เที่ยวบรูไน ประเทศเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดา!! มีชื่อเต็มๆ ว่า เนการา บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) แปลว่าดินแดนแห่งความสงบสุข แถมยังติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศที่รวยที่สุดในโลก นอกจากความรวยมั่งคั่งแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายที่อยากให้ทุกคนไปสัมผัส หญิงปุ๊กได้รวบรวม 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในบรูไนมาให้แล้ว พร้อมร้องว้าววว! กันรึยังค้าา

เที่ยว มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดีน (Sultan Omar Ali Saifuddien)

ประเดิมที่แรกด้วย มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดีน หนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดของโลก!! ชื่อนี้ไม่ให้เค้าไม่ได้จ้า เพราะสวยจริงอะไรจริ๊ง อลังการเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์เลย *0* ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบันดาร์เซอรีเบอกาวัน (Bandar Seri Begawan) เมืองหลวงของบรูไนค่ะ ถือเป็นมัสยิดที่สำคัญของประเทศ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1958 ถ้าถามว่าชื่อนี้ได้แต่ใดมา นั่นก็มาจากชื่อของสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟัดดินที่ 3 สุลต่านองค์ที่ 28 ของบรูไน ที่เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการสร้างมัสยิดแห่งนี้ จึงได้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ท่านนั่นเองค่า

ภายในประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนและกระเบื้องคลาสสิค เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบอิสลามกับสถาปัตยกรรมอิตาลี จนได้ชื่อว่าเป็นมินิทัชมาฮาล อีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นก็คือโดมทองคำสูง 52 เมตร สร้างด้วยทองคำบริสุทธิ์มากถึง 3.3 ล้านแผ่น!! ใหญ่โตถึงขนาดที่ว่าจะอยู่ที่ไหนในเมืองก็สามารถมองเห็นมัสยิดแห่งนี้ได้อย่างแน่นอนนน

รอบๆ รายล้อมด้วยสวนกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดแสดงถึงดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ มีเรือจำลองพระราชพิธีในสระ ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับสวยสะกดใจสุดๆ ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวมุสลิมในบรูไน เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สวดมนต์ขอพร และยังใช้เป็นเวทีประกวดอ่านคัมภีร์อัลกุรอานอีกด้วยค่ะ

เที่ยวมัสยิดทองคำ เจมส์ อาร์ อัสซานัส โบลเกียห์ (Jame Asr Hassanil Bolkiah Mosque)

มัสยิดทองคำประจำชาติ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในบรูไน และถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ของมัสยิดที่งดงามที่สุดในโลกด้วยค่า! สร้างขึ้นบนพื้นที่ราว 2 แสนตารางเมตร สามารถรองรับผู้มาเยือนได้ถึง 5,000 คน สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1994 โดยใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 7 ปีแน่ะ หูววววว ต้องเพอร์เฟคแค่ไหน ถามใจเธอดูวววว >,<

โดยสร้างขึ้นในโอกาสเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 25 ปี ของสุลต่านแห่งบรูไนองค์ที่ 29 องค์ปัจจุบัน จึงสร้างโดมทองคำอันโดดเด่นจำนวน 29 หลัง ตัดกับหลังคาสีฟ้าน้ำทะเล มีบันไดทางขึ้น 29 ขั้น โคมไฟ 29 ดวง ภายในตกแต่งอย่างงดงาม วัสดุต่างๆ นำเข้ามาจากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนสีขาวจากอิตาลี แกรนิตจากเซี่ยงไฮ้ โคมคริสตัลจากอังกฤษ พรมเส้นใยพิเศษสั่งทอจากซาอุดิอาระเบีย และแชนเดอเลียร์ทองคำแท้ขนาดยักษ์จากออสเตรีย ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามด้วยพรมสีเหลืองทอง แอบเสียดายที่ห้ามถ่ายรูปด้านใน แต่ขอบอกเลยว่าอลังการสุดๆ ไม่มีผิดหวังจ้า

เที่ยวพระราชวังอิสตานา นูรุล อิมาน (Istana Nurul Iman)

พระราชวังอิสตานา นูรุล อิมาน เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! ความเป็นที่สุดต้องยกให้บรูไนจริงๆ ค่ะ ติดอันดับเยอะมว้ากกก ใหญ่กว่าพระราชวังบักกิ้งแฮม 3 เท่า และพระราชวังแวร์ซาย 4 เท่า *0* เป็นพระราชวังประทับของสุลต่านบรูไนและพระราชวงศ์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 มูลค่ากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีความงามโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบรูไนค่ะ ทุกอย่างนั้นถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นดี เลอค่าสุดๆ มีห้องกว่า 1,788 ห้อง ถ้าไปเล่นซ่อนแอบคาดว่าน่าจะใช้เวลาเป็นปีกว่าจะหากันเจอ 5555 ห้องน้ำ 257 ห้อง สระน้ำอีก 5 สระ โรงรถมีที่จอดรถกว่า 350 คัน มี Ferrari และ Rolls Royces ที่สั่งทำพิเศษคันเดียวในโลก เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 มูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ และเครื่องบินส่วนพระองค์อีก 6 ลำ คอกม้าติดแอร์สำหรับม้าแข่งโปโลขององค์สุลต่าน 200 ตัว นอกจากนี้ยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่จุคนได้ถึง 5,000 คนเลยทีเดียว เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย หูยยยยยย ขนลุกแป๊บบบบบ จะรวยอลังการอะไรขนาดนี้ >,<

เป็นทั้งทำเนียบรัฐบาลและใช้สำหรับต้อนรับบุคคลสำคัญที่มาเยือนจากต่างประเทศ และจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมแค่ปีละครั้งเท่านั้นนะจ๊ะ คือช่วงเทศกาลฮารีรายอ (Hari Raya) ของชาวมุสลิม ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับการแสดง อาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์และเครื่องดื่มอย่างดี ที่สำคัญคือได้มีโอกาสพบปะสุลต่านแห่งบรูไนและพระราชวงศ์ แถมยังได้รับของขวัญที่ระลึกจากองค์สุลต่านกลับบ้านไปอีกด้วยยย โอกาสพิเศษแบบนี้ ใครได้มาถือว่าคุ้มค่ามากๆ จ้า

เที่ยวพิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal RegaliaMuseum)

พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสมบัติล้ำค่าและน่าชมที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชียค่ะ เป็นที่รวบรวมและจัดแสดงข้าวของและเครื่องใช้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ทุกอย่างในนี้ทำด้วยทองคำเกือบทั้งหมด สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์จริงๆ ค่ะ

ภายในแบ่งออกเป็น 4 ห้องคือ ห้องจัดแสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หอศิลป์หลวง ห้องจัดแสดงนิทรรศการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบรอบ 25 ปี (Silver Jubilee) และห้องจัดแสดงนิทรรศการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี (Golden Jubilee) เราจะได้ชมฉลองพระองค์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ อาวุธทองคำ พระที่นั่งแบบจำลองก็มีให้ได้ชมกันด้วย นู่นก็ทอง นี่ก็ทอง ละลานตาไปหมดแล้วจ้าา *0* รวมทั้งเครื่องราชบรรณาการจากประเทศต่างๆ ที่มีความงดงาม เลอค่า และหาดูได้ยาก เช่น คริสตัล หยก งาช้าง เป็นต้น

ไฮไลท์ก็คือขบวนราชรถทองคำที่ถูกใช้จริงในงานพระราชพิธีต่างๆ อ่านไม่ผิดค่ะ รถทองงงงคำ! อู้หูววววว นอกจากนี้ยังมีการแสดงพระราชประวัติของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ความเป็นมาทั้งด้านวัฒนธรรมและความมั่งคั่งของประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และทำความรู้จักบรูไนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่า ก่อนเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ต้องถอดรองเท้า และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน ใครที่พกกล้องมาจะต้องฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านนอกเท่านั้นนะจ๊ะ

เที่ยวหมู่บ้านกลางน้ำกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer)

กัมปงไอเยอร์ หมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกกก! ยังไม่จบกับความเป็น "ที่สุด" นะจ๊าา >,< หมู่บ้านท่องเที่ยวเก่าแก่อันน่าหลงใหล มีอายุราวมี 1,500 ปี ตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงบันดาร์ เสรีเบกาวัน บนแม่น้ำบรูไน มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 39,000 คน หรือ 10% ของประชากรบรูไนทั้งหมดค่ะ กัมปงไอเยอร์เคยเป็นนครหลวงของจักรวรรดิบรูไน เป็นท่าเรือที่สำคัญของภูมิภาค และเป็นจุดรวมของพ่อค้าแม่ค้าจากตะวันตก จีน และประเทศเพื่อนบ้าน ชาวยุโรปยุคแรกๆ ที่เข้ามาได้เรียกหมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้ว่า เวนิสแห่งตะวันออก

เมื่อก่อนบ้านทั้งหมดทำจากไม้ มีเสาสูง คล้ายๆ บ้านริมน้ำในบ้านเรา แต่ที่นี่จะไม่มีพื้นดินและถนนเลยสักเส้นเดียว แต่ละหลังเชื่่อมต่อกันด้วยทางเดินที่ทำจากแผ่นไม้กระดาน มองไกลๆ หมู่บ้านนี้อาจจะดูไม่ค่อยเตะตา แต่ถ้าได้ลองเข้ามาใกล้ๆ จะเห็นได้ถึงความงามทางสถาปัตยกรรมโบราณ ทุกหลังมีระเบียงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงามมากๆ ค่ะ เราสามารถนั่งหรือหรือเดินสำรวจหมู่บ้าน เยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ส่วนใหญ่ทำอาชีพชาวประมงและเลี้ยงสัตว์ค่ะ ทุกบ้านจะมีเรือเป็นของตัวเอง

ปัจจุบันมีการสร้างบ้านรูปแบบใหม่ คล้ายบ้านจัดสรร เป็นบ้านคอนกรีตสองชั้น แต่ยังอยู่กลางน้ำเหมือนเดิม มีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้สะอาดมากขึ้น ถึงจะดูเรียบง่ายแต่ขอบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้เจริญไม่ต่างจากในเมืองเลยค่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต มัสยิด โรงเรียน โรงพยาบาล บ้าน สถานที่ราชการ สนามกีฬา ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานีตำรวจและสถานีดับเพลิง และอื่นๆ เรียกว่ามีครบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ค่า

พักโรงแรมหรู The Empire Hotel & Country Club

มาต่อกันที่ The Empire Hotel & Country Club โรงแรมที่หรูหราที่สุดในบรูไน! เป็นโรงแรมหรูระดับ 7 ดาว ใช้เวลาก่อสร้างมากกว่า 10 ปี มีขนาดใหญ่มากกกก เห็นครั้งแรกต้องอุทานว่า โอ้แม่เจ้า นี่พระราชวังรึเปล่าเนี่ยย *0* อลังการตั้งแต่ล็อบบี้ ยิ่งใหญ่ตระการตา ทั่วทั้งโรงแรมจะเป็นโทนสีทอง พร้อมแชนดาเลียที่ประดับด้วยคริสตัลชวารอฟสกี้ โอ้แม่เจ้า...ชวารอฟกี้ค่ะคุ๊ณณณ หรูหราปานใด๋ จำนวนห้องทั้งหมดสามารถรับนักท่องเที่ยวได้เกินครึ่งของปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งหมดในบรูไนเลยทีเดียว เค้ามีแผนที่โรงแรมให้ดูด้วยนะคะ เพราะมันใหญ่จริงๆ กลัวหลง 5555

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหารหรูหรา ศูนย์กีฬาต่าง ๆ สระว่ายน้ำถึง 8 แห่ง สนามกอล์ฟชั้นเลิศ โดยมีแจ็ค นิคลอส นักกอล์ฟชื่อดังเป็นคนออกแบบ ภายในสนามกอล์ฟ ประกอบด้วย เนินหญ้า แม่น้ำ แฟร์เวย์ที่แคบ บังเกอร์ขนาดใหญ่ และแสงไฟสำหรับการเล่นในตอนกลางคืน ที่สำคัญยังมีสปาที่รวบรวมศาสตร์แห่งการบำบัดจากทั่วทุกมุมโลกไว้ให้บริการด้วยค่า ส่วนภายในห้องพักกว้างขวาง มองเห็นวิวทะเลสวยๆ ได้แบบเต็มตา จัดว่าเป็นสถานที่ที่ใช้คำว่าหรูหราได้เปลืองมากๆ >,< ใครอยากรู้สึกเหมือนได้เป็นเจ้าหญิงในวังสุรต่านต้องลองมาพักกันดูสักครั้งนะค้า~

เครดิตรูปภาพจาก https://bit.ly/30qkO7h, http://www.empire.com.bn/

เที่ยวอุทยานแห่งชาติอูลู เทมบูรง (Ulu Temburong)

อุทยานแห่งชาติอูลู เทมบูรง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าฝนเขตร้อน ที่รวมพืชและสัตว์ป่าหายากนับพันชนิด บนพื้นที่กว่า 50,000 เฮกเตอร์ มีขนาดใหญ่ 1 ใน 4 ของพื้นที่ประเทศบรูไนเลยค่า เราจะได้เห็นลิงจมูกยาวและผีเสื้อราชาบรูกที่พบได้เฉพาะในประเทศบนเกาะบอร์เนียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด จนได้ฉายาว่า “มงกุฎสีเขียวแห่งบรูไน” อยู่ท่ามกลางภูเขา น้ำตก ทะเลสาบ ลำธารที่ใสสะอาดถึงขนาดว่ามองจากที่สูงลงมายังมองเห็นสัตว์ใต้น้ำได้เลยค่ะ เดินเมื่อยๆ ก็ลองมาผ่อนคลายกับสปาปลา จุ่มเท้าลงไปในน้ำ เหล่าปลาตัวเล็กตัวน้อยก็จะกรูกันเข้ามาตอดที่เท้า จั๊กกะจี้เบาๆ เพลินดีค่า

ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเดินชมสัตว์ป่า นั่งเรือยางล่องแก่งสุดตื่นเต้น ล่องแพไปตามแม่น้ำชื่นชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ตกปลาชิลๆ แคมปิ้งกลางป่า สัมผัสกับชีวิตของชนเผ่าพื้นเมือง ตกกลางคืนหากใครยังไม่เหนื่อย ก็ออกไปสำรวจเรื่องราวของเหล่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในเวลากลางคืน อุทยานแห่งนี้ต้องเดินทางเข้ามาทางเรือเท่านั้น เดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงจากเมืองหลวง แต่ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่ขอแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 2-3 คืนนะคะ เพราะในป่ากว้างแห่งนี้ยังมีอะไรให้เราค้นหาและตะลึงอีกเพียบ!

ไฮไลท์คือ Canopy Walkway ทางเดินลอยฟ้า เราจะต้องขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ กว่า 750 ขั้น ยังไม่ถึงก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ ลมเย็นๆ พัดผ่านตัว ระหว่างทางมีเสียงสัตว์รายล้อม เสียงแมลงร้องแบบเซอร์ราวด์ พอมาถึงยอดสุดของบันได ภาพที่เห็นเรียกคืนความสดชื่นกลับมาเลยค่ะ ได้มุมมองเหนือยอดไม้แบบ 360 องศา มีหมอกลอยชั้นๆ สวยงาม ดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด สะพานแขวนแขว่งเบาๆ ก็จะเสียวหน่อยๆ >,< ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยล่ะค่า

เครดิตรูปภาพจาก www.gettyimages.co.uk, https://bit.ly/2G2as62, https://bit.ly/2xDXCGm, https://bit.ly/32jlMV0, https://bit.ly/2xDXWoy

ล่องเรือชมลิงโพรบอสซิส (Proboscis Monkey)

อีกกิจกรรมที่หญิงปุ๊กแนะนำเลยคือ ล่องเรือชมลิงโพรบอสซิส ในแม่น้ำบรูไนค่า ชมบรรยากาศธรรมชาติทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ท่ามกลางต้นไม้เขียวและแนวต้นโกงกางเป็นที่อยู่ของนกน้ำนานาชนิด ทั้งนกยาง นกแขวก นกกระเต็น ฯลฯ ทีเด็ดคือลิงโพรบอสซิสหรือลิงจมูกยาว พระเอกของแม่น้ำสายนี้ ถ้าเราค่อยๆ ล่องเรือเข้าไปช้าๆ ลัดเลาะเข้าไปตามแนวต้นโกงกางแน่นทึบ เราจะได้เห็นลิงจมูกยาวอยู่เป็นฝูงเลยค่า จมูกนี่เด่นมาแต่ไกล ทำคลินิกไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ! เห็นจมูกแล้วน่ากัดอ่ะ 55555

เจ้าลิงเหล่านี้เป็นตระกูลคล้ายๆ ค่างค่ะ ท้องป่อง ขนสีน้ำตาลแดง หางยาว จุดเด่นคือตัวผู้โตเต็มวัยจะมีจมูกยาวคล้ายงวงช้างและลิงตัวเมียจะเลือกผสมพันธุ์กับตัวผู้ที่มีจมูกยาวที่สุดเท่านั้น ประมาณว่า ดั้งไม่โด่ง เราไม่สน โอ๊ย ... ตัวผู้ที่เหลือไม่ต้องเสียใจน๊า เดี๋ยวพี่จะพาหนูไปโมหน้าที่เกาหลีเอาให้หล่อแบบโอ้ปป้าไปเลย! ลิซ่ายังต้องเหลียวมอง! 5555 การล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะเจอเจ้าลิงเร็วหรือช้าและใช้เวลาถ่ายรูปนานแค่ไหน ค่าล่องเรือ 700 บาทค่ะ

เครดิตรูปภาพจาก https://bit.ly/2nUKQQ3

เที่ยวตลาดตามูเกียงเก้ (Tamu Kianggeh, Morning Market)

ตลาดตามูเกียงเก้ เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดค่ะ ตั้งอยู่ที่ถนน Sungai Kianggeh เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า – 6 โมงเย็น บรรยากาศเหมือนตลาดอตก.บ้านเราเลยค่ะ เมื่อก่อนเป็นตลาดสดกลางแจ้ง วางกับพื้นแบบบ้านๆ เลย ตอนหลังเค้าได้มีการปรับปรุงให้เป็นระเบียบและสะอาดขึ้นมากๆๆ เงียบสงบกว่าที่อื่นๆ ในเมือง มีของหลากหลาย ทั้งอาหารทะเล ของแห้ง อย่างปลาแห้ง กุ้งแห้งตัวโตๆ สมุนไพร พืชผักท้องถิ่น ผลไม้หน้าตาแปลกๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน มองอะไรก็ตื่นเต้นแปลกตาไปหมด มีของสด กุ้ง หอย ปู ปลา ไก่ และมีจำหน่ายสัตว์เลี้ยง นก สุนัข และแมว ด้วยค่า

พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ใจดีค่ะ ยิ้มแย้ม เรียกว่ามีของให้เลือกหลากหลาย แถมราคาไม่แพงด้วยค่า นอกจากอาหารแล้วยังมีของที่ระลึกที่เป็นงานฝีมือของคนท้องถิ่นขายด้วย ผู้คนจะมากันทางเรือหรือแท็กซี่น้ำ แง๊นๆ มาตลาด กินลมชมวิว น้ำกระเซ็นใส่หน่อยๆ สดชื่นนนยามเช้าค่า 5555

เครดิตรูปภาพจาก https://pantip.com/topic/35523258

เที่ยวตลาดกาดง (Gadong Night Market)

ปิดท้ายด้วยตลาดกลางคืนอย่าง ตลาดกาดง เป็นตลาดนัดของกิน เปิดตั้งแต่บ่าย 3 โมง – เที่ยงคืน ขึ้นชื่อเรื่องอาหารถูก แถมยังอร่อยมากกกกกกก เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า โรงภาพยนตร์ ร้านกาแฟ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบพร้อมทานค่ะ ซื้อแล้วทานตรงนั้นได้เลย เพลินเว่อออร์ มีกลิ่นของอาหารลอยเตะจมูกตลอดทาง อันนั้นก็ดี อันนี้ก็น่ากินนน ไก่ย่าง ไก่สะเต๊ะ ปลาเผา เคบับส์ เนื้อย่างบาร์บีคิว ทั้งของคาวของหวานเรียงรายละลานตา สวรรค์นักชิมโดยแท้!!! คำเตือน : รูปด้านล่างต่อไปนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อน้ำย่อยในกระเพาะของคุณค่ะ ปี๊ป่อ ปี๊ป่อ