การท่องเที่ยวทุกรูปแบบ เริ่มต้นมาจากปัจจัยหลายอย่าง จนก่อให้เกิดเป็นเทรนด์สำหรับนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบทัวร์ หรือ Road Trip ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสำหรับการท่องเที่ยวล่องเรือสำราญนั้นก็มีเทรนด์ที่น่าสนใจหลายๆ อย่างให้ติดตามไม่แพ้กัน ไม่แน่ถ้าอ่านจบแล้ว อาจจะปุ๊ปปั๊ปโทรจองทริปล่องเรือสำราญไปท่องขั้วโลก ชมแสงเหนือ ดื่มด่ำกับความหนาวที่ใกล้จะมาถึงในสิ้นปีนี้เลยก็ได้น้า

1. การล่องเรือท่องเที่ยวแบบ Instagrammable

การโพสต์ Instagram ในขณะกำลังล่องเรือสำรวจนั้นกำลังเป็นที่น่าสนใจในหมู่นักเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก จำนวนการโพสต์ในแต่ละวันสูงขึ้นเฉลี่ยราว 351,000,000 ต่อวัน สำหรับโพสต์ติดแท็ก #travel ทำให้ผู้ที่มาล่องเรือสามารถแชร์การท่องเที่ยวสุดวิเศษแก่ Follower และ User Instagram บน Feed เต็มไปด้วยประสบการณ์การเดินทางที่มีความหลากหลายบนเรือและบนบกตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เรือล่องไปเทียบท่า รับรองว่ามีรูปสวยๆ ไว้อวดผู้ติดตามกันไปอีกหลายเดือนเล้ย!

2. การพักผ่อนอย่างเต็มที่

วิธีคลายเครียดที่รวดเร็ว เครียดจากชีวิตจากชีวิตการทำงาน หรือ การใช้ชีวิตรูปแบบเดิมๆ ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวนั้นกำลังเริ่มมองหาวิธีการที่จะหลบหลีกความเครียดจากความรับผิดชอบในหน้าที่ต่างๆ ของชีวิตประจำวัน หลายๆ คนกำลังตามหารูปแบบการพักผ่อนที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการเดินห้าง หรือ ช้อปปิ้งในใจกลางเมืองอันวุ่นวาย การท่องเที่ยวแบบล่องเรือสำรวจเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทาง ไม่ต้องขับรถเอง ไม่ต้องต่อรถไฟ หรือขึ้นรถลงเรือ ครบจบในที่เดียว เพราะสายเรือจะนำเสนอบริการเหนือระดับ ในรูปแบบของประสบการณ์การท่องที่นักท่องเที่ยวยากจะปฏิเสธ ทั้งบริการด้านสุขภาพที่ชาวออฟฟิศใฝ่ฝันในรูปแบบของสปา และออกซิเจนบาร์ออนบอร์ด รวมถึงความหลากหลายของเมนูอาหารสำหรับคนรักสุขภาพและการออกกำลังกาย

3. ความสำเร็จที่มากกว่าการเรียนรู้ คือประสบการณ์

การเดินทางแบบเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ถูกพัฒนาไปสู่การประสบความสำเร็จในการเดินทาง เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวกำลังมองหา สิ่งที่มากกว่าการดื่มด่ำวัฒนธรรม หรือเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ  การมี Bucket List เป็นเป้าหมายที่แน่ชัด เหมาะสำหรับการล่องเรือที่สามารถตอบโจทย์เหล่านั้นได้แน่นอน โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถไปพิชิต Machu Picchu ในขณะที่เข้าครอสเรียนทำอาหารกับพ่อครัวจาก Le Cordon Bleu ได้ มากกว่าการเดินทาง หรือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และการเรียนรู้นะคะ ^^

4. สมาร์ทเทคออนบอร์ด

ทุกวันนี้สายเรือต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีที่เข้ามาเพิ่มเติมในบริการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ, สร้อยคอ, กำไล และอื่น ๆ ที่คอนเนคกับเทคโนโลยีได้ตลอดเวลาการเข้าพัก และตลอดการเดินทางไปกับสายเรือนั้นๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการเดินทางที่ทันสมัยเป็นส่วนตัวทั้งในขณะที่อยู่บนเรือ และระหว่างการท่องเที่ยว

5. เที่ยวครบในครั้งเดียว

นักท่องเที่ยวปัจจุบันต้องการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ใส่ใจมากขึ้น อุตสาหกรรมการล่องเรือท่องเที่ยวเริ่มมีส่วนร่วมในการเข้ารับผิดชอบต่อสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้นกว่าที่เคย มีการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อปกป้องวัฒนธรรม ที่สำคัญต่างๆ และมีการส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังร่วมมือกับปลายทาง หรือ แหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ เพื่อผลประโยชน์ในการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจท้องถิ่นไปพร้อมกับการปกป้องวัฒนธรรมท้องถิ่นสถานที่และสภาพแวดล้อม ไม่เพียงแต่กินหรูอยู่สบาย แต่ได้เรียนรู้ ศึกษา และรักษาวัฒนธรรมกับสิ่งแวดล้อมไปด้วย เยี่ยมยอดที่สุดเลย!

6. การเข้าถึงความหรูหราในรูปแบบใหม่

นักท่องเที่ยวส่วนมากจะตั้งจุดหมายปลายทางไปยังสถานที่ที่เคยยากจะเข้าถึง หรือที่สามารถเข้าถึงได้โดยการล่องเรือเท่านั้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องการที่จะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนแรกๆ ที่จะได้สัมผัสกับสถานที่เหล่านั้นเช่น หมู่เกาะกาลาปากอส และแอนตาร์กติกา เป็นต้น แน่นอนว่า ยิ่งแปลก ยิ่งยาก สายเลือดนักเดินทางต้องอยากพิชิตก่อนใครอยู่แล้ว >.<

7. Gen Z at Sea

คน Gen Z ถูกยกให้เป็นรุ่นของกลุ่มผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในสองปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งเหล่า Millennials เช่นเดียวกับเจนเนอร์ชั่นก่อนหน้านี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ชอบที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง (Authentic Experiences) มากกว่าวัตถุที่ไม่สามารถจับต้องได้ และมีความต้องการมากกว่าในความอยากรู้ อยากลอง อยากเห็นหลายๆ สถานที่ท่องเที่ยว และพร้อมที่จะสัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น เทศกาลดนตรีในทะเล เป็นกิจกรรมที่ช่วยดึงดูดนักล่องเรือสำราญรุ่นใหม่ๆ

8. ผจญภัย Once In A Lifetime

ฤดูกาล off-peak จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสถานที่เพื่อหลบหนีความหนาวเย็นไปยังประเทศเขตร้อน หรือจะเลือกไปโอบกอดความหนาวในจุดหมายปลายทางใหม่ๆ การล่องเรือนั้นจะเสนอประสบการณ์ที่เรียกว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต หรือ Once In A Lifetime” ในช่วงตลอดฤดูหนาว การเดินทางเพื่อไปสำรวจแสงเหนือ เยี่ยมชมฝูงนกเพนกวิน และการท่องเที่ยวตลาดในช่วงคริสต์มาสของทวีปยุโรป ต้องลองไปสัมผัสกับความโรแมนติกในฤดูหนาวสักครั้งค่ะ

9. การทำงานแบบ Nomads

การผสมผสานการทำงานร่วมกับการใช้เวลาว่างที่เพิ่มมากขึ้น การท่องเที่ยวแบบนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ หรือ“ดิจิตอลโนแมด” กำลังแพร่หลาย กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาทำงานด้วยเทคโนโลยี เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องจำเจอยู่กับออฟฟิศ แต่สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับการทำงานได้ ซึ่งสำหรับการเดินทางแบบทั่วไปอาจจะมีผลกระทบต่อการเชื่อมต่อสื่อสาร ทำให้ส่งผลกระทบต่อเนื้องานและเงินเดือน แต่สำหรับการล่องเรือท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อด้วยอินเตอร์เน็ตไร้สาย รวมทั้งยังมีโต๊ะทำงาน ร้านกาแฟ ที่พร้อมให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ที่จะไม่พลาดทั้งงาน และความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว

10. ผู้หญิงคือศูนย์กลางในการล่องเรือ

ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เป็นเพศหญิงกำลังเติบโตขึ้น หลายองค์กรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และบริษัทการท่องเที่ยวต่างๆ มีการสร้างสรรค์ให้ผู้หญิงเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว ตามความสนใจและการเชื่อมต่อสื่อสารของผู้หญิงกับเหล่าสาวๆ  เช่น โซเชี่ยลมีเดียที่ตามสถิติแล้ว เพศหญิงจะมีการใช้ แชร์ และเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้มากกว่าเพศชาย การท่องเที่ยวแบบผู้หญิงๆ สามารถเพิ่มขีดความสามารถของเหล่าสาวๆ ได้ การจับกลุ่ม หรือสร้างกลุ่มล่องเรือท่องเที่ยวแบบเพื่อสาวทำให้ผู้หญิงได้ออกไปสัมผัสกับโลกรอบตัว ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ ของสตรีนิยมที่มีชื่อเสียง

11. การเดินทางคนเดียว

Now I’m Going SOLO มาในคอนเซปต์ เจนนี่ แบล็คพิ้งค์ เลิศๆ เชิดๆ กันเลยทีเดียวจากการค้นหาใน Google ที่เพื่มมากขึ้นสำหรับ “การเดินทางเดี่ยว หรือ Solo Travel และ “เดินทางคนเดียว หรือ Traveling Alone” ที่มากกว่าเมื่อก่อน และการเดินทางคนเดียวกำลังเป็นที่นิยม การล่องเรือนั้นช่วยให้การเดินทางเดี่ยวไม่เป็นเรื่องกังวลอีกต่อไป แม้จุดหมายปลายทางจะไกลมากแค่ไหน และการได้เริ่มต้นรู้จักกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ การสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย คืออีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่น่าลองค่ะ

แหล่งที่มาของข้อมูล: