เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกเชียวค่ะ ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขอบอกว่าหรูหรา ยิ่งใหญ่อลังการมากกกกกกกค่า ที่ถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่มากขนาดนี้ก็เพื่อแสดงถึงอำนาจและความรุ่งโรจน์ของซาร์แห่งจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งแต่เดิม พระราชินีแคทเธอรีนได้เก็บรวบรวมภาพเขียนชื่อดังไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก จนต้องสร้างห้องสำหรับเก็บภาพและสมบัติล้ำค่าขึ้นมา โดยมีน้อยคนนักที่จะได้เห็น ต่อมา ได้มีการจัดหมวดหมู่ของสะสมทั้งหมด และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้

ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียวขาวด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก ตัวอาคารมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 ชั้น ที่ใหญ่โตมาก เฮอร์มิเทจประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลัง สร้างเชื่อมต่อกัน คือ

พระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) อาคารเล็ก (Small Hermitage) อาคารเก่า (Old Hermitage) อาคารใหม่ (New Hermitage) อาคารโรงหนัง (Hermitage Theatre)

ภายในมีห้องต่างๆ มากกว่าพันห้อง หูวววววววว ยัง ยังไม่หมดค่ะ ทุกท่านจะต้องตื่นตาตื่นใจเมื่อพบกับความสวยงามอลังการ ตระการตากับศิลปะภาพวาดและโบราณวัตถุล้ำค่ามากมายจากจิตกรเอกที่โด่งดังของโลก มากกว่า 3 ล้านชิ้นค่ะ ถ้าต้องการจะดูวัตถุล้ำค่าทั้งหมด สมมุติว่าใช้เวลาดูวันละ 8 ชม. ดูเพียงอย่างละ 1 นาที ต้องใช้เวลาทั้งหมด 15 ปีถึงจะดูได้ครบนะค้า

โอ้ววววมันช่างควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง จัดเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยนะคะ

เว็บไซด์ http://www.hermitagemuseum.org/wps/portal/hermitage/ lng=en

เปิดทำการ 10:30-18:00 วันพุธและศุกร์ 10:30-21:00

ราคาตั๋ว 600 รูเบิ้ล สามารถซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อตั๋วค่ะ

 

ตึกพระราชวังเป็นโทนสีเขียวตัดขาว







ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของจตุรัสพาเลซ Dvortsovaya Square ซึ่งมีเสาหินอเล็กซานเดอร์ Alexander Column ตั้งอยู่ เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อเป็นการระลึกถึงชัยชนะในสงครามเหนือนโปเลียนแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1812 เป็นเสาแห่งชัยชนะที่สูงที่สุดในโลก ทำจากหินแกรนิตแท่งเดียว



ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารเสนาธิการทหาร รูปทรงโค้งทอดยาว ตกแต่งด้วยรถม้าชัย และรูปปั้นนักรบ สวยงามมากค่า









จากตรงนี้มองเห็นมหาวิหารเซนต์เบซิลด้วย



หน้าประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์



ก่อนที่จะเข้าไปชมความงามด้านใน จะต้องเอาเป้ เสื้อกันหนาว และสัมภาระต่างๆ ฝากไว้ที่ห้องฝากของ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรับไปเก็บไว้ให้ค่ะ เราก็ค่อยเดินตัวปลิวเข้าไป ชะแว้บบบ จากลิงเหลือง ตอนนี้กลายเป็นลิงดำแดงแว้ว อิอิ



The Jordan Staircase ห้องโถงและบันไดสวยมากกกก เดินตามพรมแดงขึ้นไปเลยค่า เดินชมความงามจนเมื่อยคอเลยนะฮะ สร้างได้ยิ่งใหญ่ อลังการจริงๆ





























เมื่อขึ้นบันไดมาถึงด้านบนแล้ว เราก็เข้าประตูไปชมห้องต่างๆ กันเลยค่ะ



ส่วนแรกเป็นโซนภาพของกษัตริย์และราชินีในประวัติศาสตร์





ห้องมาลาไคท์













 

โบสถ์ Grand Church ในอดีตถูกใช้เป็นสถานที่ทำพิธีอภิเษกสมรส และพิธีทางศาสนาต่างๆ













 

ห้อง The Armorial Hall ยิ่งใหญ่อลังการด้วยเสาทองต้นใหญ่ ตั้งใจออกแบบเพื่อใช้เป็นห้องโถงต้อนรับ บริเวณทางเข้าจะเป็นรูปปั้นนักรบของรัสเซีย เมื่อเราเดินเข้าไปข้างใน เราจะรู้สึกตัวเล็กมาก 555 ถ่ายรูปออกมาตัวเล็กจิ๋วเลย หนูชอบ รัวภาพไปล้านช็อทได้























ห้อง Peter the Great Small Throne Room สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงปีเตอร์มหาราช มีบัลลังค์ และรูปของพระองค์อยู่ด้านหลัง









ห้อง War Gallery of 1812 เป็นการระลึกถึงชัยชนะของรัสเซียที่มีต่อนโปเลียนของฝรั่งเศส บนกำแพงจะแขวนภาพของนายพลที่รบในสงครามปี 1812 จำนวน 332 ท่าน













ห้อง St George (Large Throne) Hall มีการตกแต่งของห้องโถงอย่างสวยงาม ห้องนี้ใช้สำหรับไว้ต้อนรับ และจัดพิธีฉลองอย่างเป็นทางการ ที่สุดปลายห้อง เป็นบัลลังค์ใหญ่ทำขึ้นที่ลอนดอน ส่วนพื้นเป็นไม้ปาร์เก้ทำจากไม้ถึง 16 ชนิดด้วยกัน แชนเดอเลียร์ละลานตามากเลยค่ะ

























ห้อง Pavilion Hall เป็นห้องสีขาวขนาดใหญ่ มีแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ละลานตา 28 โคม มีนาฬิกานกยูงทองลำแพงหางได้ที่มีชื่อเสียงอยู่ด้วย จริงๆ เป็นนกร้องเพลง 3 ตัว ประกอบด้วย นกยูง นกฮูก และไก่ สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่ยังทำงานได้อยู่







มีหน้าจอแสดงวีดิโอตัวอย่างการทำงานของนกยูงทอง



 













Council Staircase เป็นทางเข้าห้องประชุมของคณะมนตรี สมัยกลางศตวรรษที่19

ตรงบันได มีแจกันมาลาไคท์ใบใหม่ ตั้งโชว์อยู่ หินมาลาไคท์เป็นหินที่พบมากในรัสเซีย ลักษณะเป็นสีเขียวสว่างไปจนถึงเขียวเข้มอมดำ มีความสวยงาม จึงถูกนำมาใช้ตกแต่งเพดานผนัง และทำของใช้ในการตกแต่งพระราชวัง











ห้อง Leonardo da Vinci Hall จัดแสดงภาพวาดของ Leonardo da Vinci





ไฮไลท์สำคัญที่สุด คือ Madonna and Child ผลงานของ Leonardo Da Vinci อายุ 500 กว่าปี จัดแสดงในอยู่ในตู้กระจกค่ะ ภาพนี้ต้องต่อคิวถ่ายรูป















ห้อง The Raphael Loggias เป็นระเบียงภาพ ประดับผลงานของ Raphael รวมเรื่องราวตามคัมภีร์ไบเบิ้ล









โซนรูปปั้น









Kiss of Cupid and Psyche ผลงานของ Antonio Canova

ด้วยความรักย่อมดำรงอยู่หาได้ไม่ ถ้าปราศจากความไว้วางใจซึ่งกันและกัน















ห้องอียิปต์โบราณ มีโลงศพ สมบัติ และมัมมี่ตัวดำแห้งๆ จัดแสดงอยู่ด้วยค่ะ





ห้องพักผ่อน











ห้องสมุด





ห้องแสดงทรัพย์สมบัติต่างๆ จำนวนมาก

























ถึงทางออกแล้วค่ะ เรียกว่าชมวังกันอิ่ม และตาลายเลยทีเดียว สวยงาม อลังการ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า