ความโดดเด่นของบาร์เซโลน่าที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด ก็คืออาคารรูปทรงแปลกตา แปลกจนเห็นแล้วจะต้องอึ้งว่า คนออกแบบคิดได้อย่างไรน้อ งานสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน มันคือศิลปะ ปะ ปะ ปะ (ใช้น้ำเสียงอาจารย์เฉลิมชัย)

และแน่นอนว่า La Pedrera หรือ Casa Mila ก็เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะนั้นค่ะ ด้วยเอกลักษณ์ที่เด่นสะดุดตาของตัวอาคารที่ถูกสร้างในสไตล์อาร์ตนูโว ที่ดูคล้ายคลื่นในทะเลและภูเขา จะเป็นผลงานของใครไปไม่ได้เลย นอกจาก อันโตนิโอ เกาดี้ Antoni Gaud สถาปนิกชื่อดังที่ยิ่งใหญ่เมืองบาร์เซโลน่า คนเดียวกับที่ออกแบบ Sagrada Familia ซากราดา ฟามีเลียนั่นแหละค่า และด้วยความแปลกของมันนี่เองทำให้เราอยากไปพิสูจน์กัน

ภายในอาคารมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยแบ่งเป็น ชั้นใต้ดินเที่เป็นโรงจอดรถแห่งแรกของเมือง ชั้นล่างที่เขาบอกว่าไว้สำหรับทำการค้า จากนั้นก็เป็นส่วนออฟฟิศในชั้นลอย ที่พักของเจ้าของตึกอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ส่วนชั้นที่ 2-5 เจ้าของตึกได้ทำเป็นห้องเช่าค่ะ ชั้นถัดไปเป็นห้องใต้หลังคาจัดนิทรรศการแสดงประวัติ ผลงานและแรงบันดาลใจของเกาดี้

ส่วนไฮไลต์ของที่นี่ก็คือชั้นดาดฟ้า ดาดฟ้าแปลกตรงที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินทรายแกะสลักเป็นรูปทรงประหลาด งานอาร์ทต้องมา แม้สถานที่จะไม่ใหญ่ แต่จินตนาการบรรเจิดค่า

ราคาตั๋ว 20.5 ยูโร เวลาทำการ จ.ถึงศ. 9:00-20:00

ส.-อ. และวันหยุด 10:00-14:00 และ 18:00-20:00

ฟรี Audio Guide หูฟังคำบรรยายภาษาอังกฤษ และอื่นๆ ไม่มีภาษาไทย

เว็บไซด์ https://www.lapedrera.com/en/home

La Pedrera ตั้งอยู่ริมถนนกราเซีย บนถนนร่มรื่น แหล่งช้อปปิ้งร้านค้าแบรนด์เนมตลอดสองฝั่งทาง แต่วันนี้เราไม่ได้มาช้อป เรามาดูของแปลกกันค่ะ

ก่อนอื่นเดินไปซื้อตั๋วทางด้านข้างของตึก ด้านหลังมีร้านอาหารขายทาปาสด้วยนะ รสชาติอร่อยดีทีเดียว ถ้าไม่รู้ว่าจะไปหม่ำอาหารที่ไหน เหมือนกับเรา ก็ลองไปชิมดูนะจ้ะ 555 พูดแล้วหิว







เมื่อเข้ามาข้างใน เราจะเจอกับ The Courtyards ส่วนกลางของตึก แหงนมองขึ้นไป 9 ชั้นค่ะ





เดินเข้าไปเอาสัมภาระฝากที่ห้องฝากของ หยิบ audio guide แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้นดาดฟ้ากันนะ ทีแรกนึกว่าให้เดินขึ้น เตรียมตัวหอบเก้อเลย อิอิ



แต่น แตน แต้นนนนน ถึงแล้วฮะ.. ภาพแรกที่เห็น เฮ้ย.. นี่คืออารายว้าาาา 555

เหมือนเห็ดเข็มทองเป็นกอๆ หรือหมวกนักรบโรมันกันนะ

จริงๆ นี่คือสถาปัตยกรรมมรดกโลก ได้รับแรงบันดาลใจจากคลื่น และรูปทรงภูเขาค่ะ





เดินวน 5 นาที ครบรอบ คริคริ ชมวิวเมืองได้นิดหน่อย



เริ่มค่ำ เค้าเปิดไฟ อยู่บนดาดฟ้า ลมแรงมากฮะ หนาวๆ ลงดีกว่า



แค่นี้ จบแล้วไฮไลท์ของเรา ลงไปดูนิทรรศการกันต่อ ตึกพริ้วแบบคลื่น และภูเขามั้ย





บริเวณนี้จัดแสดงแรงบันดาลใจของเกาดี้ ซึ่งเค้าจะศึกษาพวกรูปทรงของสิ่งต่างๆ รอบตัวที่มีอยู่ตามธรรมชาติ แล้วเอามาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบค่ะ



ฟอร์มต้นไม้ และกระดูก



หิน หอย ซากข้าวโพด รังผึ้ง เปลือกไม้



หรือแม้แต่โครงกระดูก หญิงปุ๊กไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมท่านเกาดี้ถึงได้มีจินตนาการลึกล้ำ สร้างสถาปัตกรรมรูปทรงประหลาดๆ ได้ ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เมืองทั้งเมือง ดีไซน์ตึกออกมาประหลาดๆ เยอะเลยค่ะ เรียกว่าเป็นเมืองของเกาดี้โดยแท้จริง