ภาพรวมเรือ Odyssey of the Seas

 

ข้อมูลตัวเลข


 

 

 

ไลฟ์สไตล์บนเรือ Odyssey of the Seas
ไฮไลท์ของเรือ
เส้นทางล่องเรือของ Odyssey of the Seas
ยินดีต้อนรับสู่เรือ Odyssey of the Seas

 

บริการที่รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายของท่านแล้ว

 

Include: ห้องพัก (Stateroom / Suites)

Odyssey of the Seas ได้จัดเตรียมห้องพักตามแบบที่ท่านได้จองไว้ มีการปรับปรุงจัดการเรื่องขนาดและโซนของห้องพักให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เดินทางที่หลากหลายมากขึ้น ภายในห้องจะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น
    • ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ พื้นที่นั่งเล่นพร้อมโซฟา
    • โทรศัพท์ ทีวี ไดร์เป่าผม
    • พนักงานทำความสะอาดและจัดที่นอนประจำห้อง บริการทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
หมายเหตุ: เครื่องดื่มที่วางอยู่ในห้อง เช่น น้ำอัดลมกระป๋องหรือน้ำดื่มบรรจุขวดจะมีค่าใช้จ่าย
 
ห้องพักบนเรือมี 4 ประเภทหลัก และ 10 ประเภทย่อย ได้แก่ ห้องไม่มีหน้าต่าง ห้องมีหน้าต่าง ห้องมีระเบียง และห้องสวีท มีความกว้างตั้งแต่ 16 ตารางเมตร ไปจนถึง 107 ตารางเมตร มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันค่า ทุกท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  วิธีเลือกห้องพักสำราญอย่างไรให้ถูกใจ เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ เรามาเริ่มกันที่ห้องแรกกันก่อนเลยค่า 
 
Interior Virtual Balcony ห้องไม่มีหน้าต่าง มาพร้อมกับวิวระเบียงเสมือนจริง ห้องนี้สามารถพักได้ สูงสุด 4 ท่าน ภายในมีความกว้าง 16 ตารางเมตร ค่ะ 

 

Oceanview ห้องมีหน้าต่าง ห้องนี้พักได้สูงสุด 4 ท่าน ภายในมีความกว้าง 17 ตารางเมตรค่ะ 


 
 

Balcony ห้องมีระเบียง พักได้สูงสุด 4 ท่าน ภายในห้องมีความกว้าง 19 ตารางเมตร และ มีระเบียงที่มีความกว้าง 5 ตารางเมตรค่ะ 
 

  

 
Grand Suite ห้องสวีท พักได้สูงสุด 4 ท่าน ภายในห้องมีความกว้าง 33 ตารางเมตร และระเบียงส่วนตัวมีความกว้าง 24 ตารางเมตรค่ะ 

 

 
 
Owners Suite ห้องสวีทพักได้สูงสุด 4 ท่าน ภายในห้องมีความกว้าง 51 ตารางเมตร และ มีระเบียงส่วนตัวที่มีความกว้าง 24 ตารางเมตรค่ะ 


 
 
 
Grand Loft Suite ห้องสวีทพักได้สูงสุด 4 ท่าน ภายในห้องมีความกว้าง 65 ตารางเมตร และ มีระเบียงส่วนตัวมีความกว้าง 20 ตารางเมตรค่ะ 



 
 
เนื่องจาก Odyssey of the Seas นั้นอยู่ในคลาสเดียวกันกับเรือ Spectrum of the Seas เลยขอยกตัวอย่างห้องพักของเรือ Spectrum of the Seas preview video มาให้ดูค่ะ
นอกจากนี้ยังมีห้องประเภท Ultimate Family Suite ห้อง Gold Suites ห้อง Silver Suites ที่มีพื้นที่ส่วนตัว (Private Areas) มีทั้ง ร้านอาหาร 2 แห่ง เลานจ์อีก 2  แห่ง ยังมีจุดระเบียงรับลม และชมวิวทิวทัศน์อย่าง The Balcony และ โซนช็อปอย่าง The Boutique และโซนสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วยค่า
 
 
Ultimate Family Suite ห้องที่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ พักได้สูงสุดถึง 11 ท่าน ภายในมีความกว้าง 107 ตารางเมตร และมีระเบียงส่วนตัว กว้างประมาณ 20 ตารางเมตรค่ะ ภายในห้องยังมีทั้งสนามเด็กเล่น โต๊ะฮอกกี้  ผนังเลโก้ โรงหนังส่วนตัวแบบ 3 มิติ รวมถึงสไลเดอร์ส่วนตัวเอาใจน้องๆ หนูๆ  มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ห้องนี้ถูกออกแบบมาเช่นเดียวกับเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Symphony of the Seas

 

Include: อาหาร (Meals)

เรือสำราญจะให้บริการอาหารมื้อหลัก เช้า กลางวัน และอาหารค่ำ ครบอย่างน้อยสามมื้อต่อวัน นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารรองท้องระหว่างมื้อ อาหารหรือขนมทานเล่น และอาหารรอบดึก โดยภายในเรือลำนี้จะมีภัตตาคารหรูมากกว่า 20 แห่ง ให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการได้เกือบตลอดทั้งวัน

 
 
ห้องอาหารค่ำหลัก หรือ 'Main Dining Restaurant' ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของเรือ  ห้องอาหารแห่งนี้รองรับแขกได้ทั้งหมด 1,844 ที่นั่ง มีพนักงานคอยให้บริการแขกทุกท่านอย่างดีเยี่ยม อาหารจะมีทั้งอาหารจีน และ อาหารนานาชาติ รวมถึงเมนูอาหารตามสั่งอื่นๆ อีกมากมาย ห้องอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการในช่วงเช้า เวลา 7:30 - 10:00 น.  มื้อกลางวันเปิดให้บริการ 12.00-13:30 น. และ มื้อเย็นเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.30-21.30 น. ค่า  
 
ห้องอาหารแบบบุฟเฟต์ คือ 'Windjammer Marketplace' ตั้งอยู่บนชั้น 14 เปิดให้บริการในช่วงมื้อเช้าเวลา  6:30-11:00 น. มื้อกลางวันเวลา 11:30-15:30 น. และมื้อค่ำเวลา 6:00-21:00 น. เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ มีไลน์บุฟเฟต์แบ่งเป็นสถานี มีทั้งอาหารจีน และ อาหารนานาชาติทั่วไป ได้แก่ สลัด เนื้อ ไส้กรอก แฮม แซนวิช ขนมปัง คุกกี้ และผลไม้ เป็นต้นค่า 
 
The Cafe @ Two70 เปิดให้บริการสำหรับมื้อเช้า 7:30-11:00 มื้อกลางวัน/มื้อค่ำ เวลา 11:30-17:30 ร้านคาเฟ่นี้ตั้งอยู่ด้านหน้าห้องโถงใหญ่ Two70 มีโต๊ะและโซฟาให้นั่งชิลมากมาย อาหารมีตั้งแต่สลัด ซุปร้อน แซนวิสเย็น และร้อน ขนมปัง โยเกิร์ต และผลไม้ มีกาแฟอุ่นๆ และชาร้อนไว้จิบไป นั่งชมวิวทะเลไปค่ะ แถมตรงบริเวณนี้มีโชว์ดีๆ ให้ดูตลอดค่ะ

 
Seaplex Dog House ตั้งอยู่บนชั้น 15 เปิดสำหรับมื้อกลางวัน/มื้อค่ำ  11:30-19:00 ลักษณะร้านจะคล้ายกับ Boardwalk Dog House บนเรือในตระกูลของ Oasis Class ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารจานด่วน หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา เมนู มีทั้ง ฮอทดอกให้ทานเล่น พร้อมขนมปัง และส่วนผสมมากมาย และมีชอสหลากหลายชนิดให้เลือกอีกด้วยค่า
 
Sorrento's ตั้งอยู่บนชั้น 14 ร้านพิซซ่า เปิดให้บริการสำหรับมื้อเที่ยงจนถึงตีสาม ระหว่างเวลา 11:30-03:00 น. ภายในตกแต่งด้วยผนังอิฐและเตาอบไม้ ร้านพิซซ่าหอมกรุ่น อุ่นจากเตา ทำมาจากแป้งสดใหม่ หอมละมุน โรยหน้าด้วยชีสนุ่มๆ ยังมีเมนู ไก่บาร์บีคิว และเมนูของหวานตบท้ายทั้งไอศกรีม และช็อกโกแล็ต ที่นี่ยังมีบริการเครื่องดื่มอีกมากมาย (สำหรับเครื่องดื่มต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่า) 
 

Include: โชว์และการแสดง (Entertainment)

Two70° ชั้น 5, 6 และ 7  ภายในห้องโอ่อ่า กว้างขวาง ผนังเป็นกระจกใสสูงโปร่ง ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ภายในโซนนี้เต็มไปด้วย เก้าอี้เรียงราย บาร์ เลาจน์ และคาเฟ่ เป็นจุดที่บรรยากาศดีที่สุดพร้อมกับวิวทิวทัศน์พาโนราม่า 270 องศา ที่สวยงามจับใจ ในยามค่ำคืนยังมีโชว์การแสดงต่างๆ อาทิเช่น โชว์กายกรรมสุดตื่นเต้นและหวาดเสียว การแสดงละครเวที รวมถึงการแสดงดนตรีสดต่างๆ ให้แขกผู้เข้าพักได้มีความสุข เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกันกระหึ่มไปทั่วทั้งเรือค่า ที่สำคัญในช่วงยามเย็นที่นี่เปรียบเสมือนไนท์คลับของผู้ใหญ่ ที่มีทั้งฟลอร์เต้นรำสุดอลังการ พร้อมเครื่องดื่ม และความบันเทิงมากมายสุดคับคั่งตระการตา นัดผองเพื่อนมารวมตัวกันได้เลยค่า
 
 
 

Include: กิจกรรมความสนุกสนาน (Activities)

 
สนุกไปกับ Sky Pad เครื่องเล่นแทรมโพลีนพร้อมกับใส่แว่น VR สามมิติ เพิ่มความเสมือนจริงและเพิ่มความมันส์ ให้เด็กๆ ได้กระโดดเด้งกันดึ๋งๆ เอาให้มันส์ กันสุดเหวี่ยง ไปเล๊ยยยย พิกัดมากันได้ที่ชั้น 16 บนเรือสำราญค่า
 
 
 
  
 
เครื่องเล่น The North Star ตั้งอยู่บนชั้น 16 ค่ะ กระเช้าลอยฟ้าชมวิวได้ 360 องศา ความสูงก็ราวๆ 300 ฟุต หรือ 91 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลนั่นเองค่า จุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ที่ใครๆ ก็อยากขึ้นมาชมวิวมุมสูง เพื่อชมความงดงามของน่านน้ำมหาสมุทรสุดกว้างใหญ่ มองเพลินไปไกล จนสุดลูกหูลูกตา แนะนำว่ารีบทำการจองล่วงหน้านะคะ เพราะจะมีคนต่อคิวกันเยอะทีเดียวในจุดนี้
 
 
 
 
 
FlowRider เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่น มันส์ๆ อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ที่ใครได้ขึ้นเรือสำราญของสายเรือ Royal Caribbean ต้องห้ามพลาด พิกัดมากันได้ที่  ชั้น 16 บนเรือสำราญได้เลยค่า
 
 
 
 
 
Rock Climbing Wall ชั้น 15  กิจกรรมสำหรับผู้ที่รักการปีนหน้าผา บนเรือสำราญ Spectrum of the Seas  หน้าผาจำลองบนชั้นดาดฟ้า ด้วยความสูง  30 ฟุต  เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ธรรมดาจริงๆ "ปีนจนเหนื่อย ทำเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียวคร๊า"  ที่นี่เขามีอุปกรณ์รองเท้าปีนเขา และหมวกกันน็อคไว้ให้ค่า และเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองด้วยนะคะ
 
 
 
 
 

บริการที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ถึงแม้ Odyssey of the Seas จะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ท่านอย่างพอเพียงแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายความสุขสนุกสนานที่จัดเตรียมรอไว้สำหรับท่านที่ต้องการสิ่งที่พิเศษกว่า บางบริการอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิเช่น:
    • บริการรถรับ - ส่งระหว่างท่าเรือ สนามบิน และในเมือง
    • การซื้อสินค้าและบริการบนเรือ
 
    • การซื้อทัวร์ชายฝั่ง (Shore and Land Excursion)
 
    • การสั่งเครื่องดื่มในบาร์ ไนท์คลับ เลาจน์



 



    • แพ็คเกจเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ (Beverage Package)

        • ตัวอย่างราคา Beverage Package

        • Classic Soda Package: Non Alcohol (Coca-Cola) = US $9.99 ต่อวัน

        • Deluxe Package (Selected Alcoholic) = US $52.00 ต่อวัน

        • Evian Bottled Water Package = US $39.00 ต่อคน






    • บริการอินเตอร์เน็ต ทั้งในส่วนของ Business Center และ Wi-Fi

        • ตัวอย่างราคาค่า Wi-Fi โดยประมาณ

        • Surf & Stream 1 Device = US $13.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ

        • Surf & Stream 2 Device = US $20.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ

        • Surf & Stream 3 Device = US $23.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ

        • Surf & Stream 4 Device = US $26.99 ต่อวัน x จำนวนวันที่ล่องเรือ






    • บริการโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศ
 
    • การเล่น Casino บนเรือ
 
    • บริการเสริมความงามและสปาที่ VITALITY® at Sea Spa
 
    • อาหาร ขนม และสิ่งของสั่งพิเศษสำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษ
 
    • บริการทางการแพทย์
 
    • บริการซักรีด 24 ชั่วโมง
 
    • เช่าสูท หรือทักซิโด้



 
 
 
 

ห้องอาหารพิเศษ (Specialty Restaurant)

 
Jamie's Italian สำหรับใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนต้องมาที่ร้านอาหารนี้เลยค่า รองรับแขกได้เพียง 132 ที่นั่ง โดยเชฟชาวอังกฤษ Jamie Oliver ผู้ที่หลงใหลในอาหารอิตาเลี่ยนเป็นผู้รังสรรค์เมนูสุดอร่อย  โดยสไตล์การเสิร์ฟอาหารมาบนเขียงขนาดใหญ่ อาหารแนะนำ ได้แก่ Crab and Avocade Bruschetta, penne pomodoro, linguine with prawns และ eggplant parmigiana เป็นต้นค่า (คิดค่าบริการต่อท่านค่า) ห้องอาหาร Jamie's Italian เปิดให้บริการช่วงมื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-13.30 น. และ มื้อค่ำเวลา 18.00 - 21.30 น. หากใครมาที่นี่ เมนูสปาเก็ตตี้ และลาซานญ่า ก็อร่อยจนต้องบอกต่อเลยหละค่า 
 
 
 
 
 
Sichuan Red เรียกได้ว่า เป็นภัตตาคารอาหารจีนสูตรพิเศษเลยก็ว่าได้ค่า เน้นให้บริการอาหารต้นตำรับดั้งเดิมในแบบมณฑลเสฉวนของจีน รสชาติสุดแสนอร่อย นุ่มลิ้ม และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศในแบบฉบับอาหารเอเชียแท้ๆ 
 
 
 
 
 
Chops Grille ตั้งอยู่ชั้น 5 บนเรือค่า ร้านอาหารเต็กเฮ้าท์ และซีฟู้ดระดับพรีเมี่ยม ถือเป็น signature ของที่นี่เลยก็ว่าได้รองรับแขกได้เพียง 130 ท่านเท่านั้น เปิดให้บริการในช่วงมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ไปจนถึง 21.30 น. โดยจ่ายเพิ่ม $39 เหรียญต่อท่านค่า เมนูอาหารที่พลาดไม่ได้คือ สเต็กเกรดเอ เนื้อแกะย่างหอมกรุ่น ซี่โครงรสชาติเยี่ยม เมนูซีฟู้ดสุดพรีเมียม กุ้งล็อปสเตอร์  หอยเชลล์ ปลาทูน่า ตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่มีให้เลือกอีกมากมาย 
 
 
 
 
 
Teppanyaki ตั้งอยู่บนชั้น 14 ร้านอาหารญี่ปุ่นฮิบาชิ ต้นตำหรับแท้ รสชาติละมุนนุ่มลิ้นอร่อยอย่าบอกใคร เป็นห้องอาหารพิเศษ ที่ใครได้มีโอกาสขึ้นเรือลำนี้จะต้องมาลิ้มลองกันให้ได้ค่า
 
 
 
 
 
Chef’s Table เป็นห้องรับประทานอาหารส่วนตัว ห้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของห้องอาหาร Chops Grille รองรับแขกได้เพียง 16 ท่านเท่านั้นค่ะ  ทุกท่านจะได้รับประทานอาหาร 6 ครอสทุกคืน ที่เชฟจัดให้ทานคู่กับไวน์รสชาติดี เมนูอาหารจะแตกต่างกันไป แล้วแต่เชฟจะเป็นผู้รังสรรค์ค่า แขกจะใช้ระยะเวลาในการรับประทานประมาณ 3 ชั่วโมง ห้องอาหารแห่งนี้ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้น มีค่าใช้จ่ายต่อท่าน $85 เหรียญ และการแต่งกายเน้นแบบเป็นทางการค่า 
 
 
 
 
 
Izumi Japanese Cuisine ตั้งอยู่ชั้น 5 เปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวัน 12:00-13:30 น. และมื้อค่ำเวลา 18:00-21:30 น. เป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ รสชาติอาหารแบบต้นตำหรับแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ร้านนี้ถือเป็นร้านยอดนิยมที่สุดก็ว่าได้ เมนูมีทั้ง ชูชิ ซาซิมิ สุกิยากิ โรลแซลมอนกับเนื้อปู อุด้งกุ้งกับไก่ และข้าวปั้นหน้าต่างๆ เมนูย่างอื่นๆ ทั้งไก่ เนื้อ และยังมี สลัดวาซาเมะ รวมไปถึงอาหารทะเลระดับพรีเมียม กุ้ง ปลาไหล ปลาทูน่า และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับห้องอาหารพิเศษนี้ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้นค่า  
 
 
 
 
 
Wonderland’s Dadong ตั้งอยู่ชั้น 5 เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 21.30 น. สามารถรองรับแขกได้ 62 ที่นั่ง เป็นห้องอาหารจีนสุดพิเศษ คิดค่าบริการต่อท่าน ที่ห้องอาหารแห่งนี้ได้ฝีมือจากเชฟชื่อดังอย่าง Dong Zhenxiang เป็นผู้รังสรรค์เมนูอาหารรสเลิศ ห้องอาหารแห่งนี้ต้องทำการจองล่วงหน้าค่า ความพิเศษอยู่ที่พนักงานจะนำเมนูอาหารมาให้กับแขกทุกท่าน โดยเป็นเพียงกระดาษที่ว่างเปล่าอยู่ในแป้นกระดานกรอบสีทอง พร้อมกับ พู่กัน 1 ด้าม แขกสามารถจุ่มพู่กันในน้ำ และระบายในแป้นเมนู จากนั้นเมนูทั้งหมดก็จะปรากฏขึ้นค่า ห้องนี้ยังมีสไตล์การตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร เสมือนอยู่ในโลกของเทพนิยายค่ะ เต็มไปด้วยศิลปะมากมาย รวมถึงหน้าตาอาหารที่มีการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน สวยงามน่ารับประทานเป็นที่สุด ถือเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนต้องลองมาสัมผัสให้ได้ค่า
 
 
 
Noodle Bar ตั้งอยู่บนชั้น 14 ห้องอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น. มีเมนูอาหารตามสั่ง Noodle Bar จะอยู่ติดกับโซนสระว่ายน้ำ และ Johnny Rockets นั่นเองค่า ร้านอาหารนี้สไตล์การตกแต่งแบบไชนิส ประดับประดาด้วยโคมสีแดง และมีรูปภาพหมีแพนด้าที่เป็นเอกลักษณ์งดงามเป็นที่สุด เมนูยอดนิยม เช่น ติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ตบท้ายด้วยเมนูของหวานอีกมากมาย หากใครที่ต้องการใช้บริการรูมเซอร์วิส ที่นี่จะคิดค่าบริการที่ 7.95 เหรียญ ค่า 
 
 
 
Vintages ตั้งอยู่บนเรือสำราญชั้น 5 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มไวน์ ที่นี่ยังเปิดให้บริการสำหรับนักชิมไวน์ทั้งหลายได้มาลองเทสรสชาติ  อีกทั้งยังมีเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยให้ทานเบาๆ เสิร์ฟคู่กับไวน์ชั้นเยี่ยม ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับไวน์ พร้อมกับการบริการที่เหนือระดับจากพนักงานอีกด้วยจ้า 


 
 
 

 

 
บริการ Room Service 



    • บริการส่งอาหารให้ถึงห้องพักของท่านฟรีตามเมนู Room Service ในระหว่างเวลา 06.00 น. - 24.00 น.
 
    • หากใช้บริการนอกเวลาที่กำหนดไว้จะมีค่าบริการครั้งละ $7.95 และค่า Service Charge อีก 18%



 

 
 
 
 
 

แนะนำเครื่องเล่นใหม่ และส่วนบริการบนเรือ

 
 
 
RipCord by iFly เครื่องเล่นดิ่งผสุธาจำลองเอาให้มันส์กันสุดเหวี่ยง ตั้งอยู่บนชั้น 16 อีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรค่าแก่การมาลองเล่นค่า บอกได้คำเดียวว่าสนุกสุดๆ ไปเล๊ยยย อิอิ
 
 
 
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี SeaPlex ตั้งอยู่บนชั้น 15, 16 บนเรือ ที่นี่เปรียบเสมือนลานกีฬาในร่ม เหมาะสำหรับทำกิจกรรมสนุกๆ ไปพร้อมๆ กันทั้งครอบครัว ลานนี้สามารถเล่นได้ทั้งบาสเก็ตบอล ฟุตบอล ปิงปอง หรือเปลี่ยนเป็นลานสเก็ตก็สนุกไม่แพ้กัน รวมถึงกิจกรรมยอดนิยมอย่าง รถบั๊ม ที่มีรถทั้งหมด 18 คัน เรียกเสียงกรี๊ดกันแบบรัวๆ ลานแห่งนี้ยังสามารถเปลี่ยนเป็นฟลอร์เต้นรำในยามค่ำคืนได้อีกด้วยค่า
 
 
 
Bionic Bar หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ที่คอยชงเครื่องดื่มให้เราได้ดื่มกันทั้งวันทั้งคืน ถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำบนเรือสำราญ ตั้งอยู่บนชั้น 5 นะคะ 
 
 
 
อีกหนึ่งความพิเศษของเรือ Spectrum of the Seas คือ โซน Royal Esplanade ที่ตั้งอยู่บนชั้น 4 และ 5 เอาใจขานักช็อป ด้วยการเนรมิตถนนสายช็อปปิ้งถึงสองชั้น มีสินค้าปลอดภาษี และสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้เลือกหลากหลาย หากใครที่กำลังมองหา น้ำหอม เครื่องประดับ แว่นตา นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และของที่ระลึกต่างๆ มากันได้ที่  Royal Esplanade ได้เลยจ้า
 

 

 
เรามากันถึงช่วงสุดท้ายของการแนะนำเรือลำใหม่ลำนี้แล้วค่ะ 
 
 
 
ขอบคุณที่กรุณาติดตามการแนะนำเรือสำราญ Odyssey of the Seas ลำนี้ของทีมงานค่ะ หากคุณๆ