ภาพรวมของ Seabourn Odyssey

หากจะพูดถึงเรือที่มีความใหม่และทันสมัย คงอดที่จะพูดถึงเรือสุดหรูอย่าง Seabourn Odyssey ไม่ได้ เพราะเป็นเรืออีกหนึ่งลำที่ภายในตัวเรือมีการตกตกแต่งที่หรูหราในสไตล์ที่ผสมผสานกับความคลาสิค จัดว่าเป็นเรืออันดับ Top 3 ของเรือสำราญขนาดเล็กที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 200 คน แต่ในปัจจุบันได้ปรับปรุงพื้นที่อื่นๆ บนเรือสำราญให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งบริเวณระเบียงส่วนตัวไปจนถึงดาดฟ้าและสปาที่กว้างขวาง ในปัจจุบันสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 450 คน ถือเป็นเรือสำราญที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด ในขณะที่ภายนอกจะเน้นความเรียบง่ายซึ่งผสมผสานกันอย่างลงตัว 

Seabourn Odyssey มีบริการและกิจกรรมความบันเทิงที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิเช่น สปา การแสดงดนตรีสด หากบางคนชอบแดนซ์ หรือบางคนชอบเต้นรำจังหวะเบาๆ บนเรือสำราญลำนี้ก็จัดให้ได้เช่นกันค่ะ หากต้องการพักผ่อนหรือมีมุมสบายๆ ในระหว่างวันก็สามารถทำได้ อาทิเช่น ห้องสมุดและห้องคอมพิวเตอร์ มีทั้งชาและกาแฟก็มีให้ทานพร้อมเลยค่ะ

พร้อมหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วเราลองมาทำความรู้จักกับเรือลำนี้กันเลย

 

Seabourn Ship

 

 

เส้นทางล่องเรือทั่วโลก

 

โปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวของ เรือสำราญ Seabourn Odyssey

  • เส้นทางท่องเที่ยวของ เรือสำราญ Seabourn Odyssey เรียกได้ว่าครอบคลุมเกือบทุกภูมิภาค ได้แก่  แถบทะเลแคริบเบียน เมดิเตอร์เรเนียน ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ช่องแคบปานามาและอเมริกากลาง  
  • ระยะเวลาเดินทางส่วนใหญ่ ตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป 
  • เรือสำราญ Seabourn Odyssey จะออกจากท่าเรือหลัก ๆ ได้แก่ Bridgetown, Barcelona, Athens/Piraeus, Venice/Italy, Lisbon, Monte Carlo, Miami,  เป็นต้น
  • สำหรับผู้ที่รักการเดินทาง และหลงไหลในความหรูหราของ Seabourn Odyssey

 

ขอต้อนรับทุกท่านสู่เรือสำราญ Seabourn Odyssey

 

เชิญชมคลิปบรรยากาศในเรือกันค่า

  

ข้อมูลตัวเลข

 

 

ไลฟ์สไตล์และกลุ่มผู้โดยสารของ Seabourn Odyssey

 

เรือสำราญ Seabourn Odyssey จะดึงดูดนักเดินทางล่องเรือสำราญ ที่มีอายุโดยเฉลี่ย 50 ปีขึ้นไป เรือลำนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบท่องเที่ยวคนเดียวและเหมาะกับกลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกัน นักเดินทางส่วนใหญ่จะมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อแฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์  

 

จุดเด่นของ Seabourn Odyssey

  • เรือหรูของ Seabourn Odyssey จะมีห้องสวีทไม่เกิน 225 ห้อง
  • เส้นทางการล่องเรือที่หลากหลาย และสามารถแล่นไปในสถานที่ที่สวยงามอันถูกซ่อนอยู่ในจุดที่เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้
  • บริการที่ยอดเยี่ยมจากพนักงานที่ตอบสนองความพึงพอใจแก่แขกที่มาพัก และออกเดินทางล่องเรือไปกับ Seabourn Odyssey 
  • ห้องพักที่กว้างขวางพร้อมห้องน้ำในตัว ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเล ห้องส่วนใหญ่จะมีระเบียงส่วนตัว อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในห้องน้ำที่ได้มาตรฐานของ Molton Brown ประกอบด้วยแชมพู ครีมนวด โลชั่นบำรุงผิว สบู่สุดพิเศษจากแบรนด์ Hermes, L'Occitane เป็นต้น
  • มีบาร์เปิดตลอด และมีไวท์ชั้นดีให้แขกทุกท่าน เสิร์ฟพร้อมกับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
  • ฟรี อาหารรสเลิศและแชมเปญ  (ไม่จำเป็นต้องเสียค่าทิปใดๆ ทั้งสิ้นพนักงานยินดีที่จะให้บริการสำหรับแขกทุกท่าน 

 

 

ความพิเศษของ Seabourn Odyssey

มี 4 ร้านอาหาร บาร์ และมีเลานจ์ที่เปิดโล่ง

สระน้ำวนและ 2 สระสำหรับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง

Seabourn Square  เลานจ์อเนกประสงค์ ที่มีทั้งห้องสมุด คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงคอฟฟี่บาร์อีกด้วย

มีร้านอาหารพิเศษให้เลือก อาทิ Restaurant, The colonnade, The restaurant 2

สปาและห้องฟิตเนสแบบเต็มรูปแบบ ร้านเสริมสวย บาร์ และมีห้องรับรองอีกหลายแห่งภายในเรือ

 

ห้องพักสำหรับแขกของ Seabourn Odyssey

  • ทุกห้องจะได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ภายในห้องพักจะมีห้องอาบน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว เสื้อคลุมอาบน้ำ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • โทรทัศน์จอแบน เครื่องเสียงระบบ Bose Wave, บาร์ เครื่องดื่มฟรี ที่จะมีพนักงานคอยเติมตลอดทุกวัน
  • เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ในห้องครัวสำหรับห้องสวีท
  • บริการอินเตอร์เน็ต
  • รถรับส่งสนามบินฟรี (ไม่สามารถใช้กับการอัพเกรด)
  • หนังสือพิมพ์รายวันส่งถึงห้องพัก
  • Wellness Bag กระเป๋าสำหรับใส่ชุดและอุปกรณ์การออกกำลังกาย ง่ายต่อการพกพา

 

สถานที่หลัก บนเรือสุดหรู Seabourn Odyssey

1.  Grand salon เป็นห้องหลักที่สามารถรองรับแขกทุกท่านบนเรือสำราญ ในระหว่างวันเป็นสถานที่สำหรับการบรรยายและในช่วงเย็นสำหรับการแสดงต่างๆ และมีดนตรีสดให้แขกได้เพลิดเพลิน

2.  Observation Bar เป็นเลาจน์วงเวียนขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ และเป็นจุดที่เยี่ยมยอดในการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม

3.  Sky Bar จุดนี้สามารถมองเห็นวิวบนดาดฟ้า และเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการนัดพบปะกับเพื่อน

4.  The Club แขกสามารถมาจิบชาในยามบ่ายได้ที่นี่

5.  The Casino กิจกรรมสำหรับนักเสี่ยงโชค

6.  Patio Bar แขกสามารถเพลิดเพลินกับบริการเครื่องดื่ม ค็อกเทลและไวน์

7.  The Retreat สำหรับแขกที่ต้องการความเงียบสงบและผ่อนคลาย

8. Seabourn Square ห้องนั่งเล่นที่แสนสบายเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Seabourn

9. The Shops at Seabourn เพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์หรู อาทิ เครื่องสำอาง นาฬิกา เครื่องประดับ และอื่นๆ 

10. The Spa at Sebourn & Salon ผ่อนคลายไปกับการนวด สปาแห่งนี้ถูกการันตีด้วยรางวัลมากมาย และแขกทุกท่านจะได้รับการบริการที่ดีจากนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ภายใต้คำแนะนำจาก Dr.Andrew Weil

 

ห้องพัก

  • เรือสำราญลำเล็กสุดหรูลำนี้ถูกออกแบบให้มีห้องสวีทไม่เกิน 300 ห้อง ภายในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น
  • ทุกห้องจะได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ภายในห้องพักจะมีห้องอาบน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว เสื้อคลุมอาบน้ำ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ
  • โทรทัศน์จอแบน เครื่องเสียงระบบ Bose Wave, บาร์ เครื่องดื่มฟรี ที่จะมีพนักงานคอยเติมตลอดทุกวัน
  •  เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ในห้องครัวสำหรับห้องสวีท
  • รถรับส่งสนามบินฟรี (ไม่สามารถใช้กับการอัพเกรด)
  • หนังสือพิมพ์รายวันส่งถึงห้องพัก
  • Wellness Bag กระเป๋าสำหรับใส่ชุด และอุปกรณ์การออกกำลังกาย ง่ายต่อการพกพา

 

ห้องพักแบบ Wintergarden Suite 

เป็นประเภทห้องที่หรูหราและราคาแพงที่สุดตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้น 7 มีพื้นที่ภายใน 914 ตารางฟุตและระเบียงส่วนตัวกว้าง 138 ตารางฟุต โดดเด่นด้วยทำเลที่เป็นส่วนตัว ภายในห้องพักมีห้องรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง มี Sofa Bed แบบปรับนอนได้ในห้องนอน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำวนพร้อมน้ำอุ่น มีห้องเตรียมอาหารพร้อมบาร์เครื่องดื่ม ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้และโทรทัศน์จอแบน 2 จอ สิ่งที่ทำให้ห้องสวีทนี้แตกต่างออกไปไม่เพียงแค่เรื่องขนาดและความหรูหรามากกว่าห้องประเภทอื่นๆ ของเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังมีห้องกระจกเปิดโล่งด้านบนกับอ่างอาบน้ำรูปไข่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้กระถางที่ทำให้บรรยากาศในการอาบน้ำมีความแปลกใหม่ รวมถึงห้องนั่งเล่นอันแสนอบอุ่นด้วย

ห้องสวีท Wintergarden มีเพียง 2 ห้องเท่านั้น และทั้งสองห้องสามารถคอนเน็กกับห้องสวีท Veranda Suite ในแบบที่เรียกว่า Grand Wintergarden Suite ได้ และจะทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,189 ตารางฟุต พร้อมระเบียงส่วนตัวที่รวม 2 ห้องเข้าด้วยกัน ขนาด 214 ตารางฟุต ตลอดจนห้องอื่นๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วยเช่นกัน

 

 

ห้องพักแบบ Signature Suite

ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้น 7 มีขนาดพื้นที่ 859 ตารางฟุตและระเบียงส่วนตัวกว้าง 493 ตารางฟุต ลักษณะเป็นห้องโค้งที่มองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลชัดเจน มีห้องรับประทานอาหารสำหรับ 4-6 กับห้องเตรียมอาหารพร้อมบาร์เครื่องดื่ม ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้และทีวีจอแบน 2 จอ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำวนและฝักบัวอาบน้ำ เรียกว่าเป็นห้องสวีทประเภทที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่นสำหรับการรับลมทะเลและชมวิวมากที่สุดแล้ว

 

ห้องพักแบบ Owners Suite

Owners Suites ตั้งอยู่ด้านหน้าและตรงกลางบนชั้น 6, 7 และ 8 มีขนาดพื้นที่ภายในระหว่าง 526 และ 593 ตารางฟุต ระเบียงส่วนตัวมีขนาดตั้งแต่ 133-354 ตารางฟุต ข้างในห้องพักมีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำและที่อาบน้ำแบบฝักบัว มีทีวีจอแบน โต๊ะอาหารสำหรับ 4 ท่านและห้องเตรียมอาหารพร้อมบาร์เครื่องดื่ม

 

ห้องพักแบบ Penthouse Suite and Penthouse Spa Suite

ห้องสวีทแบบเพ้นท์เฮ้าส์ ตั้งอยู่บนชั้น 6,9 และ10 ภายในมีขนาดกว้าง 436 ตารางฟุตและระเบียงส่วนตัวความกว้าง 98 ตารางฟุต ห้องนี้เป็นห้องสวีทที่ห้องนอนแยกออกจากพื้นที่ใช้สอยอื่นโดยใช้ฉากกระจกกั้นซึ่งจะเป็นการแบ่งสัดส่วนที่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นอีก มีผ้าม่านสีช็อคโกแลตที่ดูหรูหราและมีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ท่าน ทีวีจอแบน 2 จอ

ห้องสวีทแบบเพ้นท์เฮ้าส์ สปา ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้น 10 และสามารถเข้าถึงได้โดยบันไดวนไปยังพื้นที่บริการสปามี ภายในห้องกว้าง 539 ตารางฟุต มีระเบียงส่วนตัวกว้าง 167 ตารางฟุต ห้องเหล่านี้มีมินิบาร์ในตัวพร้อมเครื่องดื่ม น้ำผลไม้และอาหารว่างเพื่อสุขภาพ มีน้ำหอมปรับอากาศของ  L'Occitane และซาวน์แทร็คเพลงธรรมชาติที่สามารถเปิดฟังเพื่อผ่อนคลายได้ ที่สำคัญที่สุดคืออยู่ใกล้กับสปาและไปใช้บริการได้อย่างสะดวกสบายเหมือนเป็นสปาส่วนตัว

 

ห้องพักแบบ Varanda Suite 

ห้องสวีทแบบ Veranda Suites ตั้งอยู่บนชั้นที่ 5, 6, 7, 8 และ 9 พื้นที่ภายในห้องมีขนาด  300 ตารางฟุตและมีระเบียงส่วนตัวขนาด 65 ตารางฟุต ที่เพียงพอสำหรับเก้าอี้กลางแจ้งและที่วางเท้า 2 ที่ พร้อมด้วยโต๊ะสำหรับการรับประทานอาหาร ภายในห้องพักมีขนาดกว้างขวางพร้อมพื้นที่เก็บของมากมายในแบบที่สามารถเดินไปรอบๆห้องได้โดยไม่อึดอัด มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน โคลเซท ตู้เซฟและลิ้นชักเก็บข้างเตียงด้วย

 

อย่างที่บอกว่าเรือสำราญ  Seabourn Odyssey เป็นเรือสำราญขนาดเล็กสุดหรูที่มีความสมบูรณ์แบบ ผู้โดยสารทุกท่านจะได้รับประสบการณ์อันสุดพิเศษ ที่ไม่น่าเบื่อ เพราะบนเรือลำนี้มี สปา และ ห้องฟิตเนส แบบเต็มรูปแบบ และร้านเสริมสวย บาร์ และมีห้องรับรองอีก 7 แห่งภายในเรือ เราลองมาดูภาพต่อไปนี้กันเลยค่า

1. The Retreat สำหรับแขกที่ต้องการความเงียบสงบ และผ่อนคลาย

 

2. The Spa at Sebourn & Salon ผ่อนคลายไปกับการนวด สปาแห่งนี้ถูกการันตีด้วยรางวัลมากมาย และแขกทุกท่านจะได้รับการบริการที่ดีจากนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่อยู่ภายใต้คำแนะนำจาก Dr.Andrew Weil

 

 3. Fitness Center แบบเต็มรูปแบบพร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ครบครัน

 

4. The Collection  เพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้ง สินค้าแบรนด์หรู อาทิ เครื่องสำอาง นาฬิกา เครื่องประดับ และอื่นๆ 

 

5. Seabourn Square  เลานจ์ ที่มีการตกแต่งที่สวยงาม น่านั่งผ่อนคลาย พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ เป็นอีกหนึ่งมุมสงบที่สุดแสนจะลงตัว ตอนเช้าทุกท่านจะได้พบกับขนมหวานและครัวซองต์ พร้อมเครื่องดิ่มเล็กๆน้อยๆ และในตอนบ่ายก็จะมีแซนด์วิช น้ำชาและขนมอบรวมทั้งไอศกรีม มีบริการกาแฟและไวน์ตลอดทั้งวันเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9:00 ถึง 11:00 ในช่วงเช้า และช่วงบ่าย เวลา 16.00-18.00 เท่านั้น ไม่เปิดบริการตอนกลางคืน

 

6. The Observation Bar  เป็นเลาจน์ที่สวยงาม พร้อมกับบาร์สี่เหลี่ยม  ที่สามารถมองเห็นทัศนีย์ภาพ และ เป็นจุดที่เยี่ยมยอดในการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มีชาและกาแฟเสิร์ฟในตอนเช้า เห็นแล้วชักจะอยากหายตัวแล้วไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่นี่แล้วสิคะ 

บริเวณ Observation Lounge เริ่มตั้งแต่ เวลา 16.00 อีกทั้งยังมีกาแฟและขนม เป็นมื้อเช้าให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06.15 ถึง 08.00  

 

7. The Casino กิจกรรมสำหรับนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานท่ี ที่ดึงดูดนักแสวงโชคจากทั่วทุกมุมโลกให้มารวมตัวกันที่นี่

 

8. Grand Salon โชว์รูมหลักของเรือสำราญ ใช้สำหรับการพบปะสังสรรค์ในช่วงเวลาการวัน และยังเป็นห้องชมภาพยนต์ และ ก่อนการรับประทานอาหารในช่วงค่ำก็จะมีการแสดงโชว์คาบาเร่ต์ตลกต่างๆ รวมถึง ดนตรีสดและการเต้นรำ อื่นๆ 

 

9. Sky Bar จุดนี้สามารถมองเห็นวิวบนดาดฟ้า และเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการนัดพบปะกับเพื่อน ๆ และในยามค่ำคืนจะเป็นจุดที่สวยมาก ด้วยแสงไฟที่มีการไล่สีที่สวยงาม ส่องกระทบกับแสงดาวบนท้องฟ้า เลิศมากค่า

 

 10. The Club แขกสามารถมาจิบชาในยามบ่ายได้ที่นี่ 

 

11. The Evening under the stars  สำหรับผู้ที่หลงไหลเสียงดนตรี และ การเต้นรำ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยดวงดาวนับแสนล้านดวงค่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบนึงไปเลย (อิจฉา อยากไปแล้ว)

 

เมนูอาหารจากเชฟชื่อดังระดับโลก

อาหารเลิศรสระดับมิชลินสตาร์ มีมาเสิร์ฟให้ผู้โดยสารถึงที่บนเรือสำราญสุดหรู การใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และเลือกนำเสนออาหารพื้นเมืองตามฤดูกาล ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของเรือสำราญ Seabourn Odyssey

 

1. มี 4 ร้านอาหารพิเศษ ให้เลือก อาทิ The Grill by Thomas Keller, The Restaurant, The Colonnade เป็นต้น

 

 

2. The Restaurant

 

3. The Colonnade เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่มีการตกแต่งสไตล์ที่สวยงาม ห้องที่กว้างขวางและเปิดโล่ง ให้บรรยากาศที่สบายๆ พร้อมกับอาหารเลิศรสที่มีให้แขกได้รับประทาน ในมื้อเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ ค่ะ

 

4. The patio Bar ผู้โดยสารสามารถเพลินเพลินกับบริการเครื่องดื่ม ค็อกเทล และไวน์ ที่ชั้นดาดฟ้า (อยากหายตัวไปที่นี่อีกแล้ว)

 

5. Sky Bar/Grill  จุดนี้สามารถมองเห็นวิวบนดาดฟ้า และเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการนัดพบปะกับเพื่อน ๆ พร้อมรับเครื่องดื่มเป็นค็อกเทลเย็น ๆ และที่นี่ยังมีอาหารตามฤดูกาล เช่น สเต็กย่างหอมกรุ่น และ กุ้งล็อบสเตอร์ ในมื้อเย็น ให้รับประทานอีกด้วย ค่ะ

 


6. Seabourn Square ห้องนั่งเล่นที่แสนสบาย บวกกับคอฟฟี่บาร์ กาแฟรสชาติดีเยี่ยม แซนวิช และสแน็ค ที่มีให้ทานกันตลอดทั้งวัน

 

7. Shopping with the Chef  อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนน้นว่าเรือสำราญ Seabourn Odyssey โดดเด่นในเรื่องอาหารชั้นเลิศ ที่ถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มเรือสำราญที่มีบริการเรื่องอาหารและไวน์เป็นเลิศที่สุด ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ ยังมีอาหารท้องถิ่นที่ทาง Seabourn Quest จัดให้แขกได้รับประทาน 

นอกจากนี้ Seabourn Odyssey ยังได้จัดโปรแกรมทัวร์ชายฝั่ง ที่เน้นในเรื่องของการรับประทานอาหารท้องถิ่น เมื่อพูดถึงอาหารและไวน์ ต้องบอกเลยว่าเขามีเชฟผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ และ สาธิตการทำอาหาร ให้กับนักชิมที่ชื่นชอบด้วยค่า 

อย่างรูปที่เห็น สามารถเลือกไปช็อปปิ้งชิวๆ กับเชฟได้เลยค่ะ 

8. 6 Outdoor Whirlpools สระน้ำวน แช่ตัววนไปค่ะ  เป็นสถานที่ยิดนิยมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการผักผ่อน และผ่อนคลาย 

 

9. 2 Swiming Pool มี 2 สระสำหรับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เป็นกิจกรรมระหว่างวัน ที่สามารถาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ( เห็นแล้วอยากจะกระโดดลงสระให้น้ำกระจายไปเลย )

 

10. Watersports Mariner กิจกรรมสุดพิเศษ เพลิดเพลินไปกับวัน สนุกกับการพายเรือคายัง และสนุกกับการนั่งบนเรือใบ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

 

11. 9 Hole-putting course สำหรับผู้ หลงไหลกีฬา อย่างการตีกอล์ฟ บนเรือสำราญ Seabourn Sojourn จะมีหลุมกอล์ฟมินิทั้งหมด 9 หลุม ตั้งอยู่ในชั้น 11 ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากค่ะ 

เอาหล่ะค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังจากได้ทำความรู้จักกับเรือสำราญ Seabourn Odyssey แล้ว คงต้องมีใครสักคนที่ต้องการแพ็คกระเป๋าเดินทางแน่ๆ

 

 

Beth: 2017-10-15