี้ เพราะคุณแม่รีเควสว่า มามัลดีฟส์ทั้งที อยากพักบ้านกลางทะเลไปเลย
โอเคได้จ้า หญิงปุ๊กจัดให้..

และคนที่คอยดูแลเราตลอด 24 ชม. ตลอดระยะเวลาที่เราพัก โดยปกติจะถูกเรียกว่าบัทเลอร์
แต่ที่นี่เรียกว่า Mr. Friday หรือ Mrs. Friday แทนนะจ้ะ Mrs. Friday ของเราพาเราเดินเข้าบ้าน





ที่หน้าบ้าน มีเจ้าเม่นตัวนี้นอนเฝ้าอยู่ น่ารักเน้อะ เอาไว้ทำความสะอาดเท้าที่เปรอะทรายจ้ะ ขัดๆ ถูๆ จั๊กจี้ๆ



มีการจัดเตรียม Welcome Drink เป็นแชมเปญ พร้อมอาหารว่าง ขนมหวานไว้ให้ทานด้วย โฮะๆๆ กรุบกริบๆ





หลังจากนั้นก็ทำการเช็คอินกันในบ้านพักนี้เลย แล้วก็แนะนำส่วนต่างๆ ของบ้าน รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ
อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่า ที่นี่เน้นธรรมชาติมากๆ พวกวัสดุต่างๆ ที่ใช้ทำโรงแรม
และเครื่องใช้ต่างๆ ล้วนมาจากธรรมชาติ เช่น ทำจากไม้ส้นที่ปลูกเอง ไม้ต้นปาล์ม ไม้ไผ่ และไม้สน
งดเว้นการใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกค่ะ

เริ่มจากพื้นที่ส่วนตรงกลางในบ้าน จะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นบริเวณนี้เก๋มาก เป็นกระจกใสมองเห็นน้ำทะเลด้านล่างจ้ะ
ด้านซ้ายมือจะเป็นทีวี มีดาวเทียมนะ แต่เค้าก็แนะนำให้ไว้ใช้สำหรับดูหนังในซีดี ดีวีดีแทน
มีไอพอดบรรจุเพลงเพราะๆ ไว้ให้ฟังด้วยนะ เพลินนน





ด้านขวามือมุมนึงเป็นเบาะนั่งเล่น พร้อมโต๊ะหมากรุก



และมีโต๊ะทานข้าว ที่เค้าวาง Welcome Drink ไว้ อยู่อีกมุมนึงจ้ะ
ห้องนี้มีแอร์ และพัดลมพร้อม มีสัญญาณwifi





และหากเราเปิดประตูออกไป เราก็จะพบกับ sun deck ที่ยื่นออกไปสวยๆแบบนี้ พร้อมเก้าอี้อาบแดด
น้ำทะเลสวย บ้านพักก็ชิลมาก ฟินไปเล้ยยยย















ส่วนถัดไป ถัดจากห้องนั่งเล่นเมื่อกี้นี้ ทางซ้ายมือ คือตู้มินิบาร์ค่ะ ก็มีอุปกรณ์ชา กาแฟ น้ำดื่ม



เดินทะลุไปอีก จะเป็นห้องนอน ดูสบายๆ น่านอน มีมุ้งให้กางด้วย มีแอร์
อารมณ์คือนอนอยู่บนเตียง มองจากปลายเท้า ก็เห็นน้ำทะเล ชัดแจ๋ว ใสแจ๋ว รอบด้านเลย คริคริ
โอ้ว สวรรค์ชัดๆ แค่ได้นอนดูน้ำทะเลเฉยๆ ก็มีความสุขแล้วล่ะค่าาา





ย้อนกลับมาทางเดิม ผ่านห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องน้ำ ห้องน้ำกว้างขวางใหญ่โตมากจ้า
อ้อ.. ต้องขออธิบายก่อนว่า มีแค่พื้นที่ในส่วนของห้องนอน และห้องนั่งเล่นเท่านั้นที่มีแอร์
นอกนั้นเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เป็น open-air หมดเลยจ้า รับลมธรรมชาติกันให้เต็มที่ไปเลย

ตรงห้องน้ำนี้ ตอนกลางวันแอบอบๆ ร้อนๆ เหมือนกัน ต้องเปิดหน้าต่างให้หมด ลมจะได้พัดเข้ามา



แต่ปัญหามีอยู่นิดนึงค่ะ คือถ้าเปิดหมด เปิดอ้าซ่า เวลาเราจะเปลี่ยนเสื้อผ้า จะล่อนจ้อน
เตรียมตัวไปอาบน้ำ เราจะทำไงดี จะมีใครมาแอบมอง หรือมองเห็นเราบ้างไหมน้อ 555
แอบระแวง บ้านข้างๆ จะมีกล้องส่องทางไกลมั้ยเนี่ย
แม้รู้ว่าเราอยู่ในบ้านส่วนตั๊วส่วนตัว กลางทะเลก็เถอะ แต่ก็อาจจะมีเรือผ่านไปมาก็ได้นา

นอนแช่อ่างตรงนี้ มองวิวฟินไปเลย เพื่อนๆว่าคนอื่นจะกล้าล่อนจ้อนนอนแช่อ่างตรงนี้ไหมคะ
หญิงปุ๊กคงใส่ชุดว่ายน้ำ ไม่ก็ขอผ้าถุงสักผืน มานั่งตีโป่งในนี้ดีกว่านะ สบายใจดี แหะๆๆ



ข้างๆ เป็นอ่างล้างหน้าสองเคาน์เตอร์ ด้านนึงมีพัดลมเป็นตัวช่วยด้วยจ้า เผื่อร้อน



อีกด้านนึงเป็นบันไดทางลงไปยังน้ำทะเล หญิงปุ๊กคิดว่าเป็นที่สำหรับเล่นน้ำทะเลส่วนตัว
เผื่อใครไม่กล้าออกไปว่ายกลางทะเลจริงๆ เล่นตรงนี้ก็รู้สึกปลอดภัยดี
ทีแรกหญิงปุ๊กว่าจะลงไปจุ่มน้ำตรงนี้สักหน่อย แต่ว่าใต้บันไดดันมีปลาไรไม่รู้ตัวยาวเท่าแขน หัวใหญ่เท่าฝ่ามือ
อยู่กันเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก>< เกาะติดบันไดทางลงเลย ว่ายวนไปก็วนมา ไม่ยอมไปไหนสักที
แถมถัดจากปลา มีปูไต่ไปไต่มาตรงเสาไม้อีก เย้ยยยยยย!





หญิงปุ๊กเห็นแล้วก็เกิดอาหารป๊อด ปอดแหก 555 เกรงใจ ไม่กล้าลงไป กลัวมันกัด จ๊ากกก..
ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ มองดูครอบครัวปลา ว่ายน้ำกันอย่างมีความสุข
โอเค หนูจะไม่ลงไปรบกวนนะคะ เชิญพักผ่อนกันตามอัธยาศัยค่า555555

ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ ก็จะเป็นตู้อุปกรณ์ของใช้ครบครัน
มีเจลว่านหางจระเข้ ครีมกันแมลง โลชั่นทาหลังอาบแดด แชมพู ครีมนวด
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบบออแกนิกซ์ และไม่ใช้พลาสติก เค้าใส่กระปุกเซรามิคแทน
แล้วก็มีที่แขวนเสื้อผ้า และที่วางกระเป๋าเดินทางจ้ะ



เขยิบไปทางซ้ายอีกนิด โอ้มายก้อด ล่อนจ้อนอีกแล้วค่า ทางเดินไปสู่ห้องอาบน้ำ ไม่มีประตู!!555



กำแพงรอบด้านเป็นบล๊อคแก้วใส ทำให้เราจินตนาการไปไกลว่า
คนข้างนอกจะเห็นเรา หรือเงาเราตอนอาบน้ำไหมน้อออ
ตอนที่หญิงปุ๊กอาบน้ำ น้ำไหลแรงดี ซู่ๆ อาบน้ำไป ก็มองเห็นวิวทะเล เห็นเรือวิ่งผ่าน
แอบกระวนกระวายใจเล็กน้อยว่า ทำไมกำแพงบ้านเตี้ยจัง ฮ่าๆๆๆ เราเห็นเขา แล้วเขาเห็นเราไหม
ได้สัมผัสกับความรู้สึกเวิ้งว้าง เคว้งคว้าง จนแอบวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูมาหนีบๆ ทำเป็นประตูกั้นไว้
ก็หนูอายนิสนึง ไม่ชินง่า 555 คิดไปเอง จริงๆ คนอื่นไม่น่าจะเห็นหรอกเน้อะ คริคริ

พื้นที่ชั้นล่างหมดแล้วจ้ะ ขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อ ข้างบนมีเบาะไว้ให้นั่งพักชมวิว



แล้วก็โต๊ะพร้อมเก้าอี้สี่ตัว มองเห็นบ้านพักหลังอื่นจากมุมสูง บรรยากาศดีมากๆเลยย



ที่เราเห็นอยู่ตรงนู้นนน คือบ้านพักแบบ Private Reserve กับ Villa Suite จ้ะ





ส่วนนี่คือบรรยากาศยามเย็นจ้า ชมวิว ชมพระอาทิตย์ตก แสงสวยโรแมนติกไปอีกก









และช่วงตอนนั่งเรือไปดินเนอร์ ระหว่างทาง Mrs. Friday เค้าจะชี้ให้เราดูปลากระเบนที่ว่ายอยู่ในน้ำด้วยจ้ะ





 

หญิงปุ๊กพาทัวร์บ้านพักแบบ Crusoe Residences เสร็จแล้ว
งั้นเดี๋ยวเราไปดูแผนที่โรงแรม และห้องพักแบบอื่นๆ กันต่อค่า

โรงแรม Gili Lankanfushi มีแค่บ้านพักกลางทะเลเท่านั้น Water Villas มีทั้งหมด 45 หลัง
โดยบ้านพักจะเรียงรายกระจายกันอยู่ในสามท่า jetties ที่ยื่นออกจากเกาะไปกลางทะเล





เครดิตภาพ http://www.dreamingofmaldives.com/gili-lankanfushi-maldives.php

แบ่งห้องพักออกเป็น 5 ประเภท (ภาพจากเว็บโรงแรม) ได้แก่

Villa Suites มี 29 ห้อง ขนาด 210 ตารางเมตร ตั้งเรียงรายอยู่รอบ jetties
มีหลังนึงเป็นแบบ Spa Suite พักได้สูงสุด 3 ท่าน







 

Residences มี 8 วิลล่า ขนาด 250 ตารางเมตร ตั้งอยู่ปลายสุดของแต่ละ jetties พักได้สูงสุด 4 ท่าน



 

Crusoe Residence มี 7 วิลล่า ขนาด 250 ตารางเมตร ตั้งอยู่กลางทะเล
มีเรือส่วนตัว มีเปลกลางทะเลส่วนตัว พักได้สูงสุด 4 ท่าน



 

Private Reserve มี 1 หลัง ขนาด 1,400 ตารางเมตร
เป็นวิลล่ากลางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ อยู่ห่างออกไปจากเกาะ 500 เมตร
ตัวบ้านแยกออกเป็นห้าส่วน มีสองห้องนอนใหญ่ หนึ่งห้องนอนเล็ก มีห้องสปาส่วนตัว
ห้องอบไอน้ำ มียิมส่วนตัว มีบัทเลอร์สองคน มีห้องครัว และห้องเก็บไวน์
มีเรือส่วนตัวสองลำ และสไลด์เดอร์ส่วนตัวหนึ่งอัน พักได้สูงสุด 8 ท่าน
ตอนที่หญิงปุ๊กไปพัก มีแขกพักอยู่ เค้าบอกว่าเหมาอยู่เป็นเดือนเลยจ้า สุดยอดดดดด





 

กิจกรรม

 

มาถึงนี่ หญิงปุ๊กก็อยากจะลงไปดำน้ำตื้นดูปลาและปะการังรอบๆบ้านอีก ก็เลยลงไปตามเวลาที่สะดวกนั่นแหละ
ทีแรกเห็นเค้าวางเอกสารตารางเวลาน้ำขึ้นน้ำลงวางไว้ให้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรค่า อยากลงก็ลงเลย55555

ทีนี้พอลงไป เกิดอะไรขึ้นรู้ไหมคะ โอ้มายก๊อดดดด ตัวหนูปลิวจ้าาาา
แม้จะยืนอยู่เฉยๆ แต่ตัวก็ลอยออกไปไกล ห่างจากบ้านขึ้นทุกวินาที ตัวปลิวตามคลื่นไปเลย แว้กกกกกก
ตกใจระดับสิบ อยากจะกรีดร้องให้คนช่วย แต่ว่าหนูลอยคออยู่กลางทะเล ห่างไกลผู้คน
ใครเค้าจะมาช่วยทันเนี่ย 555 นี่มันเป็นเวลาน้ำขึ้น ที่คลื่นแรงใช่ไหมฮะ เฮ่อออ แอบถอนหายใจสามที

หญิงปุ๊กก็ร้องเรียกคุณแม่นะคะว่า ม้าาาาาา ช่วยด้วยยยย ตัวปลิววววววว ว่ายกลับเข้าไปไม่ด้ายยยยยย
คือตอนนั้นยังว่ายน้ำไม่เป็นด้วยค่ะ แงงงง

ม้าเห็นดังนั้นก็ไปเอาห่วงยางที่เค้าแขวนไว้มาช่วยค่ะ ห่วงยางมันผูกเชือกไว้ ถ้าโยนมาถึงตัวหญิงปุ๊กเมื่อไหร่
หญิงปุ๊กก็แค่เกาะห่วงยางนั้น แล้วก็จะรอดค่ะ นี่คือสิ่งที่คิดไว้

แต่ชีวิต... ฟ้าย่อมไม่บันดาลทุกอย่างให้เป็นดั่งใจ โอ้วววว พระเจ้า ม้าโยนห่วงยางมา ฟิ้วววววววว
ลมพัดค่ะ พัดแรงด้วย พัดห่วงยางไปตกหน้าบันไดบ้าน ใกล้ๆ กับที่ม้ายืนอยู่นั่นแหละ แว้กกกกกกกกก!!!
คือไร ห่วงยางอยู่ตรงนั้น หน้าบันได ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 555

แต่.. เราก็ต้องคุมสติให้ดีค่ะ ห้ามตกใจ ติ๊กต่อกๆๆ ทำไงดี นาทีนั้นต้องช่วยตัวเองแล้วจ้า เพราะว่าเราว่ายน้ำไม่เป็น
ม้าก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน ม้ายืนเชียร์อยู่บนบก นาทีนี้เราต้องว่ายกลับไปให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุด

โอ้โห กว่าจะว่ายกลับเข้ามาถึงบ้าน เรียกว่าเหนื่อยมากๆเลยค่ะ
คือว่ายไม่ไป เหมือนว่ายทวนน้ำ ว่ายไปว่ายมาแล้วอยู่ที่เดิม
อนาถมาก จ้วงแขน ตีขา จนตะคริวจะกินเลยทีเดียว ฮือออ

อย่างไรก็ตาม ไม่เข็ดค่ะ เราอยากจะเห็นสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และปะการังแสนสวย
เลยตัดสินใจโทรหา Mrs. Friday แจ้งว่า อยากจะลงเล่นน้ำ แต่กลัว ขอตัวช่วยด่วนค่ะ
Mrs. Friday ก็ตอบกลับว่า ไม่มีปัญหาจ้า เตรียมตัวให้พร้อมภายใน 30 นาที
เดี๋ยวจะส่งเรือไปรับ แล้วพาไปดำน้ำตื้นตรงจุดที่สวยๆ พร้อมมีคนดูแลอย่างดีให้ ว้าวววว

จากที่เคยอ่านรีวิว คิดว่าเราน่าจะได้เห็นปะการังเขากวาง และปลาการ์ตูนนีโมน่ารักๆ ชิลๆ
แถมมีเพื่อน สนุกสนานเริงร่า ไม่ต้องกลัวแล้วเรา

แต่พอไปที่สถานที่จริง ผู้ช่วยของเราเป็นหนุ่มกำยำ พาไปบนเกาะ One Palm Island ที่เป็นจุดดำน้ำตื้น
เค้าพาหญิงปุ๊กว่ายไปนะคะ จากน้ำสูงระดับเท่าต้นขา ผู้ช่วยเราพาว่ายไปเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นพื้นทะเลเลยค่า
อยากจะกลับใจจะขาด แต่เค้าบอกโอเคๆๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว แล้วก็ว่ายนำทางต่อ - -"
จำท่าโอเคๆ ได้ติดตาเลยแหละ 555

หญิงปุ๊กอยากจะดูน้ำตื้นๆ ดูนีโม่ นี่พาว่ายไปไกลเลย พาไปให้ดูปลาตัวใหญ่ อยู่ลึกเชียว
ถ้าพูดกันตรงๆ ก็กลัวนะคะ 555555 คือว่ายน้ำไม่เป็นไง
แต่ยังไงก็ตาม ก็อุ่นใจที่มีเค้าดูแลอยู่ และประทับใจที่ได้เห็นฝูงปลาด้วยค่า

นี่คือพันธุ์ปลาต่างๆ ที่จะพบเห็นได้ในบริเวณโรงแรมนี้นะคะ
http://www.lankanfushi.com/p/quick-fish-id-key.html m=1







































ตำแหน่งที่เค้าพามา คือแนวปะการัง ซึ่งอยู่ระหว่างน้ำสีฟ้าใส กับสีฟ้าเข้ม
อุณหภูมิน้ำฝั่งฟ้าใส น้ำจะอุ่น ส่วนฝั่งฟ้าเข้ม น้ำจะเย็น
หญิงปุ๊กแอบคิดในใจว่าทำไมไม่เลือกเอาอย่างใดอย่างนึง จะอุ่นก็อุ่น จะเย็นก็เย็น ดีกว่าม้าย555
ว่ายๆไปตะคริวจะกินเหมือนเดิมจ้า ฮาาา มึนๆดาวขึ้น วิ้งๆๆเลย เพราะว่าน้ำเดี๋ยวอุ่นเดี๋ยวหนาว
นึกถึงประมาณว่าอาบน้ำอุ่น อาบน้ำเย็น สลับไปมาทุกห้าวินาที แอ่กก

คลื่นทะเลก็แรงเหมือนเดิม แรกๆหญิงปุ๊กว่ายไปเองนะคะ หลังๆ นี่ไม่ไหวแล้ว ต้องให้เค้าลากไป555 หมดแรง
ผู้ช่วยเค้าจะหันมาดูแลตลอด ถามว่าเราโอเคมั้ยๆ ส่งสัญญาณกันเรื่อยๆ
คิดว่า ถ้าให้ไปคนเดียว คงแย่ หมดแรง ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลนั่นแหละจ้า 555
ว่ายอยู่เป็นชั่วโมงเหมือนกัน จำระยะเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวคือ นานมากกกกกก
นานจนหนูเพลียไปหมดเลยค่า อยากจะลอยตัวกลางทะเล ลอยกลับที่พักไปเอง55555

ยังไงก็ตาม ถึงแม้ร่างจะเพลีย และเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ภาพที่ได้เห็นก็ถือว่า คุ้มค่ามากจ้า
ประทับใจนะคะ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้แหวกว่ายสวนทางกับฝูงปลามากมายขนาดนี้
น่าแปลกเหมือนกันที่ปลามันไม่ได้ตกใจ หรือว่ายมาชนเราเลยสักตัว

ภาพที่ถ่ายออกมา มันไม่สวยเท่ามองเห็นด้วยตาเปล่าเลยนะคะ เทียบกันไม่ได้เลย ถ่ายใต้น้ำครั้งแรกด้วย

แล้วก็ดีใจที่ได้เจอฉลามหลายตัว แต่เป็นฉลามกินพืชนะ ไม่อันตราย
แฮ่.. คิดดูถ้าไปคนเดียวนะคะ จ้วงแขนสะบัดแน่ รีบโกยแน่บเลย

























แล้วก็กิจกรรมอื่นๆ ที่นอกเหนือการดำน้ำตื้นนี้นะคะ แบบฟรีก็มี
ล่องเรือใบ พายเรือคายัค แคนนู วินเซิร์ฟ มีคลาสสอนโยคะ ไทเก๊ก มีห้องออกกำลังกาย สนามเทนนิส
วอลเล่บอล โต๊ะปิงปอง มีห้องสมุด พร้อมเกมกระดานหลากหลาย มีจักรยานให้ทุกหลังด้วยน้า





แบบเสียเงินก็มี เช่าสปีดโบ๊ท สกีน้ำ ทัวร์ดำน้ำตื้น ทำอาหาร ทัวร์ดูปลาโลมา
ดูหนังที่จอหนังส่วนตัว จัดปิกนิคบนชายหาด เป็นต้น
ถ้าชอบดำน้ำ ก็มีจุดดำน้ำ 20 กว่าจุด แต่ต้องมีใบอนุญาติดำน้ำสากลด้วยนะคะ แล้วก็จะมีการทดสอบก่อนไปดำจริงด้วย



หรือไปสปา Meera Spa นอนนวดผ่อนคลายก็ได้จ้า เห็นแล้วน่าอิจฉาจริงๆเลย





ไม่ก็เดินเล่น ปีนต้นมะพร้าวแถวชายหาดได้จ้ะ เจี๊ยกๆ555 หนูยังไม่อยากกลับ หนูจะอยู่ที่นี่











ร้านอาหาร
The Main Restaurant
ตั้งอยู่ริมชายหาด เสิร์ฟอาหารเช้า และอาหารเย็นจ้ะ อาหารอร่อยและเลิศมากกก
บรรยากาศสุดแสนจะชิลๆๆ ถูกปากมากมาย อาหารปราณีตและคุณภาพเยี่ยมเลยจ้า
Mrs. Friday ตามมาดูแล ทักทายเราตั้งแต่เช้า เยี่ยมเลย



















By-The-Sea. Peruvian-Japanese Restaurant and Sushi bar
ร้านนี้เป็นอาหารญี่ปุ่น อร่อยเหาะอีกเช่นเดียวกัน เปิดแค่มื้อดินเนอร์เท่านั้นจ้ะ อร่อยจุดพลุ บึ้มๆๆ
เวลาที่จะไปทานร้านนี้ Mrs. Friday จะนำเรือมารับเราจากบ้านพัก
แล้วก็เดินไปยังชายหาดบนเกาะ เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองจ้ะ
Mrs. Friday นี่น่ารักมากๆ เลยนะคะ คอยส่งยิ้มหวาน แล้วก็ดูแลเราเต็มที่เลย
คอยอธิบายทุกอย่าง บอกให้เราระวังนั่นนี่ตลอดเลย เป็นห่วงยิ่งกว่าแฟนอีก วรั้ยยย5555





















The Wine Cellar & Underground Chocolate Cave
ห้องนี้ก็เหมาะสำหรับคนรักไวน์ มาชิมไวน์กันจ้า เปิดตลอดทั้งวัน



The Main Bar
เป็นบาร์เครื่องดื่ม ที่สามารถเห็นวิวทะเลได้ 360 องศา สามารถไปนั่งเล่นพักผ่อน
และผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ เปิดตลอดทั้งวัน และยังมีบุฟเฟต์ในมื้อกลางวันด้วยค่ะ





หรือจะจัดมื้ออาหารพิเศษส่วนตัว ดินเนอร์บนชายหาด บนเกาะ ในโรงหนังส่วนตัว และอื่นๆก็ได้
รายละเอียดตามนี้จ้ะ http://www.gili-lankanfushi.com/maldives-luxury-resorts/dining-maldives-romantic-dinner/experience/#destination-dining

และมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ทริปนี้เรามาเพื่อฉลองวันแม่กันจ้า
แต่น แตน แต้นนนน รักหม่าม้า ที่สุดในโลกเลยยย ^3^
ขอให้ม้ามีความสุขมากๆ สมหวังทุกประการ และสุขภาพแข็งแรง อยู่กับหญิงปุ๊กไปอีกนานแสนนานเลยน้าค้า





ทริปนี้ก็ถือว่า เป็นทริปที่หญิงปุ๊กรู้สึกประทับใจมากกกกอีกทริปนึงเลยค่ะ
เพราะได้มาเยือนโรงแรมที่เหมือนกับสวรรค์ สวยมากๆ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
และได้มาอยู่กับคุณแม่ คนที่เรารักมากด้วยค่า แฮปปี้มากเลยยย

ในความคิดเห็นของหญิงปุ๊กนั้น โรงแรมที่สุดยอด ไม่ใช่เพียงแต่ดีเลิศเฉพาะด้านสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เท่านั้น
แต่จิตวิญญาณของคนที่ดูแลสถานที่นั้นๆ ต้องเต็มที่ด้วย รักที่จะอยู่ และรักที่จะทำทุกอย่างให้มันดีเยี่ยม
เมื่อคนเรารักในสิ่งที่ทำ ผลงานทุกอย่างมันจะถูกโชว์และสะท้อนออกมาให้เห็นเอง

ในฐานะแขก หญิงปุ๊กสัมผัสได้ถึงความห่วงใย การเอาใจใส่ และการดูแลแขกอย่างเต็มที่ จากพนักงานทุกคนที่ได้เจอ
ในด้าน Mrs. Friday ก็ให้บริการอย่างดีเยี่ยมค่ะ สุภาพ และเป็นงาน
สามารถจัดการความต้องการของเราได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
และผู้ช่วยที่พาหญิงปุ๊กไปดำน้ำ ก็ดูแล ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในยามที่เราต้องการความช่วยเหลือ

หากพูดถึงเชฟ ต้องบอกเลยว่า อาหารที่นี่อร่อยมากกกกกจริงๆ 555 ไม่ได้รู้สึกว่ามาติดเกาะ
เพราะอาหารสด คุณภาพเยี่ยม และทำรสชาติออกมาได้อร่อยมากเลย สามผ่านนนนนจ้า

การมาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ ทำให้เราได้รู้สึกมีความสุขอยู่กับธรรมชาติ มองท้องฟ้า น้ำทะเล
ฟังเสียงคลื่น เสียงลม ดูปลา ดูปะการังไป ไม่มีอะไรต้องเครียด รู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง
ไม่ต้องรับรู้กับความวุ่นวายของโลกภายนอก เป็นการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และใช้ชีวิตให้เต็มที่พอ

นอกจากนี้ การได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับคุณแม่ ทำให้หญิงปุ๊กรู้สึกมีความสุขมาก

หากเราลองย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ในชีวิตนี้ ใครรักเรามากที่สุด
คำตอบสำหรับหญิงปุ๊ก ก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คุณพ่อและคุณแม่
ทีนี้หญิงปุ๊กรู้สึกว่า ในฐานะลูก เราก็อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารัก
การเลือกมาพักโรงแรม Gili Lankanfushi ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ทุกอย่างยอดเยี่ยม ถูกใจมาก
หญิงปุ๊กปลื้มใจที่ได้เห็นคุณแม่มีความสุข ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะของคุณแม่
เราอยากให้ท่านผ่อนคลาย ไม่เครียด ได้นั่งเม้าท์ ได้ถ่ายรูปเล่น และมีช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกันค่ะ

แน่นอนว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากเราสามารถค้นพบได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดนั้นคืออะไร
แล้วเราพยายามมอบสิ่งนั้นให้กับคนที่เรารัก มอบสิ่งนั้นให้ด้วยหัวใจ
ความสุขและความรู้สึกอบอุ่นหัวใจก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย และหญิงปุ๊กก็เชื่อว่า
มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย หากคนๆ นั้นที่เราอยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ คือ คุณพ่อคุณแม่ของเราเอง

และขอฝากไว้ท้ายสุด ในปีนี้หญิงปุ๊กก็มีแพลน ที่จะพาคุณแม่ไปเที่ยวมัลดีฟส์อีกครั้งนึง ไประลึกความหลังกัน 555
แต่เปลี่ยนโรงแรมแล้วนะคะ ไปพักอีกสองที่ เลิศเลอ ไม่แพ้ที่นี่แน่นอน วะฮะฮะฮ่า
ไว้เดี๋ยวจะรีบกลับมาอัพเดท และทำรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันต่อไปนะค้า

สำหรับท่านอื่นนะคะ ครอบครัวไหน ที่ไม่อยากไปไหนไกล ก็สามารถพาคุณแม่เที่ยวกรุงเทพ ทำบุญไหว้พระ
หรือจะขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปทะเล กินอาหารซีฟู๊ด ได้นะจ้ะ 12 สิงหานี้ พาแม่เที่ยวกันค่ะ

ฝากคลิป 12 สิงหา พาแม่เที่ยว รวมภาพทริปมัลดีฟส์ โรงแรม Angsana Velavaru, Maldives
และโรงแรม Gili Lankanfushi, Maldives ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค้า
ตอนนี้หนูขอลาก่อน ไว้พบกันใหม่จ้าาาา จุ๊บๆ