จากรายงาน CLIA ได้รวบรวมสถิติ 10 อันดับแรกของท่าเรือสำราญหลักที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในปี 2018

จีนมีจำนวนการจอดของเรือสำราญสูงสุดถึง 416 ครั้ง รองลงมาคือ สิงคโปร์ 374 ครั้ง ไต้หวัน 322 ครั้ง ฮ่องกง 249 ครั้ง ฟุกุโอกะ ญี่ปุ่น 245 ครั้ง โอกินาว่า ญี่ปุ่น 231 ครั้ง ไทย 219 ครั้ง นางาซากิ ญี่ปุ่น 214 ครั้ง มิยาโกจิมะ ญี่ปุ่น 205 ครั้ง และอันดับที่ 10 คือ มาเลเซีย 183 ครั้งค่ะ

 

เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับท่าเรือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 7 อันดับ ในเอเชียปี 2018 กันค่า

 

ท่าเรือเป่าซาน เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Wusongkuo International Cruise Terminal) (Baosan)

ท่าเรือหลักขนาดใหญ่ของประเทศจีน อยู่ในเขตสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายสินค้าและมีปริมาณการขนส่งตู้สินค้ามากเป็นอันดับ 1 ของโลก!! ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ถือว่ามีความได้เปรียบในทำเลที่ตั้งมากกว่าท่าเรืออื่นๆ เลยนะคะ เพราะตั้งอยู่ตรงกลางแนวชายฝั่งทะเลของจีนที่ยาวกว่า 18,000 กิโลเมตร ครอบคลุมแม่น้ำหวงผู่ ปากแม่น้ำแยงซีเกียง และอ่าวหางโจว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำที่สำคัญ

และยังมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเรือสำราญ รัฐบาลจีนได้วางแผนให้ท่าเรือเซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในท่าล่องเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางเรือระดับโลกแล้ว ยังเป็นท่าเรืออันดับหนึ่งของจีนที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศด้วยค่ะ ซึ่งสามารถในการรองรับเรือสำราญได้ 5 ลำพร้อมกันทีเดียว! โอ้โหหห ใหญ่แค่ไหนถามใจเธอดู.. >,< ไม่ว่าจะเป็นเรือขนาดใหญ่ของ Royal Caribbean, Carnival Corporation, GHK-Genting และรองรับการท่องเที่ยว World Cruise นอกจากนี้จีนยังมีนโยบายยกระดับนครเซี่ยงไฮ้ ให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางเรือในระดับโลกภายในปี 2020 อีกด้วยค่า

การเดินทาง ท่าเรืออยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติซ่างไห่ผู่ตง (Pudong International Airport) 46 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที สามารถมาได้ทั้งทางรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัวค่ะ

บริเวณท่าเรือสามารถมองเห็นบรรยากาศของมหานครเซี่ยงไฮ้ มีแสงสีที่เปิดไฟประดับตามตึกสูงระฟ้าในยามค่ำคืน สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดก็คือ เดอะบันด์ (The Bund) ทางเดินเลียบแม่น้ำแสนโรแมนติก เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปอันงดงาม และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่กว่าร้อยปี งดงามดาวล้านดวงมากกๆ เหมาะกับการมาเดินเล่นกับคนรู้ใจ อิอิ

หอไข่มุก หนึ่งในหอส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในโลก รูปทรงของหอก็เก๋ไก๋แปลกตาสุดๆ ภายในมีทั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ โซนเกมส์ต่างๆ ร้านขายของที่ระลึก โรงแรม และร้านอาหารสุดหรู

 

ท่าเรือสิงคโปร์ (Marina Bay Cruise Center Singapore)

ถ้าใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้บ้าน เดินทางสะดวก และราคาสบายกระเป๋า แนะนำประเทศสิงคโปร์เลยค่า โดยท่าเรือสิงคโปร์หรือเรียกว่า มารีน่า เบย์ ครูซ เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในเส้นทางหลักของทางเดินเรือมาตั้งแต่อดีต ทำให้เป็นที่รู้จักของนักเดินเรือและเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญของโลก และยังเป็นเส้นทางผ่านของการเดินเรือที่มาจากอินเดีย ซึ่งจะผ่านไปยังออสเตรเลีย จีน นิวซีแลนด์และญี่ปุ่น สามารถเชื่อมต่อกับท่าเรือต่างๆ ถึง 600 ท่า ใน 123 ประเทศทั่วโลกเลยค่ะ

เป็นท่าเรือชายฝั่งธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับเรือที่มีความยาวมากกว่า 500 ฟุต เรื่องความทันสมัยเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบบริหารจัดการท่าเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่าเรือสิงคโปร์จึงเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญของเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสื่อสารรวมถึงการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกด้วยค่า

การเดินทางจากสนามบินชางงีมาที่ท่าเรือ สามารถเดินทางด้วยแท็กซี่ สะดวกที่สุด มีแท็กซี่เยอะมากๆ ค่าใช้จ่ายประมาณ SGD20 หรือ 500 บาท ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาจากสนามบินแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นค่า

ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และน่าสนใจมากมาย แถมยังติดอันดับโลกด้วยนะคะ ได้แก่ อ่าวมารีนา (Marina Bay) ไฮไลท์ก็คือ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ Merlion มีมุมสวยๆ ให้เลือกถ่ายรูปมากมาย ใครไม่ได้มาแชะภาพก็เหมือนมาไม่ถึง นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) สุดหรูหราที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ สะดุดตาด้วยดีไซน์สุดล้ำ ตั้งตระหง่านอยู่ริมอ่าวมารีนา

Gardens by the Bay เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ มีพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วโลก มีโดมเรือนกระจกติดแอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงน้ำตกจำลองสูงกว่า 30 เมตร และทางเดินลอยฟ้าด้วยค่ะ

 

ท่าเรือจีหลง ไต้หวัน (Keelung) 

ท่าเรือที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ตั้งอยู่ในเมืองจีหลง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไทเปค่ะ ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของไต้หวัน ด้วยความที่เป็นอ่าวน้ำลึกที่มีความเป็นธรรมชาติ รายล้อมด้วยภูเขา จึงทำให้มีทัศนียภาพที่งดงาม เต็มไปด้วยเรือสินค้า เรือประมง และเรือท่องเที่ยวอย่างเรือสำราญจากทั่วโลก ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สดมากก! โดยมี 2 จุดที่นักท่องเที่ยวใช้บริการได้ คือ

1. ศูนย์ข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารขาเข้าและขาออกจากเรือโดยสารระหว่างประเทศ มีเคาน์เตอร์ Tax Refund เคาน์เตอร์แลกเงินต่างประเทศ เคาน์เตอร์เช็คอินเรือโดยสาร เครื่องคืนภาษีอัตโนมัติ จุดชาร์ทแบต มีร้านค้าปลอดภาษี ศุลกากร ตู้เก็บของ (30 NT ต่อชั่วโมงและ NT400 ต่อวัน) และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ ค่า

2. Keelung Port E2 จุดนี้คือใหญ่โตสมใจ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนไม่แพ้กันเลย และยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 1,000 คนเลยทีเดียวว

การเดินทางมายังท่าเรือ Keelung ตั้งอยู่ที่ Zhongzheng Road เดินทางได้ด้วยรถไฟ โดยไปรถไฟสายสีเขียวให้มุ่งหน้าไปที่ถนน Gangxi ห่างไปเพียง 4 นาทีจะถึงสถานีรถไฟค่ะ

และจาก Keelung Port E2 ไปสถานีรถไฟสายสีแดงให้มุ่งหน้าไปทางถนนซินยี่ไปตาม Maritime Plaza (ถนน Zhong 1st) และข้ามสะพานลอย ห่างออกไปแค่ 8 นาทีค่ะ

ขอแนะนำ วัดเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ที่จงเจี้ยง ปาร์ค (Jhongjheng Park) วัดหันหน้าออกสู่ทะเล มีเจ้าแม่กวนอิมองค์สีขาว ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยปกปักรักษาให้การเดินเรือปลอดภัย และยังเป็นจุดสังเกตสำหรับนักเดินเรือเวลาเข้าสู่ท่าเรือด้วยค่ะ

 

ท่าเรือฮ่องกง (Hong Kong Port)

เป็นท่าเรือเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาตั้งแต่อดีต จนปัจจุบันกลายเป็นท่าเรือที่คึกคักมากที่สุด เป็นศูนย์กลางการเดินเรือของเอเชีย และเป็นหนึ่งในแหล่งอุตสาหกรรมและการค้าที่สำคัญของจีนค่ะ มีการขนถ่ายสินค้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น มีอ่าวจอดเรือขนาดใหญ่ที่เหมาะกับเรือสำราญไซส์บิ้ก!! มีท่าจอดเรือทั้งหมดถึง 24 ท่า

โดยในปัจจุบันฮ่องกงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนเลือกมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอันดับต้นๆ ในเอเชีย เพราะนอกจากจะมีของกินสุดอร่อย สถานที่ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ถ้าใครมีเวลาหลายๆ วัน เราขอแนะนำให้เลือกโปรแกรมล่องเรือสำราญท่องทะเลเที่ยวฮ่องกงดูนะคะ ทริปมีตั้งแต่ 4 คืนขึ้นไป ชมวิวสวยๆ ของอ่าววิคตอเรีย และการผสมผสานระหว่างชีวิตคนเมืองตะวันออกและตะวันตก สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่ทันสมัยทำให้ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นจุดล่องเรือสำราญอันยอดเยี่ยม!! 

การเดินทางมาท่าเรือก็แสนง่าย เราสามารถใช้บริการรถแท็กซี่จาก สนามบิน Hong Kong International Airport ไปยังท่าเรือสำราญ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีค่า

ถึงจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่เที่ยวมากมาย รวมถึงแลนด์มาร์คสวยๆ อย่าง วิคตอเรียพีค (Victoria Peak) ยอดเขาสูงที่สุดในในฮ่องกง เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกงได้ทั้งหมดแบบพาโนราม่าเลยค่ะ

ถ่ายรูปตึก Yick Fat Building จากหนัง Transformers

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ โลกการ์ตูนในฝันที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อยากมาสัมผัสสักครั้ง

และยังเป็นสวรรค์ของนักช้อปทั้งหลาย นั่นคือช่วงเวลาแห่งการ SALE! หรือเทศกาลฮ่องกงลดทั้งเกาะนั่นเองค่ะ

 

ท่าเรือฮากาตะ ฟุกุโอกะ ญี่ปุ่น (Port Hakata, Fukuoka)

เมืองท่าอันแสนเจริญรุ่งเรือง ถือเป็นท่าเรือที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียว 880 กิโลเมตร ในอดีตเป็นท่าเรือที่ใช้ทำการค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะกับจีนและเกาหลี จึงทำให้วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม อาหาร ศิลปะ และศาสนาถูกเผยแพร่เข้าสู่ญี่ปุ่น ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีเรือจากนานาชาติพาแขกต่างชาติมาเยี่ยมชม และยังมีเรือครุยส์ต่างประเทศล่องไปมาที่เมืองท่าแห่งนี้ด้วยค่ะ 

ฟุกุโอกะ เป็นเมืองขนาดกะทัดรัดที่เพียบพร้อมไปด้วยสนามบินนานาชาติ สถานีรถไฟ และท่าเรือ เป็นจุดจอดเรือต่างๆ มากมาย ตัวอาคารผู้โดยสารมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังได้รับเลือกจากนิตยสาร Monocle ประเทศอังกฤษ ให้เป็น 25 เมืองที่อยู่อาศัยง่ายที่สุดของโลก ซึ่งขึ้นชื่อในด้านวัฒนธรรม อาหารแสนอร่อย แหล่งช้อปปิ้ง และการท่องเที่ยว เพราะอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือและเมืองท่องเที่ยวอีกหลายแห่งนั่นเองค่า

การเดินทาง สามารถมาได้ทางรถไฟใต้ดิน โดยตั้งอยู่ในอาคาร Domestic Terminal building มีชื่อสถานีว่า Fukuoka Kuko นั่ง Shuttle Bus มาขึ้นรถไฟก็ได้นะคะ ที่นี่มีให้บริการฟรี

Airport Bus ราคาคนละ 260 เยน, เด็ก 130 เยน ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที 

แท็กซี่ ค่าเดินทางเข้าสู่ท่าเรือจะอยู่ที่ประมาณ 1,700 เยน ค่า

หอคอยท่าเรือฮากาตะ (Hakata Port Tower) ตั้งอยู่ริมอ่าวฮากาตะ ใกล้กับท่าเรือ เป็นหอคอยสีแดงที่มีความสูง 100 เมตร สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและท่าเรือต่างๆ ได้ แบบ 360 องศา นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์กของเมืองฟูกุโอกะเลยล่ะค่ะ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เกงโกะ (Genko Historical Museum) ตั้งอยู่ที่หน้าศาลาว่าการเมืองฟูกุโอกะ อุทิศเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงสงครามในอดีต ภายในจัดแสดงอาวุธ ชุดเกราะ ทั้งของนักรบซามูไรและกองทัพมองโกล ยังมีภาพวาดสงครามให้ชมอีกด้วย

 

ท่าเทียบเรือหาดป่าตอง ภูเก็ต ไทย (Patong Port, Phuket)

หาดป่าตอง หาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวทางเรือสำราญ จุดแข็งของที่นี่ก็คือ มีทำเลที่ตั้งที่ดี มีชื่อเสียงของแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงมากมาย เป็นเกาะเล็กๆ โอบล้อมด้วยทะเลสวย หาดทรายขาว ภูเขา อยู่ท่ามกลางกลิ่นไอธรรมชาติและความเป็นท้องถิ่นที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม ท่าเรือยังไม่มีความพร้อม เรือสำราญยังต้องจอดอยู่กลางทะเล แล้วใช้เรือเล็ก Tender ในการขนส่งผู้โดยสารขึ้นลงฝั่ง ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่จะพัฒนาท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ตให้ได้ตามมาตราฐาน Turn Around Port ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมรองรับเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางเรือสำราญในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยวเรือสำราญเติบโตในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะเอเชียนั่นเองค่ะ

ท่าเรืออยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดย Airport Bus Express ให้บริการเวลา : 8.00 – 20.00 น. (สนามบิน – หาดป่าตอง) และ 6.00 – 18.30 น. (หาดป่าตอง – สนามบิน) ค่ารถคนละ 50 – 120 บาท ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 55 นาที

รถตู้สาธารณะ เดินลงเครื่องออกประตูขวาสุด มีเคาท์เตอร์ขายตั๋ว เดินตรงไปซื้อตั๋วได้เลยจ๊ะ ค่ารถคนละ 180 – 200 บาท (Joy Group) ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที 

หาดป่าตอง ชายหาดยาวขนานไปกับทะเลอันดามัน หาดทรายสีขาวอ่อนๆ น้ำใสๆ เหมาะกับการมาพักผ่อน หย่อนใจ และเล่นกิจกรรมทางน้ำ

Bangla Walking Street ถนนที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงยามค่ำคืน พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความคึกคักของเสียงเพลงทั้งกลางวันและกลางคืน

 

ท่าเรือกลัง มาเลเซีย (Klang Port)

ท่าเรือหลักเก่าแก่ของมาเลเซีย ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 10 ของท่าเรือที่ดีที่สุดในเอเชียค่า เป็นสถานีการค้าที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองและประตูหลักทางทะเลสู่มาเลเซีย และยังเป็นท่าเรือที่ใหญ่ทันสมัยและคับคั่งที่สุดของประเทศ สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้แบบสบายๆ เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเป็นท่าเรือที่อยู่ระหว่างช่องแคบมะละกา (Malacca Straits) ปัจจุบันเป็นท่าเรือที่มีปริมาณตู้สินค้าติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลก มีการสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างท่าเรือกับเมืองกัวลาลัมเปอร์ โดยเรือสำราญจะออกจากท่าเรือที่ Marina Bay Cruise ที่สิงคโปร์เป็นหลักค่ะ มีเส้นทางล่องเรือที่แวะไปเยือน Port Klang, George Town/Penang และ เกาะ Langkawi Island ของประเทศมาเลเซีย และเรือจะไปจบที่สิงคโปร์ 

สถานที่เที่ยวไฮไลท์ ได้แก่ เที่ยวตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) ตึกแฝดที่สูงที่สุดในมาเลเซีย และถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองกัวลาลัมเปอร์ด้วยค่ะ มีความสูงถึง 452 เมตร มีทั้งหมด 88 ชั้น ภายในมีทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ศูนย์ประชุม แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ จุดชมวิว และศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย

ถ้ำบาตู (Batu Caves) ถ้ำหินปูนที่เก่าแก่ ประมาณ 400 ล้านปี ถือเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู จุดเด่นคือ รูปปั้นพระขันธกุมารสีทองอร่ามตั้งเด่นสง่าอยู่ด้านหน้าบันไดทางขึ้น ซึ่งมีความสูงถึง 42.7 เมตร เลยทีเดียวค่า