ล่องเรือสำราญ Mariner of the Seas DAY 3

               วันที่ 3 ของการล่องเรือสำราญก็ได้มาถึงเลี้ยว เรือจะจอดเทียบท่าที่เกาะลังกาวี วู้ววู้ว! เกาะนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของเกาะต้องคำสาป (อยากรู้ประวัติความเป็นมาของคำสาปเสิร์ชอากู๋เลยค่า) เรือเข้ามาจอดเทียบท่าตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า และออกจากท่าเรือเวลา 6 โมงเย็น  แปลว่าเราต้องขึ้นมาอยู่บนเรือตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นแล้ว กันพลาดตกเรือนะเด้อ 5555 ห้องอาหารก็จะเปิดให้บริการตลอด นับว่าไม่อ้วนไม่ต้องกลับไทยเล้ย ในเกาะลังกาวีนี่ศูนย์รวมห้าง Tax Free หรือห้างปลอดภาษีเลย เห็นหลายที่มากๆ

 

               ที่มาเลเซีย ช็อคโกแลตจะเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ เยอะแยะไปหมด ยิ่งไวท์ช็อคโกแลตนี่อร่อยเว่อร์ แถมราคาก็โอเค น่ารักสมราคา และเราก็ตามสเต็ปเดิมเลยค่า เราก็สแกนบัตร SeaPass เพื่อออกจากตัวเรือ โป๊ะเช๊ะ ฝนตกไปอีก แต่ดีนะที่ตกปรอยๆ บวกกับว่าเราลงจากเรือเลทนิดหน่อย เพราะมัวแต่ทานอาหารกันเพลิน 5555 ลงมาก็แทบจะไม่เห็นแท็กซี่แล้ว เศร้ามาก ซึ่งถ้าเราลงมาไวกว่านี้ เราก็เรียกแท็กซี่เพื่อนั่งเข้าตัวเมืองได้เลย

               ค่าแท็กซี่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 ริงกิต (ขาไป) แต่ว่าเราลงมาเลท ก็เลยเหลือแต่รถตู้ เลยต้องนั่งรถตู้เข้าเมืองไป ค่าบริการถตู้จะอยู่ที่คนละ 30 ริงกิต (ขาไป) ทั้งแท็กซี่และรถตู้จะไม่รวมขากลับ เพราะเขาจะไม่จอดรอเราเที่ยวแล้วรับกลับนะค้า ลงจากรถตู้แป๊ป จ่ายตังค์ปุ๊บ ขับกลับปั๊บ รถตู้ไหน..ไฟแรงเฟ่อ 555

 

               สถานที่ในเกาะลังกาวีส่วนใหญ่แล้วจะไม่ไกลกันเท่าไหร่ เลยสามารถเดินไปที่นู่นที่นี่ได้สบายย เราก็นั่งรถตู้เข้าเมืองมาที่ห้าง มาซื้อของฝากเอย ช็อคโกแลตเอย ของเต็มไปหมด พอซื้อของเสร็จก็เดินออกมา เลี้ยวซ้ายจะเจอ Underwater World อยู่ติดกับ McDonald ถ้าใครอยากเข้าไปดูอควาเรียมก็ต้องเสียค่าเข้านาา งานนี้มิฟรี

เราก็เดินออกมาจาก Underwater World เลยไปหน่อยๆ จะมีซอยข้างทางเล็กๆ ให้เดินลึกเข้าไป พอเดินไปปุ๊บ แถ่นแท๊นน~ หาดลังกาวีอยู่นี่ไง หาดนี้ในช่วงหัววันหรือช่วงตอนกลางวันสายๆ ตัวหาดจะมีความเงียบหน่อยๆ เพราะหาดจะร้อน-ร้อนมากกกก ร้อนแบบแดดเผาไหม้สุดด คนเลยหนีแดด ไม่ค่อยเข้าหาดกันเท่าไหร่ แต่หลังจาก 17.30 น. นี่สิ คนจะแน่นเอี๊ยดเลย ทั้งคนท้องถิ่น คนต่างชาติ มากันหมด!

 

               แต่เมื่อมาถึงลังกาวีแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดที่สุดเลยคือนั่ง Cable Car มันคือรถกระเช้าลอยฟ้า ดูวิวธรรมชาติของเกาะลังกาวี คือสวยมาก ธรรมชาติสุด พอเที่ยวบนเกาะลังกาวีเสร็จแล้ว ก็เรียกแท็กซี่เพื่อที่จะกลับเข้าขึ้นเรือได้เลย ระยะทางไม่ไกลกันมาก ค่าแท็กซี่จะอยู่ที่ประมาณ 30 ริงกิต (ขากลับ) นั่งไปแปปเดียวเราก็ถึงท่าเรือ จากขาออกจากเรือฝนตก ผ่านไปแปปเดียวแดดร้อนซะงั้น! อะ พอเรากลับขึ้นเรือ ก็ต้องทำตามกฎของเขาตามเดิม สแกนบาร์โค้ดวนไปค่า

 

               หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของเรานั่นก็คือ กินกินกิน และกิน! แต่ครั้งนี้เราจองห้องอาหารพิเศษไว้ด้วยแหละ เริ่มอยากอัพเกรดการกินของตัวเอง 5555 วันนี้เราจองห้องอาหารชื่อว่า Chops Grille แค่ฟังชื่อก็รู้ละชิมิว่าเป็นอาหารสไตล์ไหน อิอิ เรื่องสเต็กนี่ต้องที่นี่ค่าา มีทุกเนื้อตั้งแต่ เนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อวัว ยันเนื้อแกะ แล้วคืออร่อยมากก เข้าปากทีหลับตาพริ้มม ฟินทุกคำ และเนื่องจากเป็นห้องอาหารพิเศษ ดังนั้น ราคาก็จะพิเศษตามค่า 5555 ไม่ฟรีนะเออ อาหารที่ได้จะเป็นแบบคอร์ส ก็คือเสิร์ฟอาหารทานเล่นก่อน ตามด้วยอาหารหลัก และปิดท้ายที่ขนมหวาน ที่เราสั่งไปมี แมคแอนด์ชีสเป็นอาหารทานเล่น (นี่ทานเล่นแล้วหรอ 555) และซีซาร์สลัด

 

ส่วนอาหารหลักคือแซลมอนครีมซอส และปิดท้ายที่ของหวานด้วย นิวยอร์กชีสเค้ก เวลากินแซลมอนคู่กับแชมเปญ คือดียยยย์จริง อยากจะมาทุกวัน ส่วนค่าใช้จ่ายต่อคนนั้นจะอยู่ที่คนละ $35 รวมทิปแล้วจย้าา ถือว่าคุ้มค่าและประทับใจ อ้อ! ลืมบอกเลยว่า ก่อนจะเข้าห้องอาหารพิเศษ จะต้องดูแลเรื่องการแต่งตัวนิดนึงนะค้า จากที่ปกติเข้าห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ แต่งตัวชิลๆ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนให้สุภาพขึ้น ใส่เดรส หรือผู้ชายจะใส่เชิร์ตก็ได้ค่ะ แอบเห็นบางคนถึงขั้นใส่สูทผูกหูกระต่ายด้วยนะเออ

 

 

ปิดท้ายที่ของกินเนี่ยแหละ อิอิ รอช้าอยู่ใย กดอ่านตอนต่อไปกันเล้ย

 

อ่านต่อตอนอื่นๆ ได้ ตามข้างล่างนี้เลยค่า

Part 1 - หนีงานมาล่องเรือ จะเจออะไรบ้างนะ (Cruise From Singapore)

Part 2 - เที่ยวจอร์จทาวน์ ปีนัง กับพิพิธภัณฑ์สุดพิลึก และ Street Art ยอดนิยม (George Town, Penang)

Part 4 - Lost in Mariner.. ทำอะไรบนเรือ 24 Hours? (Cruising Mariner of the Seas)

Part 5 - Back to basic อยู่ต่อเลยได้มั้ย~ (Cruise back to Singapore)

 

 

Nan: 2018-04-25